“พลเอก ประยุทธ์” เป็นประธานเปิดโครงการ HACKaTHAILAND New Normal: Digital Possibilities พร้อมเดินหน้าสร้างความตระหนัก ยกระดับทักษะและองค์ความรู้ด้านดิจิทัลด้วยการมอบประสบการณ์ที่เหนือระดับแก่ประชาชน ผ่านกิจกรรม HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition รวมพลคนรุ่นใหม่ปลดล็อคโจทย์สำคัญเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจประเทศ ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ไปกับกิจกรรม HACKaTHAILAND Competition & Beyond Hackathon ผู้สนใจเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 17 เมษายนนี้ เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ HACKaTHAILAND Venue @TRUE DIGITAL PARK
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานเปิด HACKaTHAILAND โครงการเผยแพร่และกระตุ้นการรับรู้ พร้อมยกระดับทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้สามารถรองรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างเศรษฐกิจยุคนิวนอร์มัล หลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่มาพร้อมแนวคิด New Normal: Digital Possibilities - ดิจิทัลสร้างให้ทุกโอกาสเกิดขึ้นได้ ซึ่งจัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และหน่วยงานพันธมิตร ทั้งจากภาครัฐและภาคเอกชน ณ HACKaTHAILAND Venue @TRUE DIGITAL PARK
พลเอก ประยุทธ์ กล่าวว่า ประเทศไทยกำลังก้าวไปสู่ดิจิทัลไทยแลนด์ในอีก 5 ปีข้างหน้า โดยที่ผ่านมารัฐบาลเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เพื่อให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการพัฒนาดิจิทัลของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN Digital Hub) ขับเคลื่อนการใช้ดิจิทัลสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย เกษตรกร ชุมชน (Digital Transformation) และเตรียมความพร้อมด้าน Big Data เช่น การสร้างนักวิทยาศาสตร์ข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญดิจิทัลทักษะสูง โดยภายหลังผ่านพ้นวิกฤตโควิด-19 รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจ และเตรียมเผชิญกับกระแสความเปลี่ยนแปลงในหลากหลายด้านที่ไม่สามารถควบคุมได้
โดยช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจของประเทศซบเซา เศรษฐกิจดิจิทัลกลับโตสวนกระแส ผู้คนหันมาใช้ดิจิทัลในชีวิตประจำวันมากขึ้น จนหลายอย่างกลายเป็นความปกติใหม่ ดังนั้นประเทศไทยต้องสร้างข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล ผ่านการเตรียมความพร้อมใน 4 มิติ ประกอบด้วย Access หรือการเข้าถึงสื่อดิจิทัล ซึ่งภาคเศรษฐกิจและสังคมต้องมีความตระหนักรู้เรื่องการป้องกันข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ Connectivity การเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยี บุคคล ธุรกิจ และสังคม เตรียมความพร้อมต่อการเชื่อมโยงของเศรษฐกิจและสังคม ทั้งในโลกกายภาพและโลกเสมือน Data ข้อมูลมีขนาดใหญ่ขึ้น สำคัญยิ่งขึ้น ซึ่งประเทศไทยควรเตรียมความพร้อมเพื่อเป็นสังคมที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ขณะเดียวกันต้องเตรียมความพร้อมโครงสร้างพื้นฐานและเทคโนโลยีที่จำเป็นต่อการสร้างอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล รวมถึงการพัฒนาต่อยอดในอนาคต และ Automation ระบบเศรษฐกิจกำลังพัฒนาเข้าสู่ยุคอัตโนมัติ โดยมีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมประสิทธิภาพการทำงานให้กับมนุษย์ อีกทั้งสามารถเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้า ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและเงินทุน
“การส่งเสริมให้ประเทศไทยพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมสู่เป้าหมายการเป็นดิจิทัลไทยแลนด์นั้น ทุกภาคส่วนต้องรวมพลังยกระดับทักษะกำลังคน พลิกโฉมเศรษฐกิจดั้งเดิม เตรียมความพร้อมทำการค้าในโลกยุคใหม่ ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสให้กับทุกคน เพื่อเกิดเป็นสังคมคุณภาพ มีความยืดหยุ่น ปรับตัวรับกับการเปลี่ยนแปลงได้ รวมถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศที่เอื้อต่อการสร้างเศรษฐกิจและสังคมรูปแบบใหม่ ซึ่งทั้งหมดต้องปรับให้เท่าทันกับความเปลี่ยนแปลงของกระแสดิจิทัล” พลเอก ประยุทธ์ กล่าว
ด้าน นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) กล่าวว่า การระบาดของโควิด-19 สร้างความเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผู้คนต้องเร่งปรับพฤติกรรมสู่ชีวิตวิถีใหม่ โดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกแก่ชีวิตประจำวัน การดำเนินธุรกิจ และการศึกษา ดังนั้นประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม ปลอดภัย รองรับการเปลี่ยนผ่านสู่โลกอนาคต รับมือกับทุกความเปลี่ยนแปลง พร้อมเดินหน้าสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างมั่นคง
“กระทรวงดิจิทัลฯ โดย ดีป้า พร้อมด้วยพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จึงจัดทำโครงการ HACKaTHAILAND ขึ้น โดยหวังเป็นส่วนช่วยยกระดับทักษะและองค์ความรู้ด้านดิจิทัลแก่ภาคประชาชน ส่งเสริมให้เกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลต่อยอดธุรกิจให้กับผู้ประกอบการ พัฒนากำลังคนดิจิทัล และเพิ่มศักยภาพแก่ดิจิทัลสตาร์ทอัพไทย ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ร่วมยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขัน เพื่อนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน อีกทั้งแสดงให้นานาประเทศเห็นถึงความพร้อมที่จะก้าวสู่ยุคดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ เกิดความเชื่อมั่น และนำไปสู่การลงทุนในที่สุด” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ กล่าว
ขณะที่ ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าวว่า โครงการ HACKaTHAILAND เกิดจากการทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างความตระหนักและส่งเสริมการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ประชาชนไทย พัฒนาระบบนิเวศน์ธุรกิจของกลุ่มเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างการรับรู้ทั้งภาคเศรษฐกิจและภาคสังคมให้ได้เห็นว่า ‘ดิจิทัลสร้างให้ทุกโอกาสเกิดขึ้นได้’ ผ่าน 3 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย HACKaTHAILAND Learning Platform, HACKaTHAILAND Competition & Beyond Hackathon และ HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition
“สำหรับ HACKaTHAILAND Competition & Beyond Hackathon เป็นกิจกรรมการแข่งขันเพื่อระดมสมองสู่แนวความคิดใหม่ ร่วมไขโจทย์แก้ปัญหาระดับชาติใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ได้แก่ การเกษตร การท่องเที่ยว และการขนส่ง ซึ่งจัดให้มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมความรู้ แบ่งปันประสบกาณ์แก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมโดยวิทยากรพิเศษ ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จากนั้นจะมีการมอบโจทย์ให้ผู้เข้าแข่งขันร่วมนำเสนอแนวคิดต่อคณะกรรมการ ภายในระยะเวลา 168 ชั่วโมง ก่อนคัดเลือก 10 ทีมสุดท้ายที่จะร่วมไขโจทย์ระดับประเทศกับหน่วยงานจริง และจะมีการติดตามการทำงาน รวมถึงผลงานของ 10 ทีมผู้ชนะอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 เดือนหลังการแข่งขัน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีผู้สมัครเข้าร่วมแข่งขันจำนวน 126 ทีม รวม 503 คน โดยแบ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตร จำนวน 28 ทีม อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จำนวน 41 ทีม และอุตสาหกรรมการขนส่ง จำนวน 57 ทีม เริ่มแข่งขันแล้ววันนี้ และจะประกาศผลทีมผู้ชนะในวันที่ 10 เมษายนนี้ต่อไป” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
นอกจากนี้ ในพิธีเปิดโครงการ HACKaTHAILAND ยังมีการมอบรางวัล Prime Minister’s Digital Awards 2021 ใน 5 สาขา โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลฯ เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรีในการมอบรางวัล และการแบ่งปันแนวคิดและประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมการกล่าวสร้างแรงบันดาลใจแก่ผู้เข้าร่วมแข่งขัน HACKaTHAILAND Competition & Beyond Hackathon โดย ดร.ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย)
โครงการ HACKaTHAILAND เริ่มแล้ววันนี้และจะมีไปจนถึงวันที่ 17 เมษายนนี้ ซึ่งผู้เข้าชมงานจะได้รับความรู้จากเวทีเสวนาต่าง ๆ สนุกไปกับกิจกรรมและมินิคอนเสิร์ตจากเหล่าศิลปิน สัมผัสประสบการณ์ด้านดิจิทัล พร้อมถ่ายภาพหรือคลิปวิดีโอสวย ๆ ไปอวดเพื่อน ๆ ใน IG, Facebook, TikTok ฯลฯ ได้กับดิจิทัลแลนด์มาร์กแห่งใหม่ ตื่นตากับ Interactive Lighting 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่ไม่ควรพลาด นิทรรศการ และ Tech Showcase จากเครือข่ายพันธมิตรใน DIGITAL EXPERIMENTAL DISTRICT
ผู้สนใจสามารถเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ HACKaTHAILAND Venue @TRUE DIGITAL PARK และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดระยะเวลา 2 สัปดาห์ได้ที่: LINE Official Account: @depaThailand หรือ Facebook Page: HACKaTHAILAND และ depa Thailand