ขานรับ New Normal ไปญี่ปุ่นไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหา วันนี้ แบรนด์ซีเล็ค ภายใต้ บมจ.ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เอาใจลูกค้าด้วยการสร้างสรรค์เมนูซีเล็คทูน่าชิ้นใหญ่ในซุปญี่ปุ่น อีกหนึ่งทางเลือกของเมนูพร้อมทาน หรือเมนูพร้อมปรุงที่ทำเองได้ง่ายๆ ทั้งยังได้รสชาติเสมือนบินไปถึงประเทศเจ้าตำรับ สอดคล้องพฤติกรรมผู้บริโภคทำอาหารเองที่บ้านมากขึ้น ด้วยมองเห็นความนิยม และโอกาสอาหารญี่ปุ่นเติบโตในไทย ด้วยตระหนักเรื่องความสะดวกและโรคภัย
นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “จากผลการสำรวจขององค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งประเทศญี่ปุ่น หรือ เจเอ็นทีโอ (JNTO) เปิดเผยว่าในปี 2561 มีคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวน 1.13 ล้านคน เพิ่มขึ้นกว่า 14% เป็นอันดับที่ 5 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ไปเที่ยวญี่ปุ่น ในขณะเดียวกัน ธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นมีมูลค่าสูง 390 ล้าน เติบโตปีล่ะ 10-15% และประเทศไทยได้ชื่อว่าเป็น Top 10 ของประเทศ ที่มีร้านอาหารญี่ปุ่นมากที่สุดของโลก สะท้อนให้เห็นว่า ประเทศญี่ปุ่นและอาหารญี่ปุ่นเป็นที่นิยมสำหรับคนไทยมาก และประกอบกับในช่วงสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ที่ผ่านมา ทำให้ผู้บริโภคเริ่มตระหนักเกี่ยวกับเรื่องความสะอาด ปลอดภัย และโรคภัยดังกล่าว ประกอบกับเริ่มคุ้นเคยกับการทำอาหารเองที่บ้าน อันเนื่องมาจากการประกาศล็อคดาวน์ และการทำงานที่บ้าน จึงเป็นที่มาของเมนูซีเล็คทูน่าชิ้นใหญ่ในซุปญี่ปุ่น ซึ่งได้นำปลาทูน่าชิ้นใหญ่ ที่มาพร้อมซุปญี่ปุ่นหอมกรุ่นด้วยคัตซึโอะบุชิ หรือปลาโอแห้ง สูตรต้นตำรับ มีรสชาติกลมกล่อมลงตัว พร้อมส่วนผสมของน้ำมันดอกทานตะวัน ช่วยลดไขมันไตรกลีเซอไรด์และคลอเรสเตอรอลในเลือด เหมาะสำหรับคนรักสุขภาพ นับว่าเป็นเมนูที่อยากให้ลองรับประทาน ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของผู้บริโภคที่ตอบโจทย์ความสะดวก รับประทานง่าย สามารถนำไปสร้างสรรค์เมนูได้หลากหลาย ทั้งอร่อย มีประโยชน์ อุดมด้วยโอเมก้า 3 และโปรตีนสูงจากปลาทะเลน้ำลึก ที่ซีเล็คพิถีพิถันคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย จึงทำให้ซีเล็คมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ซีเล็คได้มีการสำรวจและทดสอบผลิตภัณฑ์กับผู้บริโภค ก่อนวางจำหน่าย โดยได้รับการตอบรับที่ดี ทั้งในแง่ของรูปลักษณ์ที่ดูพรีเมียม รสชาติดี และความคุ้มค่า”
ซีเล็ค ทูน่าชิ้นใหญ่ในซุปญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด “อร่อยแท้... ตำรับญี่ปุ่นตัวจริง” หอมกรุ่นด้วยคัตซึโอะบุชิ สูตรต้นตำรับ รสชาติกลมกล่อมลงตัว สะดวก รับประทานง่าย แค่เปิดกระป๋อง เท อุ่น นำไปรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เส้นอูด้ง บะหมี่ หรือสลัดผัก และยังสามารถนำไปหุงกับข้าวสวยกลายเป็นข้าวมันทูน่า คัตซึโอะบุชิ ทั้งอร่อย มีประโยชน์ อุดมด้วยโอเมก้า 3 และโปรตีนสูงจากปลาทะเลน้ำลึก อีกทั้งยังคุ้มค่าในราคาเพียง 35 บาท จำหน่ายแล้ววันนี้ ที่ 7-11 และร้านค้าชั้นนำทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติม www.sealect.co.th หรือ เฟซบุ๊ก sealectbrand
###
เกี่ยวกับแบรนด์ซีเล็ค
“ซีเล็ค” แบรนด์ทูน่าอันดับ 1 ในประเทศไทย อยู่ภายใต้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทส่งออกอาหารทะเลทั่วโลกที่มีมาตรฐานระดับสากล
“ซีเล็ค” ไม่ได้เป็นแค่ชื่อแบรนด์ที่สื่อความหมายว่าเป็นการคัดสรรของที่ดีจากทะเลเท่านั้น แต่ผลิตภัณฑ์ซีเล็คเอง ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเช่นเดียวกับชื่อแบรนด์ด้วย เนื่องจากเราคัดเลือกวัตถุดิบที่มีคุณภาพ และผ่านกระบวนการผลิตที่ทันสมัย และมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายให้ผู้บริโภคได้เลือกสรรด้วย ทำให้ "ซีเล็ค" เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มปลากระป๋อง ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภค จนเป็นแบรนด์ชั้นนำของตลาดปลากระป๋องมาจนถึงทุกวันนี้
เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปีวันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในด้านอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืนไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่หกติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และได้รับอีก