BlackShark V2 มาพร้อมไดรเวอร์ TriForce ขนาด 50 มม. ใหม่ล่าสุด, ไมโครโฟนแบบ HyperClear Cardioid,
และระบบตัดเสียงรบกวน Advanced Passive Noise Cancellation
มอบมาตรฐานใหม่เพื่อชาวอี-สปอร์ตตัวจริงด้วยเทคโนโลยี THX Spatial Audio Game Profiles
ที่ปรับแต่งให้เสียงเคลียร์ใสดังกระหึ่มอย่างสมบูรณ์แบบ
กรุงเทพฯ - เรเซอร์ (Razer™) แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเกมเมอร์ เปิดตัว Razer BlackShark V2 ชุดหูฟังสุดล้ำสำหรับชาวอีสปอร์ต ที่มาพร้อมไดรเวอร์ Razer™ TriForce Titanium 50 มม. ใหม่ล่าสุด, ไมโครโฟนระบบ Razer™ HyperClear Cardioid Microphone พร้อม USB Sound Card และระบบตัดเสียงรบกวน Advanced Passive Noise Cancellation รวมถึงเทคโนโลยี THX® Spatial Audio Game Profiles ทำให้ Razer BlackShark V2 ถือเป็นมาตรฐานใหม่ในตลาดชุดหูฟังแบบหลายแพลตฟอร์มที่เพียบพร้อมด้วยสุดยอดงานดีไซน์ และผ่านการทดสอบประสิทธิภาพโดยนักกีฬาอีสปอร์ตชั้นนำระดับโลก
สำหรับกีฬาอีสปอร์ต ความคมชัดของเสียงและการสื่อสารมีความสำคัญเหนือทุกสิ่ง การได้ยินเสียงที่ชัด ใส ไม่มีเสียงรบกวน สามารถสื่อสารบอกเพื่อนร่วมทีมได้อย่างถูกต้องชัดเจนคือกลไกสำคัญในการคว้าชัยชนะอันรุ่งโรจน์ ชุดหูฟัง Razer BlackShark V2 ถูกพัฒนาขึ้นด้วยไดรฟเวอร์เสียงขนาด 50 มม. รุ่นใหม่ล่าสุด ทำงานร่วมกับไมโครโฟนที่ปรับแต่งมาอย่างแม่นยำและแป้นครอบหูฟังตัดเสียงรบกวนขั้นสูงเพื่อมอบ 3 สุดยอดประสิทธิภาพสู่วงการอีสปอร์ต นั่นคือ เสียงที่ชัดใส การสื่อสารที่ชัดเจน และการปิดกั้นเสียงรบกวนจากภายนอกให้เหลือน้อยที่สุด ถือเป็น 3 องค์ประกอบสำคัญที่สามารถชี้เป็นชี้ตายในการแข่งขันอันดุเดือดเลยทีเดียว!
“การทำงานร่วมกับนักกีฬาอาชีพทำให้เราสามารถระบุถึงองค์ประกอบหลัก 3 ด้านในชุดหูฟังของนักกีฬาอีสปอร์ตในการยกระดับคุณภาพเสียงเพื่อการระบุตำแหน่ง ความคมชัดในการสื่อสาร และการตัดเสียงรบกวน” อัลวิน เฉิง รองประธานกรรมการอาวุโส หน่วยงาน Peripherals Business Unit ของเรเซอร์ กล่าว “ด้วยการให้ความสำคัญกับทั้ง 3 องค์ประกอบนี้และการนำโซลูชั่นมาติดตั้งใน BlackShark V2 ทำให้เราได้สร้างสรรค์ชุดหูฟังสุดล้ำได้สำเร็จ และเมื่อเสริมประสิทธิภาพด้วยเทคโนโลยีเสียง THX® Game Profiles ทำให้ชุดหูฟังสุดล้ำนี้กลายเป็นสุดยอดแห่งอุปกรณ์เสียงที่ไร้คู่ต่อกร”
ไดรเวอร์ที่ปรับแต่งเพื่อนำความเป็นเลิศสู่วงการอี-สปอร์ต
Razer BlackShark V2 ติดตั้งไดรเวอร์ 50 มม. แบบ Razer TriForce Titanium รุ่นใหม่ล่าสุดที่จดสิทธิบัตรเฉพาะ ซึ่งใช้แผ่นไดอะแฟรมเคลือบไทเทเนียม ด้วยการออกแบบที่ล้ำสมัยอันโดดเด่น ทำให้ไดรเวอร์ TriForce Titanium สามารถแยกคลื่นเสียงและช่วยให้ผู้เล่นสามารถปรับระดับเสียงทั้งสูง กลาง ต่ำ ได้ตามใจ มอบเสียงแหลมที่ชัดใส เสียงกลางที่อิ่ม และเสียงเบสที่กระหึ่มทรงพลัง
ไดรเวอร์ TriForce ยังเสริมประสิทธิภาพด้วยระบบ THX Spatial Audio ซึ่งเป็นโซลูชั่นเสียงเพื่อการระบุตำแหน่งขั้นสูงเพื่อเพิ่มความแม่นยำในการบอกตำแหน่งและเสียงในเกมที่ให้ความรู้สึกราวกับมีชีวิต โดยสามารถรองรับการทำงานของเครื่องเสียงทั้งระบบสเตอริโอ 5.1 และ 7.1 ด้วยอัลกอริธึมขั้นสูงของ THX Spatial และเทคโนโลยีการจำลองแบบระดับโลก ผสานกับออปชั่นการปรับแต่งที่ไม่เคยมีมาก่อน ชุดหูฟังนี้จึงมอบซาวนด์สเคปแบบ 360 องศาที่ปรับให้เข้ากับหูของผู้เล่นแต่ละคน ระบบ THX Spatial Audio ยังช่วยในการระบุตำแหน่งของศัตรู ขจัดเสียงหวีดของกระสุน และตรวจจับการคุกคามบริเวณใกล้เคียงได้อย่างง่ายดายและเป็นธรรมชาติ ทำให้บรรดาเกมเมอร์และนักกีฬาอีสปอร์ตมี “อภิสิทธิ์” ในแบบฉบับเรเซอร์ซึ่งเป็นที่รู้กันอย่างลับๆ
ตัดสินใจได้โดยไร้การแทรกแซง
การสื่อสารที่ชัดเจนกลางสนามรบคือกุญแจสำคัญสู่ชัยชนะ ดังนั้น เรเซอร์จึงพัฒนา BlackShark V2 ให้มีระบบไมโครโฟนแบบ HyperClear Cardioid Microphone พร้อม USB Sound Card ซึ่งระบบนี้ถูกปรับแต่งให้มุ่งเน้นที่เสียงของจุดรับส่ง ช่วยขจัดเสียงจากด้านหลังและด้านข้างเพื่อการรับฟังถ้อยคำที่ชัดเจน การออกแบบตัวเรือนไมโครโฟนแบบถอดได้ช่วยลดเสียงแทรกให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อการตัดสินใจในเกมที่แม่นยำขึ้นและการจำลองเสียงของคุณที่ดียิ่งขึ้น
การเพิ่ม USB Sound Card ช่วยมอบการควบคุมไมโครโฟนขั้นสูงสำหรับการปรับแต่งเพิ่มเติม ด้วยฟีเจอร์การทำงานอย่าง Mic Boost, Voice Gate, Volume Normalization, Microphone Equalizer และ Ambient Noise Reduction จะทำให้ผู้เล่นสามารถปรับแต่งเสียงเอาต์พูตของตนเองเพื่อลดเสียงจากสภาพแวดล้อมรอบข้างที่อาจรบกวนการสื่อสารที่สำคัญของทีม
ตัดเสียงรบกวนเพื่อเพิ่มความสบาย
สำหรับการแข่งขันแบบทัวร์นาเมนต์ ไม่ว่าจะเล่นอยู่ที่บ้าน อยู่ในวงแลนเดียวกัน หรือบนเวทีแข่งขันหลักของทัวร์นาเมนต์รอบสุดท้าย เสียงรบกวนจากภายนอกอาจเป็นสิ่งไม่พึงประสงค์ที่คอยทำลายสมาธิ เบาะแสเสียงอันละเอียดอ่อนจากผู้เล่นคนอื่นและจากสภาพแวดล้อมในเกมอาจสูญหายไปเมื่อมีเสียงรบกวนในชีวิตจริงลอดเข้ามาในหูฟัง ด้วยคุณสมบัติการตัดเสียงรวบกวนขั้นสูงของ BlackShark V2 จากการออกแบบครอบหูทรงไข่แบบเต็มตัวทับด้วยแป้นโฟมหุ้มหนังเทียมคุณภาพสูง ทำให้สามารถปิดช่องว่างระหว่าง BlackShark V2 และศีรษะของผู้เล่นได้อย่างแนบสนิท ลดการเล็ดลอดของเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างดีเยี่ยม
การใช้วัสดุโฟมนุ่มพิเศษที่ระบายอากาศได้ดี ทำให้เบาะครอบหูสะสมความร้อนและก่อให้เกิดเหงื่อน้อยมากเพื่อให้รู้สึกสบายในยามที่สวมใส่เป็นเวลานานจากการเล่นเกมอันดุเดือด สายคาดศีรษะทำจากวัสดุสแตนเลสน้ำหนักเบาหุ้มเบาะหนานุ่มเพื่อให้มีความยืดหยุ่นและความทนทานสูงสุด โดยแป้นหนีบมีน้ำหนักเพียง 262 กรัม
ทดสอบประสิทธิภาพโดยมืออาชีพ
Team Razer ซึ่งเป็นแผนกอีสปอร์ตของเรเซอร์ ทำงานร่วมกับทีมงานฝีมือเยี่ยมชั้นนำของโลกและผู้เล่นจำนวนมากเพื่อพัฒนาอุปกรณ์ต่อพ่วงประสิทธิภาพสูงเพื่อกีฬาอีสปอร์ต โดยมุ่งมั่นขยายขีดความสามารถและนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าเพื่อการแข่งขัน นับตั้งแต่จุดเริ่มต้นของการพัฒนา BlackShark V2 นี้ Team Razer ได้ร่วมงานกับนักกีฬาอีสปอร์ตจำนวนมากเพื่อทดสอบชุดหูฟัง พร้อมรับฟังความคิดเห็นเพื่อพัฒนาการออกแบบและฟีเจอร์การทำงานให้ดียิ่งขึ้น
“เราได้ทดสอบตัวต้นแบบของ BlackShark V2 และมั่นใจในทันทีว่ามันสร้างความได้เปรียบในเกมการแข่งขันจริง ๆ” ทัล “ฟลาย” ไอซิก จาก Evil Geniuses กล่าว “หลังจากการใช้อุปกรณ์นี้ในการฝึกซ้อมหลายครั้ง เราพบว่ามันสวมใส่สบาย เสียงทั้งจากในเกมและไมโครโฟนมีคุณภาพดีเยี่ยม ช่วยให้ผมโฟกัสกับเกมได้ดีจริง ๆ”
ชุดหูฟัง Razer BlackShark V2 เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์มากมายที่ออกแบบจากความคิดเห็นของนักกีฬาอี-สปอร์ตในระหว่างกระบวนการสร้างสรรค์ ด้วยการรับฟังและการนำความคิดเห็นของผู้เล่นมาเปลี่ยนเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ ทำให้เรเซอร์ก้าวขึ้นสู่สถานะผู้นำในตลาดอุปกรณ์การเล่นเกมอี-สปอร์ตที่มีคุณภาพระดับมืออาชีพ
เทคโนโลยีเสียง THX Game Profiles เพื่อชัยชนะ
เทคโนโลยี THX Game Profiles ซึ่งกำหนดเปิดตัวในวันที่ 6 สิงหาคม จะทำให้ผู้เล่นดื่มด่ำกับประสบการณ์การเล่นเกมที่ล้ำลึกยิ่งขึ้น ด้วยค่าโพรไฟล์ที่ปรับแต่งได้ตามลักษณะเฉพาะของแต่ละเกมและผ่านการรับรองจากบรรดานักพัฒนาเกมมาแล้ว เทคโนโลยี THX Game Profiles จะช่วยให้ผู้เล่นรู้สึกเพลิดเพลินกับเกมต่าง ๆ ด้วยคุณภาพเสียงที่ถูกออกแบบมาเพื่อเกมนั้น ๆ อย่างแท้จริง มอบประสบการณ์ที่สมจริงและดื่มด่ำกว่าที่เคย
เทคโนโลยี THX Game Profiles นำเสนอ 2 โหมดหลัก ได้แก่ THX Environmental Mode สำหรับเสียงที่สมจริงและประสบการณ์ที่ล้ำลึกถึงขีดสุด และ THX Competitive Mode ที่เน้นการระบุตำแหน่งและเบาะแสด้านทิศทางเสียงเป็นหลัก เพื่อการระบุตำแหน่งของศัตรูได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ปัจจุบัน เทคโนโลยี THX Game Profiles รองรับ 18 เกมยอดนิยมที่ใช้ผู้เล่นหลายคน อาทิ Apex Legends, Counter-Strike: Global Offensive, Valorant, Call of Duty: Modern Warfare และอื่น ๆ และจะเพิ่มจำนวนเกมที่รองรับมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต ด้วยการทำงานร่วมกับนักออกแบบเกมโดยตรง เรเซอร์ได้ใช้เทคโนโลยี THX Game Profiles เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเกมสามารถสร้างขอบเขตการปรับแต่งและข้อกำหนดด้านสภาพแวดล้อมได้ล่วงหน้า นับตั้งแต่โถงทางเดินที่มีเสียงก้องไปจนถึงพื้นที่กลางแจ้งขนาดใหญ่ นอกจากนี้ เทคโนโลยี THX Spatial Audio ยังมีการปรับแต่งตามความต้องการของผู้ใช้งาน ซึ่งผู้เล่นสามารถปรับเสียงในเกมของตนเองได้อย่างสมบูรณ์
รองรับการใช้งานหลายแพล็ตฟอร์ม
ด้วยการเชื่อมสายหัวต่อ 3.5 มม. ทำให้ Razer BlackShark V2 สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่ใช้หัวต่อ 3.5 มม. อื่น ๆ ได้ ทั้ง PC, Mac, PS4, Xbox One, Nintendo Switch และอื่น ๆ อีกมากมาย การเพิ่ม USB Sound Card เพื่อให้รองรับคอมพิวเตอร์ระบบ Windows 10 โดยเฉพาะ
เกี่ยวกับ RAZER BLACKSHARK V2
หูฟัง
ไมโครโฟน
ปุ่มควบคุมบนแป้นครอบหู
สายเชื่อมต่อ
ราคาและการวางจำหน่าย
ราคาจำหน่ายปลีก 99.99 ดอลลาร์ / 109.99 ยูโร
Razer BlackShark V2: เว็บไซต์ Razer.com และผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 30 กรกฎาคม 2563
ระบบ THX Game Profiles สำหรับ Razer BlackShark V2: ติดตั้งผ่าน Razer Synapse ได้ตั้งแต่วันที่ 6 สิงหาคม 2563 (ชุดหูฟัง/ หูฟังรุ่นอื่น ๆ จะสามารถใช้ได้ภายหลัง)
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
Razer BlackShark V2 X: ชุดหูฟังเพื่ออี-สปอร์ตระดับเริ่มต้น
อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวในวันเดียวกันคือ BlackShark V2 X ชุดหูฟังเวอร์ชั่นเริ่มต้นของ BlackShark V2 มาพร้อมฟีเจอร์เพื่อการแข่งขันระดับทัวร์นาเมนต์มากมายโดยมุ่งเจาะกลุ่มเป้าหมายบรรดาเกมเมอร์ที่ต้องการสินค้าราคาประหยัด โดย BlackShark V2 X ใช้ไดรเวอร์ Razer TriForce 50 มม. แบบไม่เคลือบไทเทเนียม และใช้เฉพาะหัวต่อ 3.5 มม. โดยไม่มี USB Sound Card แต่ยังคงมีระบบ HyperClear Cardioid Mic และระบบตัดเสียรบกวน Advanced Passive Noise Cancellation เหมือนกับใน BlackShark V2
BlackShark V2 X มีน้ำหนักเพียง 240 กรัม รองรับระบบการทำงานแบบข้ามแพล็ตฟอร์ม จึงเหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการชุดหูฟังเพียงอันเดียวที่ใช้งานได้กับทุกระบบ
ราคาจำหน่ายปลีก 59.99 ดอลลาร์ / 69.99 ยูโร
เว็บไซต์ Razer.com และผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ วันที่ 30 กรกฎาคม 2563
ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
รายละเอียดผลิตภัณฑ์ทั้งหมด
สามารถดูชุดข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนได้ ที่นี่่