กลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ด Razer DeathStalker อันโด่งดังกลับมาอีกครั้งกับรุ่นอัปเกรดใหม่
ชู DeathStalker V2 Pro ที่โดดเด่นด้วยฟังก์ชัน Razer Low-profile Optical Switches,
Razer HyperSpeed Wireless และ Laser-Etched Key Caps
กรุงเทพฯ 27 กรกฎาคม 2565 - Razer™ แบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำระดับโลกสำหรับเหล่าเกมเมอร์ เปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ด Razer DeathStalker อันโด่งดังรุ่นอัปเกรด จัดเต็มทั้งรุ่น DeathStalker V2 Pro, DeathStalker V2 Pro Tenkeyless และ DeathStalker V2
กลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ด DeathStalker V2 ยังคงใช้ดีไซน์ที่คลีน เรียบง่ายตามแบบฉบับ DeathStalker เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการให้เกมสเตชันของตัวเองดูสบายตาไม่รกรุงรัง แม้จะมีดีไซน์เพียวบางเรียบง่าย แต่เรื่องประสิทธิภาพก็ยอดเยี่ยมไม่เป็นรองใคร มาพร้อมปุ่มระบบออปติคัล Razer™ Low-profile Optical Switches ซึ่งมีทั้งแบบ Linear และแบบ Clicky เสริมลุคพรีเมียมด้วยการตัดขอบเส้นอลูมิเนียมเพรียวสวยด้านบนเพื่อเพิ่มความแข็งแรงทนทาน และปุ่มกดที่สลักตัวอักษรด้วยระบบเลเซอร์พร้อมเคลือบผิวให้ทนทานต่อการใช้งานขั้นสุด
“คีย์บอร์ด DeathStalker รุ่นดั้งเดิมได้กลายเป็นไอเท็มสุดโปรดของเหล่าแฟน ๆ เรเซอร์ไปแล้ว ด้วยดีไซน์หรูหราแนวใหม่และสัมผัสการพิมพ์ที่เหนือมาตรฐานไปอีกขั้น ภายใต้รูปทรงที่เพียวบางเรียบง่ายไม่ซ้ำใคร” คริส มิตเชลล์ หัวหน้าแผนกเกมสำหรับพีซี เรเซอร์ กล่าว “สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์คีย์บอร์ด DeathStalker V2 นี้ เรายังคงเอาใจแฟน ๆ ด้วยดีไซนร์คีย์บอร์ดที่เรียบง่ายสบายตา เสริมด้วยเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด อาทิ Razer Optical Switches และ Razer HyperSpeed Wireless เพื่อมอบประสบการณ์คีย์บอร์ดแนวใหม่ที่ตอบสนองเร็วแรง พร้อมฟังก์ชั่นเต็มรูปแบบสำหรับเกมเมอร์ทั่วโลก”
ปุ่มระบบออปติคัลรุ่นอัปเกรด All-New Razer Low-Profile Optical Switches
คีย์บอร์ดกลุ่ม DeathStalker V2 ทุกรุ่น มาพร้อมระบบปุ่มออปติคัลรุ่นอัปเกรด All-New Razer Low-Profile Optical Switches ทำให้คีย์บอร์ดดีไซน์เรียบง่ายนี้มอบประสบการณ์การกดระดับความเร็วแสง ด้วยการใช้เทคโนโลยีลำแสงอินฟราเรดในการตรวจจับระดับการเคาะแป้น ซึ่งหมายความว่าโอกาสเกิดความหน่วงระหว่างการเคาะแต่ละครั้งจะเท่ากับศูนย์ จึงมอบประสิทธิภาพการตอบสนองที่รวดเร็วฉับไวและแม่นยำในการเล่นเกมยิ่งขึ้น พร้อมสัมผัสการกดที่เฉียบคมและไวมากขึ้นในการพิมพ์
ระบบ Low-Profile Optical Switches มีด้วยกัน 2 แบบ ทั้งแบบ Linear และแบบ Clicky โดย Linear Low-Profile Optical Switch มีจุดรับแรงกด (Actuation Point) 1.2 มม. โดยมีระยะความลึกของปุ่มรวม 2.8 มม. และรับแรงกดที่ 45 กรัม ส่วนแบบ Clicky มีจุดรับแรงกด (Actuation Point) 1.5 มม. มีแรงต้านการกดระดับเดียวกัน ระยะความลึกของปุ่มรวม 2.8 มม. และรับแรงกดที่ 50 กรัม
ด้วยการใช้จุดสัมผัสที่น้อยลงทำให้ลดอัตราการเสื่อมโดยรวมของแป้นได้ โดย Razer Low-Profile Optical Switches ผ่านการทดสอบบนมาตรฐานขั้นสูงของอุตสาหกรรมว่าทนทานต่อการกดถึง 70 ล้านครั้ง มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแป้นของแบรนด์คู่แข่งถึง 40%
ปุ่มทั้งสองแบบจึงเหมาะสมอย่างมากสำหรับคีย์บอร์ดกลุ่ม DeathStalker V2 ซึ่งมีดีไซน์เพรียวบาง ทำให้เกมเมอร์สามารถใช้แผ่นรองคีย์บอร์ดระดับต่ำลงได้ เพื่อให้สามารถวางตำแหน่งมือและข้อมือได้สบายและเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ เกมเมอร์จะรู้สึกเมื่อยล้าข้อมือน้อยที่สุด แม้ต้องใช้คีย์บอร์ดติดต่อกันเป็นเวลานานและไม่ได้พักข้อมือเลยก็ตาม
นอกจากระบบ Low-Profile Optical Switches ปุ่มกดที่สลักตัวอักษรด้วยระบบเลเซอร์พร้อมการเคลือบผิวให้มีความทนทานต่อการใช้งานขั้นสูงสุด ยังช่วยต่อต้านการเกิดรอยขีดข่วนหรือสีซีดจาง การเคลือบปุ่มเพื่อความทนทานขั้นสูงนี้ยังทำให้ปุ่มมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าปุ่มแบบ Doubleshot PBT โดยยังมีการเสริมความแข็งแรงด้วยแผ่นปิดหน้าวัสดุ 5052 Aluminum Alloy
ประสิทธิภาพขั้นสูงที่ผสานความสามารถแบบอเนกประสงค์อย่างลงตัว
ทั้งรุ่น DeathStalker V2 Pro และ DeathStalker V2 Pro Tenkeyless มาพร้อม Razer HyperSpeed Wireless เทคโนโลยีการเชื่อต่อแบบไร้สายความเร็วสูงของเรเซเอร์ ทั้งยังเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีเกมมิ่งที่เร็วแรงและเชื่อถือได้มากที่สุดในปัจจุบัน ด้วยการผสานดาต้าโปรโคอลขั้นสูงซึ่งเป็นคลื่นวิทยุระดับ Ultra-fast เข้ากับ Adaptive Frequency Technology (ซึ่งทำหน้าที่สแกนหาคลื่นความถี่ที่ใช้งานได้เพื่อใช้ช่องทางสื่อสารที่ปราศจากคลื่นแทรก) ทำให้ Razer HyperSpeed Wireless มอบประสิทธิภาพการเชื่อมต่อสัญญาณไร้สายที่รวดเร็ว เสถียร และมั่นใจได้เทียบเท่าการเชื่อมต่อด้วยสายสัญญาณแบบดั้งเดิม และด้วยฟีเจอร์การจับคู่ได้หลายอุปกรณ์ ทำให้เกมเมอร์สามารถเชื่อมต่อ DeathStalker V2 Pro เข้ากับเมาส์เรเซอร์รุ่นที่รองรับด้วยอุปกรณ์ดังเกิล HyperSpeed Wireless เพียงอันเดียว เพิ่มอิสระในการใช้งานและความสะดวกสบายยิ่งกว่า โดยยังคงประสิทธิภาพลดความหน่วงสัญญาณในระดับต่ำสุด
นอกจากนี้ รุ่น DeathStalker V2 Pro และ DeathStalker V2 Pro Tenkeyless ยังมีระบบเชื่อมต่อ Bluetooth 5.0 เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อได้มากถึง 3 อุปกรณ์พร้อมกันโดยไม่ต้องเลือกอุปกรณ์ และยังสามารถสลับการเชื่อมต่อใช้งานระหว่างอุปกรณ์ได้ด้วยการกดปุ่มเพียงปุ่มเดียว
DeathStalker V2 Pro มาพร้อมแบตเตอรี่ที่มีอายุใช้งานยาวนานถึง 40 ชั่วโมงและ 50 ชั่วโมงสำหรับ DeathStalker V2 Pro Tenkeyless ทั้งสองรุ่นใช้สายเคเบิลแบบถอดได้ที่มีพอร์ต Type C สำหรับการชาร์จไฟได้ในระหว่างใช้งาน ช่วยให้เกมเมอร์ไม่ต้องเสียจังหวะชาร์จไฟเมื่อต้องการตะลุยในโลกแห่งเกมกันยาว ๆ แบบมาราธอน
DeathStalker ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับทุกคน
คีย์บอร์ดกลุ่ม DeathStalker V2 ตอบโจทย์การใช้งานสำหรับผู้ใช้ทุกประเภท โดยรุ่น DeathStalker V2 Pro มอบคีย์บอร์ดไร้สายที่มีฟังก์ชั่นครบครันสำหรับผู้ต้องการเกมสเตชั่นแบบไร้สายที่สมบูรณ์แบบ ส่วนผู้ที่ต้องการพื้นที่แบบสะอาดตาสไตล์มินิมัล ไม่รกรุงรัง หรือมีพื้นที่ใช้งานจำกัด เหมาะกับรุ่น DeathStalker V2 Pro Tenkeyless ที่มีฟังก์ชั่นการทำงานแบบไร้สาย ความเร็วในการเชื่อมต่อ และการตอบสนองที่รวดเร็วไม่แตกต่างจากคีย์บอร์ดฟูลไซส์ในรุ่น DeathStalker V2 Pro โดยในรุ่น Tenkeyless นี้ยังคงมีปุ่ม Media Button และ Roller มาให้เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน ส่วนรุ่น DeathStalker V2 มอบฟังก์ชั่นการใช้งานและความเร็วไม่ต่างจาก DeathStalker V2 Pro แต่ใช้การเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิล Type C แทนแบบไร้สาย
นอกจากนี้ คีย์บอร์ดกลุ่ม DeathStalker V2 ทุกรุ่น ยังรอบรับการใช้งานร่วมกับเครื่องมือ Razer Synapse 3 ที่ปรับแต่งแสงไฟได้ถึง 16.8 ล้านสี ผ่าน Razer Chroma RGB และติดตั้งหน่วยความจำในตัวเพื่อเก็บข้อมูลการตั้งค่าของผู้ใช้คีย์บอร์ดเมื่อต้องนำออกไปใช้นอกบ้าน
ข้อมูลทั่วไปของ RAZER DEATHSTALKER V2 PRO
ข้อมูลทั่วไปของ RAZER DEATHSTALKER V2 PRO TENKEYLESS
ข้อมูลทั่วไปของ RAZER DEATHSTALKER V2
ดูข้อมูลเพิ่มเติม https://rzr.to/razer-deathstalker-line
ข้อมูลเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ของเรเซอร์ในแคมเปญ #WinItYourWay ได้ https://www.razer.com/campaigns/win-it-your-way
ราคาและการจำหน่าย
Razer DeathStalker V2 Pro
ราคาปลีก 249.99 ดอลลาร์ / 249.99 ยูโร
Razer.com และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ 26 กรกฎาคม 2565
Razer DeathStalker V2 Pro Tenkeyless
ราคาปลีก 219.99 ดอลลาร์ / 219.99 ยูโร
Razer.com และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไตรมาส 3 ปี 2565
Razer DeathStalker V2
ราคาปลีก 199.99 ดอลลาร์ / 199.99 ยูโร
Razer.com และผู้จำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไตรมาส 3 ปี 2565
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม
ดาวน์โหลดชุดข้อมูลสำหรับสื่อมวลชนได้ https://rzr.to/razer-deathstalker-line-assets
เกี่ยวกับ RAZER
Razer™ คือแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชั้นนำของโลกสำหรับเกมเมอร์
เครื่องหมายการค้ารูปงูสามหัวของ Razer ถือเป็นหนึ่งในตราสัญลักษณ์ที่มีผู้คนรู้จักมากที่สุดในชุมชนเกมมิ่งและอี-สปอร์ตระดับโลก โดยบริษัทได้ออกแบบและพัฒนาเครือข่ายสำหรับผู้เล่นเกมโดยเฉพาะที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งผสานฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และบริการต่างๆ เข้าด้วยกัน
ภายใต้ฐานลูกค้าที่กระจายอยู่ทั่วทุกทวีป Razer มีฮาร์ดแวร์ที่ได้รับรางวัลมากมาย ทั้งอุปกรณ์ต่อพ่วงประสิทธิภาพสูงสำหรับเกมมิ่ง เกมมิ่งโน้ตบุ๊กตระกูล Blade รวมถึง Razer Phone ที่ได้เสียงตอบรับอย่างล้นหลาม
ขณะเดียวกันแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์จาก Razer ที่รวมแล้วมีผู้ใช้งานมากกว่า 150 ล้านรายนั้น ประกอบด้วย Razer Synapse (แพลตฟอร์มอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์) Razer Chroma RGB (ระบบเทคโนโลยีแสงไฟ RGB เอกสิทธิ์เฉพาะของบริษัท) และ Razer Cortex (ซอฟต์แวร์เพื่อปรับปรุงการเล่นเกมและศูนย์รวมบริการ)
ส่วนทางด้านบริการต่างๆ ของ Razer ก็เช่น Razer Gold ที่ถือเป็นบริการเครดิตแบบเสมือนสำหรับเกมเมอร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกรายหนึ่ง และ Razer Fintech หนึ่งในหน่วยงานด้านเทคโนโลยีทางการเงินภายใต้การบริหารงานของเรเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค
Razer ก่อตั้งขึ้นในปี 2548 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองเออร์ไวน์ (แคลิฟอร์เนีย) โดยมีสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาคในเมืองฮัมบูร์ก เซี่ยงไฮ้ และสิงคโปร์ Razer มีสำนักงาน 18 แห่งทั่วโลก และเป็นที่รู้จักในฐานะแบรนด์ชั้นนำสำหรับเกมเมอร์ในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และจีน Razer จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง