เต็ดตรา แพ้ค เปิดตัวแคมเปญ “FOOD HAS A NEW HOME” เปิดมิติใหม่ ผลิตภัณฑ์อาหาร นำเสนอโซลูชันกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์อาหารแบบครบวงจร ช่วยให้ผู้ผลิตเข้าถึงโอกาสใหม่ๆ ในการเติบโตทางธุรกิจ

อุตสาหกรรม

เต็ดตรา แพ้ค ผู้นำด้านโซลูชันการแปรรูปและบรรจุภัณฑ์อาหารชั้นนำของ เปิดตัวแคมเปญ “Food Has a New Home” เปิดมิติใหม่ ผลิตภัณฑ์อาหาร เพื่อช่วยให้ผู้ผลิตสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต รวมทั้งสามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคในเรื่องผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพ รวมทั้งตระหนักถึงความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อม และความสะดวกสบายในการใช้งาน โดยแคมเปญออนไลน์นี้เน้นย้ำถึงโซลูชันในกระบวนการผลิตแบบครบวงจรของเต็ดตรา แพ้ค ตั้งแต่ความเชี่ยวชาญด้านกระบวนการผลิตและบรรจุภัณฑ์ รวมทั้งการบริการหลังการขายต่อผู้ผลิต ตลอดจนการให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อสร้างโอกาสการเติบโตใหม่ๆ ในทางธุรกิจอาหาร ซึ่งในงานเปิดตัวแคมเปญในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้จัดงานเสวนาขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญจาก Food Innopolis เมืองนวัตกรรมอาหาร และ สมาคมเชฟประเทศไทยที่มาร่วมแบ่งปันความคิดเห็น ข้อมูลจากภาคอุตสาหกรรม และมุมมองของผู้บริโภคที่มีต่อผลิตภัณฑ์อาหารในภาวะที่เกิดการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานในโลกปัจจุบัน ซึ่งจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ

ปัจจุบันผู้คนมองการบริโภคอาหารในแง่มุมที่แตกต่างออกไป มีการปรับเปลี่ยนวิธีในการเตรียมและพฤติกรรมการบริโภคอาหารและของว่างอย่างสิ้นเชิง โดยตระหนักว่าการทำอาหารเองที่บ้านช่วยให้การดูแลสุขภาพและการควบคุมคุณค่าทางโภชนาการของอาหารมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งยังช่วยลดความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหาร ความเหมาะสมของราคาที่สามารถจ่ายได้ และการจัดการของเสียจากอาหารเหล่านั้นในภาคครัวเรือน ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการทำอาหารเองที่บ้านส่งผลต่อประเภทของผลิตภัณฑ์ที่เลือกซื้อ ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ตั้งแต่วัตถุดิบสำเร็จรูปเช่น ผัก ซุป ซอสปรุงรส และน้ำสลัด รวมไปถึงอาหารพร้อมรับประทานในบรรจุภัณฑ์สำเร็จรูปกำลังได้รับความนิยม และช่วยให้ผู้บริโภคสามารถปรุงอาหารที่บ้านได้อย่างปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และราคาไม่แพงได้

อาหารและผลิตภัณฑ์ที่อยู่ในบรรจุภัณฑ์ มีส่วนช่วยในการเติมเต็มเทรนด์การใช้ชีวิตอยู่บ้าน และเปิดโอกาสใหม่ๆทางธุรกิจให้กับผู้ผลิต โดยโอกาสเหล่านี้ได้เพิ่มมากขึ้นท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล และจากการที่ผู้บริโภคมีการซื้อสิ่งของอุปโภคบริโภคทางออนไลน์มากขึ้น บรรจุภัณฑ์จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับซัพพลายเชนที่เน้นในด้านอีคอมเมิร์ซ การเติบโตอย่างต่อเนื่องของอีคอมเมิร์ซ ประกอบกับความคาดหวังของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ส่งผลให้เกิดการแข่งขันในการนำเสนอเวลาส่งมอบสินค้าที่สั้นลงกว่าเดิม ซึ่งทำให้ต้นทุนในการดำเนินการตามคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น การปฏิบัติตามข้อกำหนดเหล่านี้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานหลักสำหรับธุรกิจออนไลน์ อันเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องในการจัดส่ง ค่าแรง และค่าขนส่ง ดังนั้น บทบาทของบรรจุภัณฑ์จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับซัพพลายเชนที่เน้นอีคอมเมิร์ซอย่างมาก เนื่องจากจะต้องปรับให้เข้ากับรูปแบบการจัดการและการขนส่งที่หลากหลาย บรรจุภัณฑ์ที่มีการจัดการได้ง่ายและสามารถปกป้องได้มากพอที่จะจำกัดความเสียหายจากการขนส่งและการคืนสินค้า จะสะท้อนให้เห็นถึงประโยชน์ต่อผู้ผลิตโดยตรงในแง่ของการควบคุมคุณภาพและการจัดการที่สามารถควบคุมได้ ในขณะที่ผู้บริโภคได้ประโยชน์จากการใช้งานที่สะดวก เปิดรับประทานได้ง่าย และตระหนักถึงการมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมด้วยการรีไซเคิลได้ง่าย ปัจจัยเหล่านี้ของบรรจุภัณฑ์จะเป็นที่ต้องการมากยิ่งขึ้น

กล่องบรรจุภัณฑ์ เต็ดตรา รีคาร์ท (Tetra Recart) โซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ในแคมเปญ “Food Has a New Home” เปิดมิติใหม่ ผลิตภัณฑ์อาหาร ตรงตามข้อกำหนดข้างต้นทั้งหมด เนื่องจากเป็นโซลูชันบรรจุภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่และรองรับอนาคตสำหรับอาหารสำเร็จรูป ซึ่งตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไปของผู้บริโภค ผู้ผลิต และผู้ค้าปลีก จากมุมมองของผู้บริโภคกล่องต็ดตรา รีคาร์ท สามารถใช้งานได้จริง ทันสมัย ปลอดภัยและเป็นธรรมชาติ ทั้งยังเปิดเท จัดเก็บ และกำจัดได้ง่าย ผู้ผลิตอาหารชอบที่สายการผลิตมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนขนาดบรรจุภัณฑ์ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นต์ และช่วยให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง ในขณะที่ผู้ค้าปลีกชอบที่มีน้ำหนักเบา จัดเก็บในพาเลทได้สูงขึ้น ใช้พื้นที่จัดเก็บได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น และก่อให้เกิดขยะในร้านค้าลดลง ซึ่งล้วนเป็นข้อดีที่น่าดึงดูดใจของบรรจุภัณฑ์นี้ ด้านผู้ค้าปลีกออนไลน์เห็นว่า กล่องเต็ดตรา รีคาร์ท ช่วยเรียกความสนใจบนหน้าจอ และเข้ากันได้ดีกับชุดอาหารสำเร็จรูป และเอื้อต่อการบรรจุลงกล่องสำหรับการจัดส่ง และนอกจากนั้น 69% ของวัสดุที่ใช้ผลิตกล่องเต็ดตรา รีคาร์ทยังทำมาจากต้นไม้ - ซึ่งเป็นทรัพยากรหมุนเวียนตามธรรมชาติที่จัดหามาอย่างรับผิดชอบ

เชฟจากัวร์ – คุณธีรวีร์ ดิษยะไชยพงศ์ ที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารและประชาสัมพันธ์สมาคมเชฟประเทศไทย กล่าวว่า “การปรุงอาหารที่บ้านคงไม่ยุ่งยากอีกต่อไปในการที่เราจะปรุงรสอาหารให้ลงตัวกับการจัดสรรเวลาที่ใช้ในครัว เพราะปัจจุบันเรามีโซลูชัน ผู้ช่วยทำอาหารที่ยอดเยี่ยมอยู่ในบรรจุภัณฑ์แบบกล่อง สามารถใช้ที่บ้านได้ และเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้งานได้จริง ซึ่งมืออาชีพต่างก็เลือกใช้ เช่น น้ำสต็อก การเตรียมซอสมะเขือเทศ และซอสปรุงสำเร็จต่าง ๆ ที่เป็นพื้นฐานของการทำอาหารโดยทั่วไป ช่วยให้สามารถประหยัดเวลา ทั้งยังได้รสชาติที่ยอดเยี่ยม มีคุณภาพสูง และคุ้มค่าเงินโดยไม่ต้องกังวลใด ๆ”

นอกจากบรรจุภัณฑ์อาหารแล้ว แคมเปญ “Food Has a New Home” เปิดมิติใหม่ ผลิตภัณฑ์อาหาร ยังเน้นย้ำถึงโซลูชันแบบครบวงจรของเต็ดตรา แพ้ค เพื่อสนับสนุนกระบวนการทั้งหมด ตั้งแต่การผลิตอาหารไปจนถึงบรรจุภัณฑ์และบริการหลังการขาย โดยทุกๆ ปี เต็ดตรา แพ้ค จะนำเสนอเทคโนโลยีการผลิตอาหารที่ชาญฉลาดยิ่งขึ้น ปลอดภัยยิ่งขึ้น และคุ้มค่ามากขึ้น ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการแปรรูปอาหารชั้นนำ เต็ดตรา แพ้ค ช่วยให้แบรนด์ในธุรกิจอาหารสามารถหาวิธีพัฒนาและก้าวล้ำไปข้างหน้าด้วยอุปกรณ์ ซอฟต์แวร์ และบริการใหม่ๆ และที่ศูนย์พัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัทฯ ผู้ผลิตสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับนักเทคโนโลยีอาหารมากประสบการณ์ของเต็ดตรา แพ้ค ซึ่งจะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์อาหารให้มีรสชาติ เนื้อสัมผัส และความหลากหลายมากขึ้น

ด้านคุณสุธีรา อาจเจริญ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ จาก Food Innopolis เมืองนวัตกรรมอาหาร กล่าวว่า “เช่นเดียวกับอุตสาหกรรมอื่น ๆ อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มต้องตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในการเลือกซื้อของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง โดยเทรนด์ตลาดที่กำลังเป็นที่สนใจมากที่สุดในปัจจุบัน เกี่ยวข้องกับสุขภาพ ความกังวลด้านสิ่งแวดล้อม และความสะดวกสบาย ในเรื่องความคาดหวังจากผู้บริโภค การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ จำเป็นต้องมีแนวทางจัดการอย่างบูรณาการ ตั้งแต่การคิดค้นทบทวนผลิตภัณฑ์ วิธีการผลิต และบรรจุภัณฑ์ โดยนวัตกรรมมักจะหมายรวมถึงการปรับเปลี่ยนและปรับแต่งสูตรอาหารเพื่อให้อยู่เหนือคู่แข่งอยู่เสมอ”

ด้วยการมุ่งเน้นที่โซลูชันการแปรรูปสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร เต็ดตรา แพ้ค อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดในการเข้าใจความต้องการของธุรกิจอาหาร ตั้งแต่การปรับส่วนผสม การรวมส่วนผสมเข้าด้วยกัน และการกำหนดสูตรไปจนถึงกระบวนการแลกเปลี่ยนความร้อนเพื่อรักษาสภาพของผลิตภัณฑ์ รวมถึงการยืดอายุและแปรรูปผลิตภัณฑ์ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบลักษณะของเหลว หรือเทคโนโลยีการผลิตในรูปแบบผลิตภัณฑ์ผงสำเร็จรูป กลุ่มงานเทคโนโลยีการผลิตที่ครอบคลุมของเต็ดตรา แพ้ค ครอบคลุมตั้งแต่กระบวนการผสมที่มีประสิทธิภาพสูงและมีความยืดหยุ่นในการปรับใช้งานให้เหมาะสมกับผลิตภัณฑ์แต่ละประเภทที่แตกต่างกัน ที่อาจจะต้องการผสมด้วยระดับความเร็วรอบที่หลากหลาย – ทั้งหมดนี้ เพื่อให้แน่ใจว่าจะเกิดการผสมผสานที่ลงตัว การทำอิมัลชันสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ได้ประสิทธิภาพสูงสุด รวมทั้งการกระจายตัวของส่วนผสมที่เป็นผงและของเหลว ให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นเนื้อเดียวกันโดยสมบูรณ์ และได้คุณภาพที่สม่ำเสมอ

คุณสุภนัฐ รัตนทิพ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เต็ดตรา แพ้ค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เราช่วยให้ผู้ผลิตอาหารนำเสนอความสะดวกสบายแก่ผู้บริโภคได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการเตรียมอาหาร เช่น ซอสปรุงรส อาหารพร้อมรับประทาน หรือแม้แต่อาหารของสัตว์เลี้ยงซึ่งเป็นตลาดที่กำลังมีการเติบโตอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน นอกจากนั้น เรายังสามารถให้คำปรึกษาในการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ อาทิ ซุป ซอส ของหวาน อาหารสำหรับทารก ผลไม้และมะเขือเทศสำหรับการประกอบอาหาร ด้วยโซลูชันระบบออโตเมชั่นและการบริการแบบเฉพาะเจาะจง ทำให้เราดำเนินงานได้อย่างเต็มรูปแบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาศัยมุมมองในเรื่องไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ช่วยสนับสนุนผู้ผลิตในประเทศในการมองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้”

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญ “Food Has a New Home” เปิดมิติใหม่ ผลิตภัณฑ์อาหาร

  • ผู้โพสต์ :
    Hotnews
  • อัพเดทเมื่อ :
    7 ต.ค. 2022 18:14:37

ลงข่าวประชาสัมพันธ์ ฟรี คลิกที่นี่

 

X

เว็บไซต์เรามีการใช้คุกกี้ คลิกเพื่อดู นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา