นครโฮจิมินห์, เวียดนาม - Media OutReach Newswire - 2 พฤษภาคม 2567 - จากการประชุมสามัญประจำปีเมื่อวันศุกร์ที่ 26 เมษายน ที่ผ่านมา Development Joint Stock Commercial Bank (HDBank, stock code: HDB) ในนครโฮจิมินห์เผยผลกำไรก่อนหักภาษีที่ตั้งเป้าไว้ในปี 2024 อยู่ที่ 15.85 ล้านล้านดอง (625.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้น 22% จากปีที่มา
ในปี 2567 ธนาคารยังคงเติบโตในระดับสูง พร้อมกับการปรับปรุงแนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน
ทางธนาคารคาดหวังว่าจะมีสินทรัพย์รวมเกินกว่า 700 ล้านล้านดอง (27.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปีนี้ซึ่งเติบโตขึ้น 16% จากปี 2566
ส่วนยอดเงินฝากรวมทั้งหมดคาดว่าจะสูงถึง 624 ล้านล้านดอง (24.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงขึ้น 16%
ยอดสินเชื่อคงค้างคาดการณ์ว่าจะเกิน 438 ล้านล้านดอง (17.28 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นไปตามการเติบโตของสินเชื่อที่ธนาคารกลางจัดสรรโควตาให้
ปีนี้ธนาคารวางแผนว่าจะเพิ่มเงินทุนก่อตั้งขึ้นเป็น 5% เป็นจำนวน 29.1 ล้านล้านดอง (1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) โดยการเปิดจำหน่ายหุ้น
ปี 2566 ที่ผ่านมาธนาคารจัดการให้อัตราหนี้เสียต่อสินทรัพย์รวมอยู่ในระดับต่ำที่ 1.5% และมีอัตราส่วนความเพียงพอของเงินกองทุนอยู่ที่ 12.6% ซึ่งสูงสุดในผู้ประกอบธุรกิจประเภทเดียวกัน ที่ประชุมสามัญประจำปียังเห็นชอบกับการให้เงินปันผลในปี 2566 จาก 25% เป็น 30% พร้อมจ่ายสูงสุด 10% เป็นเงินสดโดยขึ้นอยู่กับผลประกอบการทางธุรกิจที่ทำได้
ผลกำไรก่อนหักภาษีในปี 2566 ยังสูงถึง 13 ล้านล้านดอง (613 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ถึง 26.8% โดยทาง HDBank บรรลุผลตอบแทนจากสินทรัพย์อยู่ที่ 2% และผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 24.2% ทำให้ธนาคารจัดเป็นหนึ่งในธนาคารอันดับต้น ๆ จากผู้ประกอบธุรกิจเดียวกัน
ในไตรมาสแรกของปี 2567 HDBank ยังสามารถทำผลกำไรก่อนหักภาษีได้ตามเป้าอย่างมีนัยสำคัญสูงถึง 4 ล้านล้านดอง (157.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งขึ้นไปแตะ 43.6% เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายปี โดยมีอัตราผลตอบแทนจากส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 26.2% อัตราการเติบโตของสินเชื่ออยู่ที่ 6.2% และอัตราหนี้เสียต่อสินทรัพย์รวมถูกจำกัดให้อยู่ที่ 1.68% และยังมีอัตราส่วนความพอเพียงของเงินกองทุนของธนาคารตามหลักเกณฑ์ของ Basel II สูงถึง 13.7% ในช่วงเวลาดังกล่าว
HDBank ได้มอบผลตอบแทนกับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ และตามแผนที่วางไว้ในปีนี้จะจ่ายเงินปันผล 30% อย่างไม่มีข้อยกเว้น โดยจ่ายเป็นเงินสดสูงสุด 15% และส่วนที่เหลือเป็นการออกหุ้นให้