บลจ.ไทยพาณิชย์ ปันผลกองหุ้นไทย SCBSE - SCBENERGY พร้อมสินทรัพย์ทางเลือก SCBPIND กว่า 128 ล้านบาท

ลงทุน การเงิน ธนาคาร เศรษฐกิจ

นายณรงค์ศักดิ์ ปลอดมีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมจ่ายเงินปันผลพร้อมกัน 3 กองทุน รวมมูลค่ากว่า 128 ล้านบาท ให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 16 สิงหาคม 2562 นี้ ประกอบด้วยกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทย 2 กองทุน สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม 2561 - วันที่ 31 กรกฎาคม 2562 ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ ซีเล็คท์ อิควิตี้ ฟันด์ (ชนิดจ่ายปันผล) หรือ SCBSE ในอัตรา 0.5000 บาทต่อหน่วย โดยมีการจ่ายปันผลระหว่างกาลเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2562 ไปแล้วจำนวน 0.2000 บาทต่อหน่วย คงเหลือจ่ายปันผลงวดนี้ 0.3000 บาทต่อหน่วย และกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ SET ENERGY SECTOR INDEX (ชนิดจ่ายปันผล) หรือ SCBENERGY ในอัตรา 0.4000 บาทต่อหน่วย

นอกจากนี้ยังมีกองทุนสินทรัพย์ทางเลือกอีก 1 กองทุน คือ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ พร็อพเพอร์ตี้ แอนด์ อินฟราสตรัคเจอร์ เฟล็กซิเบิ้ล (ชนิดจ่ายเงินปันผล) (SCBPIND) สำหรับผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 21 สิงหาคม 2561 - 31 กรกฎาคม 2562 ในอัตรา 0.5107 บาทต่อหน่วย โดยมีจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลแล้วเมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2562 และวันที่ 23 พฤษภาคม 2562 รวมจ่ายแล้วจำนวน 0.3699 บาทต่อหน่วย คงเหลือจ่ายปันผลงวดนี้ 0.1408 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ กองทุน SCBSE จัดเป็นกองทุน 5 ดาว ประเภท Thailand Fund Equity Large-Cap ของมอร์นิ่งสตาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 เม.ย. 2562) และมีผลดำเนินงานที่ดีมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 มีการจ่ายปันผลแล้ว 17 ครั้ง รวม 7.4600 บาทต่อหน่วย มีกลยุทธ์การลงทุนด้วยวิธี Active Approach โดยการคัดเลือกลงทุนในบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่น่าสนใจลงทุนมากที่สุดและสอดคล้องกับแนวโน้มการลงทุนในขณะนั้น ซึ่งจะใส่น้ำหนักการลงทุนมากน้อยตามความน่าสนใจของหุ้นนั้น และกองทุนจะลงทุนในหุ้นไม่เกิน 30 ตัว จึงเหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงในระดับสูง ทั้งนี้ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันมีผลการดำเนินงานอยู่ที่ 6.06% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 2562) นอกจากนี้กองทุนดังกล่าวยังได้รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมแห่งปี 2017 ประเภทกองทุนตราสารทุนทั่วไป จาก Money & Banking Awards ซึ่งจัดโดยวารสารการเงินธนาคารอีกด้วย

ด้านกองทุน SCBENERGY มีนโยบายการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนให้ใกล้เคียงกับดัชนีหมวดพลังงานและสาธารณูปโภคของตลาดหุ้นไทยมากที่สุด โดยนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 28 มิถุนายน 2554 มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 9 ครั้ง รวม 3.4200 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 7.90% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 2562)

ส่วนกองทุน SCBPIND นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2561 มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 3 ครั้ง รวม 0.1408 บาทต่อหน่วย และมีผลการดำเนินงานตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอยู่ที่ 23.91% ต่อปี (ข้อมูล ณ วันที่ 13 ส.ค. 2562) โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนประเภทกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (Property Fund) ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure Fund) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและสิงค์โปร์ ซึ่งมีกระบวนการลงทุนโดยการคัดเลือกกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ และ REITs ภายใต้กรอบการลงทุนคือ High Cash flow, High EPS Growth และ High Dividend Yield โดยมีสัดส่วนการลงทุนในตลาดไทยประมาณ 44% สิงคโปร์ประมาณ 47% และเงินฝากหรือสินทรัพย์อื่นอีกประมาณ 9% (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ก.ค. 2562)

ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุน มิได้เป็นสิ่งยืนยันผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและรับหนังสือชี้ชวนได้ทุกวันทำการ ได้ที่ SCBAM Call Center โทร.02-777-7777 กด 0 กด 6 หรือผู้สนับสนุนการขายทุกราย

  • ผู้โพสต์ :
    Pang
  • อัพเดทเมื่อ :
    15 ส.ค. 2019 18:16:56

ลงข่าวประชาสัมพันธ์ ฟรี คลิกที่นี่

 

X

เว็บไซต์เรามีการใช้คุกกี้ คลิกเพื่อดู นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา