กรุงเทพมหานคร, ประเทศไทย – 14 กันยายน 2566: บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ผู้พัฒนาและดำเนินการเครือข่าย Bitkub Chain และผู้ให้บริการบล็อกเชนโซลูชันของประเทศไทย ร่วมกับ LightLink Labs Pte ผู้พัฒนาและดำเนินการเครือข่ายบล็อกเชน LightLink พร้อมใช้งานระดับองค์กรบน Ethereum Layer-2 Scaling Solution ประกาศการพัฒนาและเชื่อมต่อระบบนิเวศเข้าด้วยกัน พร้อมพัฒนาการใช้งาน DeFi และยกระดับสู่การเป็นเครือข่ายบล็อกเชนระดับโลก
LightLink เป็นเครือข่ายบล็อกเชนโซลูชันบน Ethereum Layer-2 ที่เพิ่มความปลอดภัยและกระจายศูนย์ พร้อมการทำธุรกรรมที่รวดเร็วถึง 100 เท่าและค่าธรรมเนียมที่ถูกเมื่อเทียบกับ Ethereum Layer-1 อีกทั้ง Gas Fee บน LightLink ยังมีจุดเด่นในการช่วยให้เกิดโมเดลและธุรกิจใหม่ เช่น เกมที่ไม่มีการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม, แอปพลิเคชันสำหรับองค์กร และบริการทางการเงินรูปแบบใหม่
นอกจากนี้ LightLink ยังรองรับ EVM Compatible ทำให้สามารถปรับใช้งาน Smart Contract บน Ethereum ได้ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายที่ต่ำเพียง $0.01 และ LightLink มีเหรียญหลักเป็น Ethereum และมีแอปการ Bridge ที่มีความปลอดภัย และช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถโอนสินทรัพย์ระหว่างเครือข่ายได้ในอัตรา 1:1
สำหรับการร่วมมือระหว่าง LightLink และ Bitkub Chain ในครั้งนี้ เป็นการสอดรับกับคอมมิวนิตีของไทย โดยในระยะแรกจะเป็นการเชื่อมต่อทั้ง 2 ระบบนิเวศเข้าด้วยกัน ซึ่งเป็นการพัฒนาช่องทางการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสินทรัพย์ระหว่างเชน รวมถึงการพัฒนาการใช้งานเหรียญ KUB บนเครือข่าย LightLink โดยการนำเหรียญ KUB มาใช้งานบนแอปพลิเคชันแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Application) และกิจกรรมบนระบบนิเวศของเครือข่ายของ LightLink ซึ่ง Bitkub Chain จะพัฒนาและเข้าร่วมกับระบบนิเวศของ LightLink ไม่ว่าจะเป็น การพัฒนาช่องทางการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสินทรัพย์ระหว่างเชน (Bridge) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์แบบไร้ตัวกลาง (Decentralized Exchange) และการเงินแบบกระจายศูนย์ (DeFi) เพื่อยกระดับตามแผนการต่าง ๆ ของ LightLink ที่เป็นเครือข่ายบล็อกเชนระดับโลก นอกจากนี้ นักพัฒนาของทั้ง 2 เครือข่ายยังสามารถร่วมพัฒนาและสร้างบล็อกเชนโซลูชันใหม่ ๆ สำหรับผู้ใช้งานอีกด้วย และจะมีการเพิ่ม LightLink RPC บนกระเป๋า Bitkub NEXT เพื่อเชื่อมต่อระหว่าง 2 เครือข่ายในการโอนย้ายสินทรัพย์ดิจิทัล
“การร่วมมือกับ LightLink จะเป็นการยกระดับเครือข่าย Bitkub Chain ให้สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานระดับโลก นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการขยายการใช้งานจริง ที่สามารถรองรับผู้ใช้งานจากทั่วโลก ซึ่งเป็นการสอดรับกับเป้าหมายสำคัญของเราที่ต้องการจะเปิดรับผู้ใช้งาน ตลอดจนนักพัฒนาจากต่างประเทศ ให้เข้ามาร่วมใช้งานและพัฒนา DApp และ DeFi ต่าง ๆ พร้อมปรับปรุงและรองรับกลุ่มผู้ใช้งานใหม่ ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลในอนาคตอันใกล้“ นายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าว
“ความร่วมมือกับ Bitkub Chain แสดงถึงการสนับสนุนของเราที่มีต่อประเทศไทย โดยมีคอมมิวนิตีที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาในภูมิภาคเอเชีย เราหวังว่าจะได้ร่วมมือกับ Bitkub Chain เพื่อขยายการใช้งานบล็อกเชนของ LightLink และเรายินดีต้อนรับโอกาสในการแบ่งปันระบบนิเวศกับ Bitkub Chain และพัฒนาอุตสาหกรรมไปพร้อม ๆ กัน ความคืบหน้านี้ ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งในการดำเนินการของบริษัทฯ ซึ่งทำให้ LightLink สามารถเป็นพันธมิตรกับผู้นำทางด้านบล็อกเชนต่าง ๆ” นาย Roy Hui ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร LightLink Labs Pte กล่าว
ติดตามข่าวสารและข้อมูลการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของ LightLink ได้ที่
Website: https://www.lightlink.io/
Discord: https://discord.com/invite/lightlinkchain
Telegram: https://t.me/lightlinkll
Twitter: https://twitter.com/lightlinkchain
และบิทคับเชนได้ที่
Website: https://www.bitkubchain.com/
Facebook: https://www.facebook.com/bitkubchainofficial
Medium: https://medium.com/bitkubchain
Twitter: https://twitter.com/bitkubchain
Discord: https://discord.gg/WkJ6j279
Telegram: https://t.me/+jiM6dAP5cxUzZTM1
########
เกี่ยวกับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด
บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด เป็นบริษัทในกลุ่ม บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ ปี พ.ศ. 2561 ด้วยทุนจดทะเบียน 778 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจกิจกรรมการบริการเทคโนโลยีสารสนเทศและคอมพิวเตอร์ รวมถึงการพัฒนาและออกแบบเทคโนโลยีบล็อกเชน บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด มีความมุ่งหวังที่จะสร้างเครือข่าย บิทคับเชน ให้เป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนให้กับภาคอุตสาหกรรมและธุรกิจ เพื่อกระจายโอกาสทางเศรษฐกิจและการเงินให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียมกัน ด้วยเทคโนโลยีที่ให้ทั้งความปลอดภัยและความโปร่งใสสูงสุด พร้อมทั้งสามารถแลกเปลี่ยนมูลค่ากันได้อย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องพึ่งพาตัวกลาง และต่อยอดให้เกิดการใช้บล็อกเชนรวมกับภาคอุตสาหกรรมขึ้นจริง