กรุงเทพฯ 25 ตุลาคม 2566 – บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด โดย นายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ร่วมกับ บริษัท ทีพีซีเอกซ์ จำกัด ภายใต้เครือสหพัฒน์ โดย นายธวัชชัย ตั้งวรกิจถาวร กรรมการ และวิทยาลัยศิลปะ สื่อ และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (CAMT CMU) โดย ผศ.ดร.วรวิชญ์ จันทร์ฉาย คณบดี CAMT CMU ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการ Certifile เพื่อผลักดันการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนในรูปแบบ NFT เข้ามาช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างมีมาตรฐาน ณ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา
ในปัจจุบัน ระบบการศึกษากำลังเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างรวดเร็วทั่วโลก อันเป็นปัจจัยสำคัญที่ผลักดันการจัดการเรียนรู้และกระบวนการเรียนการสอนของสถาบันศึกษาให้เปลี่ยนไปจากเดิม ทั้งสื่อการเรียนการสอน และการใช้เทคโนโลยีในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งทั้งสถาบันการศึกษาและนักเรียนต่างต้องปรับตัวเข้าสู่การเรียนรู้วิถีใหม่ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม แม้สถาบันการศึกษาสามารถออกเอกสารทางการศึกษาและเอกสารต่าง ๆ ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ แต่ยังไม่สามารถรับรองหรือตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่นำไปใช้ยืนยันต่อองค์กรภายนอกโดยปราศจากการปลอมแปลงได้ ซึ่งสวนทางกับแนวโน้มการทำธุรกรรมทางดิจิทัลที่เพิ่มสูงขึ้น
ด้วยเหตุนี้ โครงการ CERTIFILE จึงได้ร่วมมือกับ CAMT เพื่อแก้ไขปัญหาข้างต้นโดยมีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสำหรับเอกสารโครงการต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ของนักศึกษา โดยสามารถตรวจสอบความถูกต้องได้ และอำนวยความสะดวกในการจัดเก็บข้อมูลการเข้าร่วมกิจกรรมของนักศึกษาและผู้เกี่ยวข้องของคณะ เช่น การจัดคอร์สอบรม รวมถึงเอกสารการเข้าร่วมการฝึกงานที่ CAMT ร่วมมือกับบริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนในรูปแบบของ NFT (Non-Fungible Token) ผ่านมาตรฐาน KAP-721 บนเครือข่าย Bitkub Chain ที่มีคุณสมบัติขั้นต่ำเทียบเท่ากับ ERC-721 ของเครือข่าย Ethereum ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ยอมรับอย่างแพร่หลายในระดับสากล ทั้งยังสามารถตรวจสอบเอกสารได้ทันทีตลอด 24 ชั่วโมง และตรวจสอบธุรกรรมได้บน BKC Scan
“CAMT CMU มีวิสัยทัศน์ที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่ช่วยพัฒนาคุณภาพการเรียนให้กับนักศึกษา โดยจะนำแพลตฟอร์ม Certifile มาใช้ในการทำ Activity Transcript NFT ของนักศึกษา และใบอบรมต่าง ๆ ของคณะ รวมถึงโครงการด้านเทคโนโลยีต่าง ๆ ในอนาคต รวมทั้งมีแนวคิดที่จะนำไปต่อยอดเป็นมาตรฐานการทำงานร่วมกับคณะอื่น ๆ ในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ด้วยต่อไป” ผศ.ดร.วรวิชญ์ จันทร์ฉาย คณบดี CAMT CMU กล่าว
ทางด้าน นายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บิทคับเชน กล่าวว่า เทคโนโลยีบล็อกเชนจะสามารถนำมาประยุกต์ใช้เพื่อช่วยยกระดับการศึกษาได้ โดยการร่วมมือในโครงการนี้ถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT มาเข้ามาใช้ในในโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ ของประเทศไทย ซึ่งโครงการนี้จะช่วยให้นิสิต นักศึกษา มหาวิทยาลัย หน่วยงานรัฐ บริษัทเอกชน และบุคคลหรือองค์กรอื่นที่เกี่ยวข้อง สามารถตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารสำคัญทางการศึกษาดังกล่าว อีกทั้ง บิทคับเชน พร้อมสนับสนุนความร่วมมือในด้านอื่น ๆ เพื่อนำเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้สร้างให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ทั้งนี้ นายธวัชชัย ตั้งวรกิจถาวร กรรมการผู้จัดการ ทีพีซีเอกซ์ จำกัด กล่าวเสริมว่า ทีพีซีเอกซ์และธุรกิจในเครือสหพัฒน์มีวิสัยทัศน์ในการพัฒนานวัตกรรมต่าง ๆ จากเทคโนโลยีบล็อกเชน เพื่อมาประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นโอกาสอันดีในการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันการศึกษาและภาคธุรกิจ ให้สามารถคัดเลือกบุคลากรได้อย่างมั่นใจผ่านการยืนยันเอกสารด้วยระบบ Certifile ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การใช้งานกับเอกสารต่าง ๆ ระหว่างภาคธุรกิจด้วยกันต่อไปได้
สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการ Certifile ได้ที่ www.certifile.io
และบิทคับเชนได้ที่
Website: https://www.bitkubchain.com/
Facebook: https://www.facebook.com/bitkubchainofficial
Medium: https://medium.com/bitkubchain
Twitter: https://twitter.com/bitkubchain
Discord: https://discord.gg/WkJ6j279
Telegram: https://t.me/+jiM6dAP5cxUzZTM1
########