อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนับเป็นแหล่งรายได้หลักของนานาประเทศ เช่นเดียวกับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่เป็นหมุดหมายในใจของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ด้วยเหตุที่ว่าสถานที่ท่องเที่ยวค่อนข้างมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างจากที่อื่นในโลก ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ธรรมชาติ หรือแม้แต่ประเพณีและวัฒนธรรม แต่การท่องเที่ยวจะยังคงเป็นแหล่งรายได้หลักของแต่ละประเทศได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้นๆ มีการบริหารจัดการอย่างยั่งยืนหรือไม่
หน่วยงานหนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือและพัฒนาการท่องเที่ยวภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกก็คือ PATA (The Pacific Asia Travel Association) หรือสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก ซึ่งเป็นสมาคมไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนการวิจัยและสร้างกิจกรรมหรือนวัตกรรมให้กับองค์กรที่เป็นสมาชิก โดยจะจัดการประชุมสุดยอด PATA Annual Summit เป็นประจำทุกปี และปีนี้ได้จัดการประชุมขึ้นที่มาเก๊าควบคู่กับงาน PATA Youth Symposium 2024 ซึ่งเป็นเวทีรวบรวมผู้นำทางความคิดระดับนานาชาติ นักการศึกษาด้านการท่องเที่ยว และผู้นำด้านการท่องเที่ยวในอนาคต
วิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันการศึกษาด้านธุรกิจบริการและการท่องเที่ยวในเครือโรงแรมดุสิตธานี ในฐานะที่เป็นสมาชิกของ PATA มาโดยตลอด จึงให้ความสำคัญต่อเวทีสำหรับเยาวชนครั้งนี้ โดยได้ส่งนักศึกษา 2 คนเดินทางไปร่วมงานที่มาเก๊า ได้แก่ Ms. Zhanna Spitsyna นักศึกษาชั้นปีที่ 4 สาขาวิชาศิลปะการประกอบอาหารอย่างมืออาชีพ (หลักสูตรนานาชาติ) ผู้ผ่านการคัดเลือกทุน PATA Youth Sponsorship และ Mr. Heng Meng นักศึกษาชั้นปีที่ 2 สาขาวิชาการจัดการการบริการ (หลักสูตรนานาชาติ) ผู้ได้รับทุนจากวิทยาลัยดุสิตธานี
“ดิฉันมีโอกาสอันเหลือเชื่อที่ได้เจาะลึกอุตสาหกรรมการบริการและการท่องเที่ยวในระดับเอเชียแปซิฟิก” Ms. Zhanna Spitsyna กล่าวถึงสิ่งที่ได้รับจากการไปร่วมงานครั้งนี้ “กิจกรรมเหล่านี้มีคุณค่ามาก เพราะทำให้ดิฉันได้รับข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญ นอกจากนี้ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์มากมายกับผู้นำในอุตสาหกรรมและเพื่อนนักศึกษาจากทั่วโลก ความรู้และเครือข่ายที่ดิฉันได้รับได้ช่วยยกระดับทัศนคติทางวิชาชีพให้แก่ดิฉันเป็นอย่างมาก และช่วยเตรียมความพร้อมให้ดิฉันก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่มีชีวิตชีวานี้ ข้อมูลเชิงลึกและกำลังใจที่ได้รับจากการเดินทางครั้งนี้ล้ำค่ามากสำหรับดิฉัน ดิฉันจึงอยากขอขอบคุณ PATA อย่างสุดซึ้งที่ให้การสนับสนุนการเดินทาง”
ทางด้าน Mr. Heng Meng ได้กล่าวเสริมว่า “การได้รับโอกาสที่หาได้ยากในการเข้าร่วมงานใหญ่เช่นนี้ถือเป็นการเปิดหูเปิดตาให้ผมอย่างแท้จริง ภายในเวลาเพียง 3-4 วัน ก็ทำให้ผมรู้สึกว่าตัวเองเติบโตขึ้นมากแค่ไหน ซึ่งนั่นมาจากการมีโอกาสร่วมวงสนทนาอันมีค่ากับผู้คนที่สร้างแรงบันดาลใจที่นั่น ดังนั้นในปีหน้าถ้ามีการจัดงานแบบนี้อีกครั้ง ผมอยากสนับสนุนให้เพื่อนนักศึกษาทั้งจากวิทยาลัยดุสิตธานีและจากสถาบันอื่นที่เข้าร่วมโครงการ ต่อสู้เพื่อให้ได้รับโอกาสในการเดินทางไปร่วมงานเช่นผม เพราะมันไม่ใช่แค่การไปฟังการนำเสนอและการอภิปรายเท่านั้น แต่เป็นการพบปะและพูดคุยกับผู้คน ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำให้งานนี้มีคุณค่าสำหรับผมมาก”
วิทยาลัยดุสิตธานีเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของไทยที่สอนทางด้านธุรกิจบริการและการท่องเที่ยว บทบาทสำคัญของวิทยาลัยจึงหนีไม่พ้นการบ่มเพาะทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพเข้าสู่อุตสาหกรรมการบริการไทยและทั่วโลก วิทยาลัยดุสิตธานีจึงเสาะแสวงหาโอกาสและผลักดันให้นักศึกษาเข้าร่วมงานระดับสากลเช่นนี้ตลอดปี เพราะเชื่อมั่นว่า การได้ไปเก็บเกี่ยวไอเดียและประสบการณ์จากเวทีระดับนานาชาติเช่นนี้เป็นเครี่องมือที่ทรงประสิทธิภาพสำหรับบ่มเพาะนักศึกษา