หลายปีที่ผ่านมา แนวโน้มการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพหรือ Health Tourism ซึ่งนำการพักผ่อนหย่อนใจกับการดูแลสุขภาพทั้งกายและใจเข้ามาผสมผสานกันนั้น ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งเมื่อเกิดวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ก็ยิ่งมากระตุ้นให้การท่องเที่ยวลักษณะนี้ได้รับการจับตามองมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศไทยซึ่งมีศักยภาพในเรื่อง Medical & Wellness ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์เฉพาะทางหรือแพทย์ทางเลือก ทำให้เรากลายเป็นหมุดหมายการท่องเที่ยวแบบ Health Tourism จากนักท่องเที่ยวทั่วโลก
ทว่าปัญหาหลักของประเทศไทยก็คือ บุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญทั้งทางด้านการบริการและสุขภาพยังมีจำนวนไม่เพียงพอที่จะรองรับการเติบโตนี้ ดังนั้นวิทยาลัยดุสิตธานี สถาบันอุดมศึกษาในเครือโรงแรมดุสิตธานี ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาด้านธุรกิจบริการอันดับต้นๆ ของเมืองไทย จึงได้ริเริ่มที่จะผสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยพายัพ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในผู้นำทางด้านสาขาวิชาเกี่ยวกับการพยาบาล โดยเมื่อเร็วๆ นี้ได้จัดพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการร่วมกัน ณ วิทยาลัยดุสิตธานี กรุงเทพฯ โดยมี ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี และ ดร.ประวีณา คาไซ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา วิทยาลัยดุสิตธานี เป็นผู้ลงนามร่วมกับ อาจารย์อภิชา อินสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ และ นายสเปญ จริงเข้าใจ นายกสภามหาวิทยาลัยพายัพ
ในโอกาสนี้ ดร.อรรถเวทย์ พฤกษ์สถาพร อธิการบดีวิทยาลัยดุสิตธานี ได้กล่าวว่า วิทยาลัยดุสิตธานีและมหาวิทยาลัยพายัพมีความเชี่ยวชาญต่างกัน โดยคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ มีโรงพยาบาลแมคคอร์มิคซึ่งได้รับการยอมรับด้านการดูแลสุขภาพมาอย่างยาวนานเป็นสถานพยาบาลในสังกัด ในขณะที่วิทยาลัยดุสิตธานีซึ่งเป็นสถานศึกษาในเครือโรงแรมดุสิตธานี ก็ได้รับการยอมรับทางด้านทักษะการให้บริการ การจับมือร่วมกันระหว่างสองสถาบันที่มีความเชี่ยวชาญต่างกันนี้จึงจะสร้างประโยชน์อย่างมากต่อประเทศชาติ เพราะหากสามารถผสมผสานองค์ความรู้ทางด้านการบริการและการพยาบาลเข้าด้วยกันได้แล้ว ก็จะช่วยเติมเต็มกำลังคนให้กับทั้งอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ เพิ่มโอกาสในการทำงานให้คนไทย และยังตอบสนองความต้องการทั้งของผู้เรียนและตลาดงานอย่างแท้จริง
ทางด้านอาจารย์อภิชา อินสุวรรณ อธิการบดีมหาวิทยาลัยพายัพ ย้ำว่า โรงพยาบาลแมคคอร์มิคได้เปิดให้บริการมานานกว่า 101 ปี ทำให้มั่นใจได้ว่า คณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ มีคุณภาพสูง โดยล่าสุดคณะพยาบาลศาสตร์ มหาวิทยาลัยพายัพ ก็ได้รับการโหวตจากนักศึกษาให้เป็นอันดับ 1 ของมหาวิทยาลัยเอกชนทั่วประเทศในด้านสาขาวิชาพยาบาล จึงนับเป็นความภาคภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของกันและกันกับสถาบันที่มีความโดดเด่นเฉพาะทาง
ถึงแม้วิทยาลัยดุสิตธานีและมหาวิทยาลัยพายัพจะมีความเชี่ยวชาญแตกต่างกันกัน แต่ความแตกต่างนี้เองจะมาเติมเต็มซึ่งกันและกัน อีกทั้งอยู่บนเป้าหมายเดียวกันนั่นคือ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ให้แก่กันเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรมการบริการและสุขภาพให้เจริญรุดหน้าต่อไป