วันที่ 20 ธันวาคม 2565 ณ บิทคับ เอ็ม โซเชียล ชั้น 9 ศูนย์การค้าเอมควอเทียร์ บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด หน่วยงานด้านการลงทุนของ บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป ซึ่งเน้นการลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพหรือโครงการเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีเป็นหลัก รวมไปถึงสนับสนุนและให้โอกาสแก่นักพัฒนารุ่นใหม่ในการสร้างสิ่งที่มีประโยชน์และใช้งานได้จริงเพื่อพัฒนาและขยายระบบนิเวศบล็อกเชนทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมกับ บริษัท ทองลาวา จำกัด บริษัทจำหน่ายทุเรียนภูเขาไฟศรีสะเกษ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลูกในเขตพื้นที่ดินภูเขาไฟในจังหวัดศรีสะเกษเท่านั้น ส่งผลให้ทุเรียนที่ได้มีอัตลักษณ์เฉพาะตัวหรือรสชาติเฉพาะที่ไม่สามารถเลียนแบบได้ ทั้งสองบริษัทร่วมกันจัดพีธีลงนามบันทึกความร่วมมือเพื่อสนับสนุนเกษตรกรไทยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตรไปสู่ระดับสากล
พิธีลงนามบันทึกความร่วมมือในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด, นางสาวเนาวรัตน์ ธรรมสวยดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด, นางสาวบงกชกัลยาณ์ แก้วสุวรรณานนท์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทองลาวา จำกัด และนายสฤษฏ์ นาควารินทร์ พาร์ตเนอร์ บริษัท ทองลาวา จำกัด เป็นผู้ลงนาม ทั้งนี้ ยังได้รับเกียรติจากนางสาววรัญญาภัคก์ ศรีมหัทธนเวคิน ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายรัฐวิทย์ อังคสกุลเกียรติ เลขาธิการหอการค้าจังหวัดศรีสะเกษ,พาร์ตเนอร์บริษัท ทองลาวา จำกัด และสื่อมวลชนร่วมเป็นพยานในพิธี
ความร่วมมือในครั้งนี้มีจุดเริ่มต้นมาจากการที่นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ได้เข้าร่วมรายการ Shark Tank Thailand Season 3 ซึ่งเป็นรายการเรียลลิตี้ประเภทธุรกิจที่พร้อมสนับสนุนและผลักดันธุรกิจ Startup และ SME ที่มีศักยภาพให้ก้าวไปสู่ความสำเร็จ ซึ่งในโอกาสนี้นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ในฐานะ “ชาร์คท๊อป” ได้มีโอกาสนำเสนอแผนงานพร้อมเงินลงทุนให้แก่ บริษัท ทองลาวา จำกัด โดยมีความมุ่งมั่นในการสนับสนุนเกษตรกรไทยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตรไปสู่ระดับสากล จึงเกิดความร่วมมือดังกล่าวขึ้น
นายจิรายุส ทรัพย์ศรีโสภา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แคปปิตอล กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้กล่าวถึงวิสัยทัศน์ในความร่วมมือดังต่อไปนี้ “การจับมือกับบริษัท ทองลาวา จำกัด ถือเป็นความแปลกใหม่ ทุเรียนทองลาวาเป็นผลิตภัณฑ์จากภูมิปัญญาไทยที่สร้างโอกาสให้กับเกษตรกรไทยและสร้างโอกาสให้กับธุรกิจ SME ให้มีรายได้ที่เพิ่มมากขึ้น โดยบิทคับและทองลาวามีมุมมองที่ตรงกัน คือ ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน และต้องการจะส่งออกผลไม้ไทยซึ่งเป็นซอฟเพาเวอร์ไปสู่ต่างประเทศมากยิ่งขึ้นในอนาคต เนื่องจากในปัจจุบันความต้องการของทุเรียนไทยในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศจีนเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ดังนั้นการที่บิทคับเข้ามาจับมือกับทองลาวาในครั้งนี้ บิทคับจะต่อยอดพัฒนาในเรื่องของภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์, การตลาด รวมไปถึงการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามามีส่วนร่วม อาทิ การติดตามแหล่งปลูกทุเรียน, การสั่งพรีออเดอร์เพื่อคัดสรรค์คุณภาพผลิตภัณฑ์ให้ดีที่สุดตามที่ลูกค้าต้องการ, การนำ NFT มาประยุกต์ใช้เพื่อยกระดับอุตสาหกรรมทุเรียนไทยให้ก้าวขึ้นไปอีกระดับ เรียกได้ว่าเป็น Use Case แรกของประเทศไทย นอกจากนี้ยังมีการสนับสนุนในเรื่องของพันธมิตรเพื่อให้ทองลาวาเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อร่วมมือกันสนับสนุนให้ทุเรียนภูเขาไฟศรีษะเกษเป็นทุเรียนพรีเมี่ยม เปรียบเสมือนไวน์ของฝรั่งเศส สามารถซื้อเป็นของฝากและเป็นของขวัญในเทศกาลต่าง ๆ อีกด้วย”
นางสาวเนาวรัตน์ ธรรมสวยดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ เวนเจอร์ส จำกัด เปิดเผยว่า
“ในช่วงแรกบิทคับจะเข้ามาให้คำปรึกษาในส่วนของการบริหารจัดการต่าง ๆ, พัฒนาต่อยอดในส่วนของภาพลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น และพัฒนาในส่วนของการตลาดให้มีช่องทางการจัดจำหน่ายที่มากขึ้น สะดวกสบายและตรงกับความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน เนื่องจากทุเรียนภูเขาไฟศรีษะเกษเป็นผลิตภัณฑ์จากเกษตรกรโดยตรง ปัจจุบันยังมีช่องทางการจัดจำหน่ายไม่มากนัก โดยในปีหน้าเราตั้งเป้าที่จะส่งออกทุเรียนทองลาวาไปยังประเทศจีนเป็นที่แรก โดยตั้งเป้าไว้เบื้องต้นในส่วนของผลิตภัณฑ์ทุเรียนแกะเนื้อจำนวน 100 ตัน หรือคิดเป็นมูลค่า 200 – 300 ล้านบาท การร่วมมือครั้งนี้นับเป็น Use Case ที่สำคัญของบิทคับในอุตสาหกรรมการเกษตรซึ่งเป็นความภาคภูมิใจของบริษัทที่ได้มีส่วนในการช่วยเหลือและผลักดันสินค้าเกษตรเพื่อให้ออกสู่ระดับสากลต่อไป”
นางสาวบงกชกัลยาณ์ แก้วสุวรรณานนท์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ทองลาวา จำกัด กล่าวว่า “ขอขอบคุณคุณท๊อปและบิทคับที่ให้โอกาสทองลาวา สาเหตุที่เข้ามาจับมือกับบิทคับในครั้งนี้ เนื่องด้วยทองลาวาและบิทคับมีวิสัยทัศน์ที่ตรงกัน คือ การมอบโอกาสและช่วยเหลือเกษตรไทยอย่างยั่งยืน รวมถึงเชื่อมั่นว่าบิทคับจะเข้ามาช่วยในส่วนการขยายตลาดทุเรียนทองลาวาไปสู่วงกว้างได้มากขึ้น ทั้งในประเทศและนอกประเทศ และยกระดับทุเรียนไทยไปสู่สากลโลกอย่างแท้จริง โดยในปีหน้าวางแผนจะรุกตลาดต่างประเทศ 70% และที่เหลืออีก 30% เป็นการขยายตลาดในประเทศไทย เราจะมุ่งมั่นพัฒนาแบรนด์ทองลาวาให้ดียิ่งขึ้นและเดินหน้าต่อยอดสร้างผลิตภัณฑ์ให้มีความแปลกใหม่และตรงกับความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น”