บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด หรือที่รู้จักกันในนาม บิทคับ อะคาเดมี ศูนย์การเรียนรู้สินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้ ร่วมสร้างคอมมูนิตี้ และสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน และ บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด ผู้พัฒนาเครือข่ายบิทคับเชน เครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน จัดโครงการนําร่องพัฒนาหลักสูตร NFT Masterclass หรือการสร้าง NFT ด้วยตนเอง ให้แก่ผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการได้ Re-skill และ Up-skill พัฒนาฝีมือให้ก้าวตามเท่าทันโลกยุคดิจิทัลดิสรัปชัน โดยโครงการนี้เป็นการอบรมระยะสั้นจำนวน 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-23 ธันวาคม 2565 รวมทั้งสิ้น 30 ชั่วโมง ณ ห้องฝึกอบรมอาคาร Smart Job Center ชั้น 2 กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กระทรวงแรงงาน มีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าอบรมทั้งสิ้นจำนวน 20 คน
หลักสูตร “NFT Masterclass” ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้ผ่านทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อต่อยอดองค์ความรู้และพัฒนาศักยภาพผู้เข้าอบรมให้ก้าวตามทันยุคเทคโนโลยีอย่างแท้จริง โดยในภาคทฤษฎีจะได้เรียนรู้ตั้งแต่ข้อมูลขั้นพื้นฐานเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชน อาทิ ประวัติความเป็นมาของบล็อกเชน, การทำงานของเทคโนโลยีบล็อกเชนซึ่งเป็นเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัล, การเงินรูปแบบใหม่ไร้ศูนย์กลางหรือ Decentralized Finance (DeFi), สินทรัพย์ดิจิทัลประเภท Non-Fungible Token หรือ NFT, ประโยชน์ของ NFT ตลอดจนข้อมูลเชิงลึก อาทิ การสร้าง NFT เพื่อใช้ในการต่อยอดเทคโนโลยีบล็อกเชนและขายบน Bitkub NFT Marketplace, ปัจจัยต่าง ๆ ในการออกแบบ NFT ของตนเอง, การเริ่มต้นออกแบบ Road Map และการวิเคราะห์ SWOT เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการยกตัวอย่างการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนไปประยุกต์ใช้กับภาคธุรกิจต่าง ๆ เพื่อต่อยอดองค์ความรู้ให้กับผู้ร่วมอบรม
หลังจากผู้เข้าอบรมได้ศึกษาเชิงทฤษฎีครบถ้วนแล้ว บิทคับ อะคาเดมี ได้จัดกิจกรรมเวิร์คช็อปเพื่อให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจอย่างถ่องแท้และสามารถต่อยอดแนวคิดเพื่อสร้างสรรค์ผลงาน NFT เป็นของตนเอง ประกอบไปด้วย 7 เวิร์คช็อป อาทิ การทำความเข้าใจกระเป๋าสินทรัพย์ดิจิทัล, การทำความเข้าใจระบบร้านค้า NFT ผ่านการเชื่อมต่อ Bitkub NEXT, การศึกษาค้นคว้า NFT Project ในประเทศไทยหรือต่างประเทศ, การนำเสนอ NFT Project ที่ตนเองสนใจ, การออกแบบ NFT ของตนเอง, การทำ Creator Studio เพื่อสร้าง Avatar AI ด้วยแอปพลิเคชัน DawnAI, Remini AI, MidJourney และ Dall E 2 และการสร้าง NFT ด้วยตัวเอง โดยได้รับการสนับสนุนเป็นเหรียญ KKUB และ BCS จำนวน 50 BCS เพื่อใช้ในการจำลองการสร้าง NFT ผ่านการเชื่อมต่อกระเป๋า Bitkub NEXT ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้เข้าอบรมได้เข้าใจในทุกแง่มุมและนำมาปรับใช้กับแนวคิดของตนเองได้อย่างมีศักยภาพ
หลักสูตรดังกล่าวจัดสอนโดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจาก บิทคับ อะคาเดมี อาทิ นายปิติภูมิ รักษ์ชูชีพ (หัวหน้างานพัฒนาธุรกิจ) และ นายกันตณัฐ วุฒิธร (นักพัฒนาธุรกิจ) นอกจากนี้ยังได้รับเกียรติจากวิทยากรรับเชิญ อาทิ นายกานต์เดช สงเขียว (ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ) จาก บริษัท บิทคับ อินฟินิตี จำกัด และ นายณัฐกิตติ์ ขุนดำ (นักพัฒนาซอฟต์แวร์บล็อกเชน) จาก บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด
นายสุกฤษฏิ์ พุทธวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ แล็บส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ขอขอบคุณกรมพัฒนาฝีมือแรงงานที่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมศักยภาพคนในประเทศ พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้ บิทคับ อะคาเดมี ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการนี้ บิทคับ อะคาเดมี มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มอบความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการเตรียมความพร้อมก้าวเข้าสู่โลกดิจิทัลกับทุกคน ทั้งนี้ บิทคับ อะคาเดมี มีวิสัยทัศน์และจุดมุ่งหมาย คือ เป็นศูนย์การเรียนรู้สินทรัพย์ดิจิทัลและเทคโนโลยีบล็อกเชนที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้ามาเรียนรู้ ร่วมสร้างคอมมูนิตี้ และสร้างประสบการณ์เกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างมีคุณภาพและยั่งยืน บิทคับ อะคาเดมีและบริษัทในเครือจะเดินหน้าจัดกิจกรรมดี ๆ แบบนี้ต่อไปเพื่อเสริมสร้างอนาคตของคนในประเทศให้แข็งแรง ยั่งยืน และก้าวตามทันยุคเทคโนโลยีดิสรัปชัน”
นายภาสกร ปานนอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บิทคับ บล็อคเชน เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า “บิทคับเชนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนหลักสูตร NFT Masterclass หลักสูตรดังกล่าวเป็นหลักสูตรที่เป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับผู้ที่สนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีบล็อกเชนและ NFT ผู้เข้าอบรมจะได้เรียนรู้ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐานจนถึงข้อมูลเชิงลึก นอกจากนี้ ยังได้ลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ยิ่งขึ้น ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในอนาคต ตลอดจนการนำไปสร้างรายได้ให้กับตนเอง โครงการดังกล่าวทำให้เราได้เห็นถึงศักยภาพของคนรุ่นใหม่ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ ผมและทีมงานพร้อมจะสนับสนุนโครงการดี ๆ แบบนี้ต่อไป และพร้อมจะจับมือกับทุกภาคส่วนในการสร้างสรรค์โครงการดี ๆ เพื่อพัฒนาศักยภาพคนในประเทศอย่างยั่งยืน”