ประกันสังคม ดูแลผู้ประกันตนวัยเกษียณอายุ เผยขณะนี้ส่งหนังสือแจ้งยอดเงินสมทบของผู้ประกันตน ม.33 และ ม.39 ตรวจสอบข้อมูลเงินสมทบตั้งแต่วันแรกที่ออมจนถึง ธ.ค.59 พร้อมย้ำอายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ยื่นขอรับเงินชราภาพได้ทุกคนตามเงื่อนไข รับบำนาญรายเดือนเมื่อส่งเงินครบ 180 เดือน รับบำเหน็จเงินก้อนกรณีส่งไม่ครบ 180 เดือน แจงหลังอายุ 55 ปียังสามารถออมเงินชราภาพเพื่ออนาคต และรับสิทธิประโยชน์ 7 กรณี จากกองทุนประกันสังคมได้อย่างต่อเนื่อง
นางสาวอำพันธ์ ธุววิทย์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงการดำเนินงานจัดส่งหนังสือแจ้งยอดเงินสมทบกรณีชราภาพของผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 เพื่อให้ผู้ประกันตนตรวจสอบข้อมูลเงินสมทบของตนเองที่สะสมเข้ากองทุนประกันสังคมนับตั้งแต่เริ่มมีการจ่ายเงินสมทบกรณีชราภาพเมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2541 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2559 ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ขอรับใบแจ้งยอดเงินสมทบได้จากสถานประกอบการของตนเอง สำหรับผู้ประกันตน ตามมาตรา 39 จะจัดส่งให้ผู้ประกันตนตามที่อยู่ที่ให้ไว้กับสำนักงานประกันสังคม อย่างไรก็ตามเมื่อผู้ประกันตนได้รับหนังสือแจ้งยอดเงินออมหรือเงินสมทบกรณีชราภาพแล้ว ขอให้ตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ามีข้อสงสัยเรื่องวัน เดือน ปี ที่ชำระเงินสมทบ หรือจำนวนยอดเงินสมทบจนถึงปัจจุบันเป็นจำนวนเท่าใด ผู้ประกันตนสามารถสอบถามสายด่วนสำนักงานประกันสังคม โทร.1506 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาใกล้บ้านได้ทุกแห่งในวันและเวลาราชการ
รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวชี้แจงทำความเข้าใจถึงกรณีผู้ประกันตนที่มีความประสงค์จะลาออกแล้วจะได้รับเงินบำเหน็จหรือเงินบำนาญจากกองทุนประกันสังคมหรือไม่อย่างไรนั้น สำนักงานประกันสังคมขอเรียนว่า ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 และผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ทุกคนจะได้รับเงินสมทบกรณีชราภาพที่ตนเองออมไว้เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ตามที่กฎหมายประกันสังคมกำหนดไว้ ส่วนจะได้รับเงินบำเหน็จหรือบำนาญขึ้นอยู่กับระยะเวลาการจ่ายเงินสมทบ ถ้าชำระเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน หรือถ้าชำระเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ อย่างไรก็ดี ผู้ประกันตนตามมาตรา 33 ที่มีอายุเกิน 55 ปี ซึ่งยังคงมีนายจ้าง หรือผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ยังคงสามารถจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมเพื่อรับสิทธิประโยชน์ทั้ง 7 กรณีอย่างต่อเนื่องจนกว่า จะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน และขอรับเงินบำเหน็จหรือบำนาญกรณีชราภาพตามเงื่อนไขของผู้ประกันตนแต่ละคน ทั้งนี้การเพิ่มระยะเวลาการส่งเงินสมทบกรณีชราภาพจะยิ่งทำให้เงินออมที่สะสมในวัยเกษียณจากการทำงานมีเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย
----------------------------------