ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่ขอคืนสิทธิสบายใจได้ ประกันสังคม เผย เตรียม รพ. ในระบบรองรับไว้แล้ว เลขาธิการ สปส. แจง ผู้ประกันตนกลุ่มดังกล่าวใช้สิทธิการรักษา จะต้องส่งเงินสมทบมาแล้ว 3 เดือน ภายในระยะ 15 เดือน และสามารถเลือก รพ.เองได้ หากไม่เลือก ประกันสังคมจะจัด รพ.ให้ และผู้ประกันตนสามารถแจ้งเปลี่ยน รพ. ภายใน 90 วัน นับจากวันเริ่มสิทธิ
นายสุรเดช วลีอิทธิกุล เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงสิทธิการรักษาพยาบาลของผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่สิ้นสภาพและได้รับการคืนสิทธิเพื่อกลับเข้าสู่ระบบประกันสังคมอีกครั้ง ว่า จากการที่สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการช่วยเหลือให้ผู้ประกันตนมาตรา 39 ที่เคยสิ้นสภาพ และประสงค์จะกลับเป็นผู้ประกันตน ติดต่อยื่นคำขอคืนสิทธิได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่งที่ท่านสะดวก หรือทางไปรษณีย์ (แนบแบบ สปส. 1-20/1) หรือทางระบบอิเล็กทรอนิกส์ ได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึง 19 เมษายน 2562 ทั้งนี้ผู้ประกันตนจะต้องชำระเงินสมทบเดือนละ 432 บาท ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปนับแต่วันที่ได้รับอนุมัติให้กลับเป็นผู้ประกันตน เมื่อจ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไข ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 จะได้รับสิทธิประโยชน์ 6 กรณีเช่นเดิม คือ กรณีเจ็บป่วยหรือประสบอันตราย กรณีคลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร และกรณีชราภาพ อย่างไรก็ตาม ในการขอรับสิทธิการรักษาพยาบาล ผู้ประกันตนจะต้องนำส่งเงินสมทบมาแล้วจำนวน 3 เดือน ภายในระยะ 15 เดือน จึงจะมีสิทธิรับบริการทางการแพทย์ ซึ่งผู้ประกันตนต้องเลือกสถานพยาบาลเอง โดยสามารถเลือกสถานพยาบาลในพื้นที่/ จังหวัดรอยต่อ/ สถานพยาบาลเดิมก่อนถูกตัดสิ้นสภาพ ส่วนกรณีที่ผู้ประกันตนไม่เลือกสถานพยาบาล สำนักงานประกันสังคมจะจัดสถานพยาบาลเดิม ก่อนถูกตัดสิ้นสภาพ หรือสถานพยาบาลในพื้นที่ให้ ซึ่งผู้ประกันตนสามารถขอเปลี่ยนสถานพยาบาลได้ ภายใน 90 วัน นับจากวันเริ่มสิทธิ
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า สำหรับปี 2561 มีสถานพยาบาลที่เข้าร่วมโครงการประกันสังคมทั่วประเทศ ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน จำนวน 237 แห่ง แยกเป็นโรงพยาบาลรัฐ 159 แห่ง และโรงพยาบาลเอกชน 78 แห่ง ครอบคลุมสถานพยาบาลทั่วประเทศ ทั้งนี้ ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบผลการเลือกสถานพยาบาลได้ที่สำนักงานประกันสังคมได้ที่ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ เครื่อง Smart Kiosk ของกระทรวงมหาดไทย หรือที่ www.sso.go.th และที่สายด่วน 1506 บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
-----------------------------------------------------------