นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวถึงปัจจุบันภาครัฐได้ให้ความสำคัญด้านสวัสดิการสังคมในวัยเกษียณให้แก่ประชาชนในหลายรูปแบบ เช่น ระบบประกันสังคม ระบบบำนาญสำหรับข้าราชการ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ รวมไปถึงเบี้ยยังชีพคนชราภาพ เพื่อช่วยสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีในวัยเกษียณอย่างยั่งยืน อย่างไรก็ดีเพื่อกระตุ้นการออมผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม สำนักงานประกันสังคมจึงขอเชิญชวนผู้ประกันตนในระบบ โดยเฉพาะผู้ประกันตนมาตรา 39 ขอให้ส่งเงินสมทบอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการวางแผนการออมของตนเองภาคสมัครใจ และยังคงได้รับการดูแลด้านสิทธิประโยชน์ต่างๆจากสำนักงานประกันสังคม ทั้งนี้ ผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ทุกคนจะได้รับเงินสมทบ กรณีชราภาพที่ตนเองออมไว้ เมื่ออายุครบ 55 ปีบริบูรณ์ตามที่กฎหมายประกันสังคมกำหนด หรือสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ส่วนจะได้รับเงินบำเหน็จหรือบำนาญกรณีชราภาพนั้น ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการชำระเงินสมทบ หากชำระเงินสมทบครบ 180 เดือน จะได้รับเงินบำนาญชราภาพเป็นรายเดือน หรือถ้าชำระเงินสมทบไม่ครบ 180 เดือน จะได้รับเป็นเงินบำเหน็จชราภาพ สำหรับผู้ประกันตนตามมาตรา 39 ที่ยังคงจ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนประกันสังคมยังได้รับสิทธิประโยชน์อย่างต่อเนื่องจนกว่าจะสิ้นสุดความเป็นผู้ประกันตน ซึ่งการเพิ่มระยะเวลาการส่งเงินสมทบกรณีชราภาพจะยิ่งทำให้เงินออมที่สะสมในวัยเกษียณเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถตรวจสอบสิทธิและเงินชราภาพหรือมีข้อสงสัยติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์บริการข้อมูลประกันสังคม หมายเลขโทรศัพท์ 1506 ตลอด 24 ชั่วโมง ทุกวันไม่เว้นวันหยุดราชการ หรือที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขา ทั่วประเทศ หรือผ่านทาง www.sso.go.th สำนักงานประกันสังคม ขอให้ลูกจ้าง ผู้ประกันตนเชื่อมั่นในการดำเนินงานที่โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ประกันตนเป็นสำคัญ
----------------------------------
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน