นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กล่าวแนะนำกรณีขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิตและขอรับเงินบำเหน็จชราภาพว่า ผู้ประกันตนควรทำเอกสารระบุชื่อผู้มีสิทธิรับประโยชน์ทดแทนกรณีเสียชีวิต และขอรับเงินบำเหน็จชราภาพไว้ล่วงหน้า พร้อมระบุเลขประจำตัวประชาชนของผู้ที่รับสิทธิประโยชน์และพยานให้ชัดเจนด้วย จึงจะถือว่าเอกสารฉบับดังกล่าวถูกต้องสมบูรณ์ เพื่อใช้เป็นหลักฐาน ในการแสดงตัวว่าเป็นผู้มีสิทธิ รับประโยชน์ทดแทนอย่างแท้จริง โดยเอกสารดังกล่าวจะมอบให้ผู้ประกันตน หรือผู้มีสิทธิ รับประโยชน์ทดแทนเป็นผู้เก็บไว้เอง เพื่อจะนำไปยื่นที่สำนักงานประกันสังคม เมื่อผู้ประกันตนเสียชีวิต ซึ่งจะสามารถขอรับสิทธิได้ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่ผู้ประกันตนเสียชีวิต ณ สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัดที่ท่านสะดวก ซึ่งจะเป็นการป้องกันปัญหาการแอบอ้างรับประโยชน์ทดแทน
ปัจจุบัน สำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินสงเคราะห์กรณีตายและเงินบำเหน็จชราภาพ ให้กับบุคคลที่ผู้ประกันตนระบุให้เป็นผู้รับสิทธิประโยชน์ กรณีผู้ประกันตนไม่ได้ทำหนังสือระบุไว้ว่า ให้ใครเป็นผู้รับสิทธิประโยชน์ดังกล่าว สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินหรือประโยชน์ทดแทน ให้ผู้มีสิทธิตามกฎหมาย ในส่วนของผู้ประกันตนที่แต่งงานแล้ว หรือมีคู่สมรส บุตร หรือบิดา มารดา ที่ยังมีชีวิตอยู่ หากไม่ประสงค์จะมอบให้ผู้ใดเป็นผู้มีสิทธิเฉพาะราย และไม่ได้ทำหนังสือระบุชื่อผู้รับสิทธิประโยชน์ สำนักงานประกันสังคมจะจ่ายเงินดังกล่าวให้กับทายาทหรือผู้มีสิทธิ แต่สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ได้แต่งงาน โดยบิดา มารดาเสียชีวิต และไม่มีทายาท หากประสงค์จะมอบให้แก่บุคคลอื่นเป็นผู้มีสิทธิรับเงินดังกล่าว ผู้ประกันตนสามารถทำหนังสือระบุผู้รับสิทธิรับประโยชน์ทดแทนได้ สำหรับผู้ประกันตนที่ไม่ระบุบุคคลที่จะได้รับสิทธิหรือโสดและบิดามารดาเสียชีวิต เงินส่วนนี้จะตกเป็นของกองทุนประกันสังคมตามที่กฎหมายกำหนด
ทั้งนี้ผู้ประกันตนสามารถดาวน์โหลดหนังสือระบุผู้มีสิทธิรับเงินบำเหน็จชราภาพได้ที่ www.sso.go.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ 12 แห่ง/จังหวัด/สาขาทั่วประเทศ หรือโทร.1506 ให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง
........................................
ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน