ข้อเสนอเชิงนโยบายเกี่ยวกับระบบการดูแลรักษาพยาบาลผู้สูงอายุตามแผนผู้สูงอายุแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ควรกำหนดยุทธศาสตร์ด้านระบบคุ้มครองทางสังคมสำหรับผู้สูงอายุโดยมีมาตรการต่อไปนี้
•ส่งเสริม สนับสนุนชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรภาคประชาสังคม ในการจัดบริการด้านสุขภาพและสังคมของภาคเอกชน ให้มีมาตรฐาน มีระบบตรวจสอบคุณภาพ และกำหนดค่าบริการที่เป็นธรรม
•ภาครัฐจัดสรรงบประมาณ ทรัพยากรที่เพียงพอต่อการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน และระบบการดูแลผู้ป่วยของชุมชน (home and community-based care services)
•ส่งเสริมการพัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยที่บ้าน และระบบการดูแลผู้ป่วย (ผู้สูงอายุ) ของชุมชน
•กำหนดให้มีกฎหมายหรือมาตรการกำกับสถานบริบาลและการให้บริการด้านสุขภาพและสังคมของภาคเอกชน ให้มีมาตรฐาน มีระบบตรวจสอบคุณภาพ และกำหนดค่าบริการที่เป็นธรรม
•แก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อการระบบการดูแลรักษาพยาบาล โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการกระจายอำนาจแก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จัดทำ “ร่างพระราชบัญญัติการบริบาลผู้สูงอายุและผู้มีภาวะพึ่งพิง พ.ศ. ....”
ความจำเป็นในการเสนอกฎหมายใหม่ คือ กฎหมายที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบันเกี่ยวกับการให้บริการสุขภาพ (พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 พ.ร.บ.สถานประกอบการเพื่อสุขภาพ พ.ศ. 2559) และ พ.ร.บ.ผู้สูงอายุ พ.ศ. 2546 ไม่เหมาะสมที่จะนำมาปรับใช้กับธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ เนื่องจากกฎหมายเหล่านี้มิได้มีเจตนารมณ์เพื่อกำกับดูแลธุรกิจให้บริการสุขภาพผู้สูงอายุ จึงขาดมาตรการทางกฎหมายที่จำเป็นในการกำกับดูแล การนำกฎหมายเหล่านี้มาปรับใช้อาจช่วยแก้ปัญหาระยะสั้น แต่อาจทำให้เกิดปัญหาในอนาคต
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติมีดังนี้
•มีระบบกำกับดูแลสถานบริบาลผู้สูงอายุ ได้แก่ การออกใบอนุญาต การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขในการประกอบกิจการ
•กำหนดประเภทของสถานบริบาลผู้สูงอายุ
•กำหนดหน้าที่ของผู้รับอนุญาตผู้ดำเนินการ และผู้ดูแลผู้สูงอายุ
•กำหนดหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับดูแลสถานบริบาลผู้สูงอายุ ในรูปของคณะกรรมการ
•ควรให้กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข เป็นหน่วยงานรับผิดชอบหลัก
•มีบทบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค การป้องกันการหลอกลวง การเปิดเผยข้อมูลกิจกรรมของและการคิดคำนวณอัตราค่าบริการของสถานบริบาล การรายงานกิจวัตรประจำวันให้แก่ญาติผู้สูงอายุทราบ
•การดูแลผู้สูงอายุที่มีความจำเป็นที่จะต้องได้รับการดูแลโดยบุคลากรทางการแพทย์ (แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยพยาบาล)
•มีช่องทางการร้องเรียนการให้บริการของผู้สูงอายุ และมีการเยียวยาที่เหมาะสม
•มีบทบัญญัติที่ให้อำนาจหน้าที่แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ในการจัดให้มีสถานบริบาลผู้สูงอายุในพื้นที่ที่รับผิดชอบ รวมถึงการจัดกิจกรรมฟื้นฟูสมรรถภาพผู้สูงอายุ
• มีบทบัญญัติส่งเสริม สนับสนุนชุมชน องค์กรภาคประชาสังคม กลุ่มผู้สูงอายุให้สามารถรับการสนับสนุนจากภาครัฐในการจัดบริการแก่ผู้สูงอายุในชุมชน
•สิทธิของผู้ดูแลผู้สูงอายุที่บ้าน (caregiver) ที่ไม่รับค่าตอบแทน