Taiwan Excellence เปิดตัวเครื่องจักรกลสำหรับอุตสาหกรรมโลหะ
ตอกย้ำผู้นำท็อป 5 ผู้ส่งออกเครื่องจักรกลของโลก
การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปทั่วโลก เป็นผลให้ระบบห่วงโซ่อุปทานระหว่างประเทศหยุดชะงัก ในสถานการณ์ยากลำบากนี้ หลายประเทศได้เริ่มสร้างห่วงโซ่อุปทานในอุตสาหกรรมของตนเอง ทำให้ความต้องการเครื่องจักรกลเพิ่มสูงขึ้น จากสถิติของสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไต้หวัน (TAMI) พบว่ามูลค่าการส่งออกเครื่องจักรกลและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องของไต้หวันสูงถึง 2.634 พันล้านเหรียญสหรัฐในเดือนเมษายน 2564 เติบโตขึ้น 28.4% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และเครื่องมือกลมียอดส่งออกสูงขึ้น 13.5% ในช่วงเวลาเดียวกันเช่นกัน ไต้หวัน ติดอันดับหนึ่งในห้าประเทศที่มีการส่งออกเครื่องมือเครื่องจักรกลของโลกสูงสุด แสดงให้เห็นถึงการยอมรับการจัดการการผลิตที่มีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองความต้องการตลาดที่ใช้ระบบการผลิตแบบยืดหยุ่น เทคโนโลยีขั้นสูงของไต้หวันสามารถจัดการกับระบบงานการผลิตที่ยากได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถนำเสนอเครื่องจักรกลอัจฉริยะและโซลูชั่นให้กับรัสเซียและทั่วโลกได้เป็นอย่างดี
งานแถลงข่าวออนไลน์ “Taiwan Excellence - Navigating the Future of Metalworking” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2564 ในเวลาเดียวกันกับงานนิทรรศการ “Metalloobrabotka” โดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (BOFT), MOEA และ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA) ร่วมกับสมาคมอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไต้หวัน (TAMI) และ 5 บริษัทชั้นนำของไต้หวัน ได้แก่ Ching Hung (CHMER), Chin Fong, Equiptop, Speed Tiger และ Sigma มาร่วมแบ่งปันโซลูชันการผลิตอัจฉริยะขั้นสูง
นายแพทริค เฉิน ประธานคณะกรรมการเครื่องมือจักรกล สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องจักรกลไต้หวัน (TAMI) กล่าวว่า การฟื้นตัวของตลาดจีน สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ สอดคล้องกับการปรับเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานอันเป็นผลจากสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกากับจีน ซึ่งกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ความต้องการเครื่องมือตัดโลหะมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง มูลค่าการส่งออกเครื่องจักรกลและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องไต้หวันอยู่ที่ 37.3 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2563 เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น ไต้หวันตั้งเป้ามูลค่าการส่งออกเครื่องจักรกลและอุปกรณ์เกี่ยวเนื่องสูงขึ้นจาก 3.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ เป็น 42.6 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2564 และมีอัตราการเติบโต 10% ถึง 15% ทุกปี
ดร. ตา เจิน เผิง รองผู้อำนวยการฝ่ายเทคโนโลยีการผลิตอัจฉริยะ ศูนย์เทคโนโลยีเครื่องจักรกลอัจฉริยะ (Intelligent Machinery Technology Center : ITRI) กล่าวว่าอุตสาหกรรมเมทัลเวิร์คกิ้งของไต้หวันเปลี่ยนไปจากการพึ่งพาประสบการณ์ของวิศวกรไปสู่โหมดการผลิตที่ยอดเยี่ยมด้วยระบบซอฟต์แวร์อัจฉริยะ ไต้หวันไม่เพียงนำเสนออุปกรณ์อัจฉริยะแบบสแตนด์อโลนเท่านั้น แต่ยังมอบโซลูชันโรงงานอัจฉริยะ ที่รวมเทคโนโลยีขั้นสูง อย่างแอปพลิเคชัน AI, mechanical clouds และอื่นๆ สำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น อากาศยาน ยานพาหนะไฟฟ้า และจักรยาน อีกด้วย
นายเลฟ ฮเชาว์ ผู้จัดการฝ่ายขายประจำภูมิภาค Ching Hung Machinery & Electric Industrial Co. , Ltd. ย้ำว่าการอนุรักษ์พลังงานและการลดคาร์บอนกลายเป็นประเด็นสำคัญระดับโลก จำเป็นต้องได้รับการพิจารณาควบคู่ไปกับการพัฒนาอุตสาหกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจของมนุษยชาติ ผลิตภัณฑ์ของ Ching Hung Intelligent Linear Drive Wire Cut EDM (RV series) มาพร้อมกับ "ระบบจ่ายไฟประหยัดพลังงานใหม่” ปฏิวัติวงการจ่ายไฟ I8+ เพิ่มความเร็วในการประมวลผล 15% และลดการใช้พลังงานลง 20 % เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นก่อนหน้า นอกจากนี้ เครื่องทำความเย็นให้ความถี่คงที่ สามารถช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าประมาณ 1,500 กิโลวัตต์ต่อชั่วโมงต่อเดือน
นายชาร์ล วู ตัวแทนฝ่ายขายประจำภูมิภาคต่างประเทศ Chin Fong Machine Industrial Co., Ltd. นำเสนอ "ST1 Series: Straight Side Single Crank Precision Presses" สามารถปั๊มแบบได้หลากหลาย เฟรมปกติ C ถูกปรับให้มีด้านตรง ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความแม่นยำในการกดปั๊ม การออกแบบแบบเปิดด้านข้างตอบสนองความต้องการของระบบการผลิตอัตโนมัติให้มีความแม่นยำสูงและประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถใช้ในงานที่หลากหลาย เช่น การปั๊มเจาะ (blanking) การลากขึ้นรูป (drawing) การตัด (bending) การกำหนดตำแหน่ง (marking) การรีดแบน (flattening) และการตัดขอบ (trimming) นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ร่วมกับระบบอัตโนมัติและระบบปั๊มอัจฉริยะได้ พร้อมกันนี้ Chin Fong ยังเปิดตัว "Intelligent Forming Productivity Management System (iForming PMS)" ซึ่งได้รวมเทคโนโลยีล่าสุด อย่าง AI, IoT และการวิเคราะห์ข้อมูล Big Data ครอบคลุมอุปกรณ์ โรงงาน ผลิตภัณฑ์ การบริหารจัดการ และบริการอัจฉริยะ ช่วยให้ลูกค้าก้าวสู่ระบบดิจิทัลได้สำเร็จ
นายชาร์ล แชง ผู้จัดการทั่วไป Equiptop Hitech Corp. เปิดตัว "High-Precision Rotary Type grinder (ERG-600)" เครื่องเจียระไนที่ประกอบด้วย วัสดุเซรามิกโลหะที่มีความแม่นยำสูง ตัวเว้นแกน วัสดุแข็งและวัสดุเปราะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิ้นส่วนอากาศยานความแม่นยำสูง ตัวดิสก์หมุน Hydrostatic มีแกนหลักใช้น้ำมันหยุดการหมุนดิสก์เหนือพื้นผิวน้ำมัน ไม่จำเป็นต้องสัมผัสตัวเครื่อง ซึ่งจะช่วยเพิ่มความแม่นยำ เสถียรภาพ การตั้งศูนย์กลางอัตโนมัติ ยืดอายุการใช้งาน และลดต้นทุนการบริการ ฟังก์ชันความเร็วคงที่ทำให้เกิดความแม่นยำสูง และยืดอายุการใช้งาน ใช้โครงสร้างที่มีความแข็งแรงให้ทนทานต่อการทำงานมากกว่าเครื่องจักรกลในรูปแบบเดิม พลังงานมาจากมอเตอร์เซอร์โว ช่วยเร่งรอบการหมุนได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องใช้ตัวควบคุมหยุดเครื่องชั่วคราว
เอมิลี่ ชาง ฝ่ายขาย Speed Tiger Precision Technology Co. Ltd. เปิดตัว "SN Carbide Drill Series" ดอกสว่านคาร์ไบด์ที่มีเว้นร่องห่างที่ไม่เท่ากัน และขอบไม่เรียบ ช่วยป้องกันการสั่นสะเทือน และขจัดเศษโลหะได้ดีขึ้น ทำให้การตัดตรงแม่นยำขึ้น นอกจากนี้ การออกแบบดอกสว่านช่วยลดการแตกหักจากการตัดหลังการใช้งาน การเคลือบ ZrN-A คอมโพสิตหลายชั้นช่วยเพิ่มความทนทานต่อการสึกหรอ ป้องกันการเกาะติด และยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ ทำให้ลูกค้าได้รับประสิทธิภาพ ความแม่นยำ และคุณภาพสูง รวมทั้ง ยังช่วยลดต้นทุนอีกด้วย
นายแดเนียล จาง หัวหน้าฝ่ายการตลาด Sigma CNC Technology Machinery Co., Ltd. นำเสนอ "SIGMA CNC Double Column 5-Axis Machining Center (S5A-4732HH)" เหมาะกับวัสดุที่ตัดยาก และวัสดุไทเทเนียมอัลลอยด์ ตัวเครื่องถูกออกแบบให้มีโครงสร้างแข็งแรงสูง ส่วนหัว 2 แกนเป็นกลไกแกนหมุนสองแกนพร้อมกัน พร้อมเกียร์ที่เปลี่ยนแกน B และแกน C ได้อย่างราบรื่น นอกจากนี้ ยังออกแบบกล่องเกียร์สองชั้นสำหรับการตัดหนักด้วยตัวเอง (อัตราทดเกียร์ 1:1.75 และ 1:7) ให้แรงบิดสูงสุดถึง 1155 นิวตันต่อเมตร การออกแบบโครงสร้างรางแกน Z ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรเฉพาะ ช่วยลดแรงสั่นสะเทือนในการตัดเฉือน โดยเฉพาะในวัสดุที่ตัดเฉือนยาก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการตัดเฉือน และลดการเกิดพื้นผิวขรุขระ ช่วยยืดอายุการใช้งานของเครื่องมือ นอกจากนี้ เครื่อง CNC ของ Sigma ถูกติดตั้งตัวในระบบจัดการของ FANUC, MITSUBISHI, SIEMENS และ HEIDENHAIN และบริหารจัดการผ่านระบบปฏิบัติการแอปพลิเคชันเครื่องจักรกลแบบเครือข่าย และการรวบรวมข้อมูลผ่านฟังก์ชันโปรโตคอลการสื่อสารมาตรฐานสากล
งานแถลงข่าวครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้ชมกว่า 200 คน จากรัสเซีย ไทย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ อังกฤษ และประเทศอื่นๆ อีกมากมาย
สามารถรับชมย้อนหลังได้ที่
ติดตามข้อมูลบริษัทและสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://reurl.cc/xgKAjL
รายละเอียดเพิ่มเติม
| | ||||||
"Intelligent Linear Drive Wire Cut EDM (RV853L)" by Ching Hung | "ST1 Series: Straight Side Single Crank Precision Presses" by Chin Fong | ||||||
| | ||||||
"Intelligent Forming Productivity Management System (iForming PMS )" by Chin Fong | "High-Precision Rotary Type grinder (ERG-600)" by Equiptop | ||||||
| | ||||||
"SN Carbide Drill Series" by Speed Tiger | "SIGMA CNC Double Column 5-Axis Machining Center(S5A-4732HH)" by Sigma |
Taiwan Excellence
เกี่ยวกับ Taiwan Excellence
Taiwan Excellence Awards ได้รับการจัดตั้งโดยกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน ในปี 1993 สินค้าที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Taiwan Excellence Awards จะผ่านการคัดเลือกอย่างเข้มข้น โดยพิจารณาจากความเป็นเลิศด้านการค้นคว้าและวิจัย การออกแบบ คุณภาพ และการตลาด สัญลักษณ์ Taiwan Excellence จะเป็นเครื่องหมายการค้าที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก และเผยแพร่ไป 106 ประเทศ หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.taiwanexcellence.org
Bureau of Foreign Trade, MOEA (BOFT)
เกี่ยวกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (BOFT), MOEA
กรมการค้าต่างประเทศ (The Bureau of Foreign Trade: BOFT) อยู่ภายใต้การบริหารของ กระทรวงเศรษฐกิจไต้หวัน (The Ministry of Economic Affairs: MOEA) โดยมีหน้าที่ในการควบคุมกฎระเบียบและเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนสินค้า ควบคุมเศรษฐกิจ และการลงทุนของต่างประเทศ BOFT ยังได้ทำงานร่วมกับ สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA ในหลายๆ โครงการ ทั้งโครงการในไต้หวันหรือโครงการนานาชาติ
Taiwan External Trade Development Council (TAITRA)
เกี่ยวกับสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน (TAITRA)
สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA เป็นองค์กรกึ่งเอกชนที่ไม่หวังผลกำไรที่ช่วยส่งเสริมการค้าของไต้หวัน สภาได้ถูกตัดตั้งขึ้นในปี 1970 เพื่อช่วยการค้ากับต่างชาติ สภาส่งเสริมการค้านี้ได้รับการสนับสนุนจากทั้งทางรัฐบาล องค์การอุตสาหกรรม และองค์การการค้าต่างๆ อีกมากมาย สภา TAITRA ได้สนับสนุนธุรกิจของไต้หวันให้มีความมั่นคงมากขึ้น ทั้งยังช่วยส่งเสริมการค้าต่างประเทศให้กลุ่มธุรกิจไต้หวันสามารถแข่งขันกับประเทศอื่น ๆ ทั่วโลกได้ นอกจากนี้ สภายังได้มีการโปรโมตและสร้าเครือข่ายธุรกิจโดยฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญกว่า 1,200 คนที่ทำงานอยู่ที่สำนักงานใหญ่ในกรุงไทเป และในสำนักงานอื่นๆ อีกกว่า 60 ประเทศทั่วโลก นอกจากสภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA แล้วยังมีองค์กรพันธมิตรอื่นๆ เช่น Taiwan trade Center (TTC) และ Taipei World Trade Center (TWTC) ที่สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกแห่งไต้หวัน หรือ TAITRA ได้ร่วมงานและสร้างโอกาสให้กับกลุ่มธุรกิจใหม่ๆ อีกมากมาย หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้ที่ www.taitra.org.tw