อาลีบาบา คลาวด์ ธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ได้มอบหมายให้บริษัทวิจัยทำการสำรวจ และพบว่าธุรกิจในภูมิภาคเอเชียยกให้ความปลอดภัยไซเบอร์ เป็นปัจจัยสำคัญสูงสุดในการพิจารณาว่าจะเลือกใช้กลยุทธ์คลาวด์แบบใด และเลือกใช้ผู้ให้บริการคลาวด์ (คลาวด์เวนเดอร์) รายใด
การสำรวจ"The Next-Generation Cloud Strategy in Asia" ได้รวบรวมคำตอบจากองค์กร 1,000 แห่งในตลาดแปดแห่งในเอเชียที่ใช้คลาวด์อยู่ในปัจจุบัน ผู้ตอบแบบสำรวจระบุให้ความปลอดภัยเป็นเหตุผลหลักในการเลือกกลยุทธ์การใช้คลาวด์ในปัจจุบัน (ไพรเวทคลาวด์: 74%; ไฮบริดคลาวด์: 70% และพับลิคคลาวด์: 58%)
สำหรับเรื่องของการเลือกคลาวด์เวนเดอร์ ผู้ตอบแบบสำรวจมากกว่าสองในสาม (69%) ระบุว่าความปลอดภัยเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณามากกว่าปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความพร้อมใช้ (58%) และค่าใช้จ่าย (55%)
การให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยบนคลาวด์เมื่อจะเลือกคลาวด์เวนเดอร์นั้น เป็นไปในทิศทางเดียวกันในทุกตลาด โดยเฉพาะในฟิลิปปินส์ (85%) อินโดนีเซีย (82%) และไทย (78%) และสอดคล้องกันในทุกอุตสาหกรรม เช่น ภาคการผลิต สื่อและโทรคมนาคม รวมถึงบริการทางการเงิน นอกจากนี้ การสำรวจก่อนหน้านี้[1]ที่เผยแพร่ในปี 2564 ยังพบว่าผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ (58%) ระบุว่า "security credentials" หรือการพิจารณาคุณสมบัติหรือความสำเร็จด้านความปลอดภัยของคลาวด์เวนเดอร์ เป็นเหตุผลหลักในการเลือกว่าจะใช้คลาวด์เวนเดอร์รายใด
Jiangwei Jiang นักวิจัยอาวุโสและผู้จัดการทั่วไปด้านผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานของอาลีบาบา คลาวด์ อินเทลลิเจนซ์ กล่าวว่า “อาลีบาบา คลาวด์ ให้ความสำคัญอย่างยิ่งยวดกับความปลอดภัยในการใช้คลาวด์ เราเข้าใจถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อธุรกิจจากเหตุการณ์ด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ ไม่ว่าเหตุการณ์นั้นจะใหญ่หรือเล็กก็ตาม เราจึงนำเสนอโซลูชันด้านความปลอดภัยที่ครอบคลุมในวงกว้าง ซึ่งสามารถปรับให้เป็นโซลูชันที่เจาะจงตอบความต้องการเฉพาะทางของธุรกิจต่าง ๆ ทั่วเอเชีย ช่วยให้ธุรกิจเหล่านั้นปกป้องข้อมูล แอปพลิเคชัน และโครงสร้างพื้นฐานไอทีได้อย่างรัดกุม เราได้รับการรับรองด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบมากกว่า 130 รายการจากทั่วโลก และภารกิจของเราคือเสริมความสามารถให้กับธุรกิจต่าง ๆ ด้วยการมอบเครื่องมือและทรัพยากรที่จำเป็น เพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นใช้คลาวด์ได้อย่างมั่นใจ และเชื่อมั่นว่าทรัพย์สินของพวกเขาได้รับการปกป้องจากโซลูชันด้านความปลอดภัยที่มีสมรรถนะระดับแนวหน้าในอุตสาหกรรม”
ผลสำรวจยังระบุว่า นอกจากเรื่องความปลอดภัยแล้ว ยังมีอุปสรรคอื่นที่ธุรกิจต่าง ๆ พบเจอเมื่อนำกลยุทธ์คลาวด์ที่มีประสิทธิภาพมาใช้ เช่น การอบรมพนักงานที่ไม่เพียงพอ (ไพรเวทคลาวด์: 42%; พับลิคคลาวด์: 37%) และการขาดงบประมาณ (ไพรเวทคลาวด์: 36%; พับลิคคลาวด์: 36%)
อาลีบาบา คลาวด์ มอบหมายให้ NielsenIQ ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดระดับโลกดำเนินการสำรวจนี้ ด้วยจุดประสงค์เพื่อให้เข้าใจสถานะของการใช้กลยุทธ์คลาวด์ในเอเชียในปัจจุบันได้ดีขึ้น
ปลดล็อกศักยภาพการดำเนินงานด้วยการใช้คลาวด์
ผู้ตอบแบบสำรวจ โดยไม่คำนึงถึงประเภทของกลยุทธ์ที่ใช้ กล่าวว่า "การเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน" เป็นประโยชน์ใหญ่ที่สุดที่ได้จากการใช้คลาวด์ (ไฮบริดคลาวด์: 71%; พับลิคคลาวด์: 62% และ ไพรเวทคลาวด์: 60%)
ผู้ใช้พับลิคคลาวด์ยังได้รับประโยชน์อื่น ๆ ที่สำคัญจากการใช้คลาวด์ เช่น มีความต่อเนื่องทางธุรกิจมากขึ้น (47%) รองรับการทำงานจากระยะไกลได้ดีขึ้น (45%) รวมถึงมีความปลอดภัยมากขึ้นและบริหารความเสี่ยงได้ดีขึ้น (44%)
Jiang กล่าวเสริมว่า “ธุรกิจต่าง ๆ ในเอเชียมองหาโซลูชันคลาวด์ที่ปลอดภัยและเสถียรมากขึ้นเรื่อย ๆ และต้องการการซัปพอร์ตในท้องถิ่น ซึ่ง อาลีบาบา คลาวด์ สามารถตอบสนองความต้องการเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี ด้วยความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นที่แข็งแกร่งของเรา เราจึงสามารถสนับสนุนลูกค้า และเสริมศักยภาพให้กับทรัพยากรของลูกค้าได้ นอกจากนี้ เรายังมีพันธะสัญญาที่จะพัฒนาความสามารถพิเศษ มอบการอบรมและทรัพยากรที่จำเป็นให้กับธุรกิจต่าง ๆ เพื่อให้ธุรกิจเหล่านั้นได้รับประโยชน์จากโซลูชันคลาวด์ของเราได้มากที่สุด ธุรกิจต่าง ๆ ยังสามารถได้ประโยชน์จากความเข้าใจตลาดท้องถิ่นและกฎระเบียบต่าง ๆ อย่างถ่องแท้ของเรา จากเวลาในการตอบกลับที่รวดเร็วขึ้น และจากประสบการณ์ที่กว้างขวางของเราในอุตสาหกรรมหลากหลายตั้งแต่ ค้าปลีก ไปจนถึง การเงิน หรือ โลจิสติกส์ ไปจนถึงอุตสาหกรรมด้านความบันเทิง"
คลาวด์เวนเดอร์ในเอเชียให้บริการที่เกินความคาดหวังของผู้ใช้
การสำรวจแสดงให้เห็นว่า ธุรกิจส่วนใหญ่ (38%) ใช้ผู้ให้บริการที่อยู่ในภูมิภาค/เอเชีย ผลสำรวจนี้แสดงพัฒนาการของธุรกิจส่วนใหญ่ (91%) รายงานประสบการณ์การใช้บริการคลาวด์ของพวกเขาเป็นไปตามที่คาดหวังหรือเกินความคาดหวัง ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่ามีบริการคลาวด์คุณภาพสูงอยู่ในเอเชีย
สำหรับประเทศไทย ผลสำรวจแสดงให้เห็นชัดว่าธุรกิจจำนวนมาก (64%) เลือกใช้ผู้ให้บริการที่อยู่ในภูมิภาค/เอเชีย ในขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจในเกาหลีใต้ใช้ผู้ให้บริการในท้องถิ่นมากที่สุด (56%) ในมุมของภาคอุตสาหกรรม ธุรกิจในภาคการผลิต (42%) มีแนวโน้มใช้ผู้ให้บริการในภูมิภาค/เอเชีย ในขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามที่อยู่ในภาคธุรกิจค้าปลีก (45%) และภาครัฐ (45%) ให้ความสำคัญกับผู้ให้บริการในท้องถิ่นมากกว่า
เกี่ยวกับการสำรวจ
การสำรวจนี้ดำเนินการเมื่อปลายเดือนกันยายน ถึงต้นเดือนตุลาคม 2565 รวบรวมคำตอบผ่านแบบสอบถามออนไลน์จากผู้มีอำนาจตัดสินใจเกี่ยวกับกลยุทธ์คลาวด์ 1,000 คน ในองค์กรขนาดเล็กและขนาดใหญ่ที่ปัจจุบันใช้บริการคลาวด์ ทำการสำรวจในตลาดแปดแห่งในเอเชีย ประกอบด้วย ฮ่องกง มาเลเซีย สิงคโปร์ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ไทย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ผู้ตอบแบบสำรวจเป็นตัวแทนจากอุตสาหกรรมหลากหลาย เช่น บริการทางการเงิน เกม อินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี ภาคการผลิต สื่อและโทรคมนาคม ภาครัฐและค้าปลีก
###
เกี่ยวกับอาลีบาบา คลาวด์
อาลีบาบา คลาวด์ (www.alibabacloud.com) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2552 เป็นธุรกิจด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและหน่วยงานหลักด้านอินเทลลิเจนซ์ของอาลีบาบา กรุ๊ป ผู้ให้บริการคลาวด์ครบวงจรให้กับลูกค้าทั่วโลก ซึ่งรวมถึง การประมวลผลแบบยืดหยุ่น ดาต้าเบส สตอเรจ บริการเน็ตเวิร์กเวอร์ชวลไลเซชัน การประมวลผลขนาดใหญ่ ระบบความปลอดภัย บริการด้านการบริหารจัดการและแอปพลิเคชัน การวิเคราะห์บิ๊กดาต้า แพลตฟอร์มแมชชีนเลิร์นนิ่ง และบริการ IoT ข้อมูลจาก IDC ระบุว่า อาลีบาบารักษาตำแหน่งผู้ให้บริการพับบลิคคลาวด์ด้าน IaaS เป็นลำดับสามจากผู้ให้บริการด้านนี้ทั่วโลกต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2561 นอกจากนี้การ์ทเนอร์ยังจัดอันดับให้อาลีบาบาเป็นผู้นำด้านผู้ให้บริการ IaaS
สำหรับสื่อมวลชน กรุณาติดต่อ
แคลร์ โม
อาลีบาบา คลาวด์
mopian.mp@alibaba-inc.com
นภา สุทธิญาณโสภณ
บริษัทเอฟเอคิว จำกัด
napa@pc-a.co.th
[1] “The Role of Cloud in Asia and Confidence in Asian Innovation Survey” was commissioned by Alibaba Cloud and conducted by an independent research organization to obtain a better understanding of how regional businesses are feeling about and using cloud solutions as well as viewing local innovation. More than 1,000 businesses from six markets across Asia, including Hong Kong, Malaysia, Singapore, India, Indonesia, and Philippines, participated in the survey by answering a questionnaire distributed in November 2020.