2 พฤศจิกายน 2560: เอไอเอส ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3/2560 กำไรสุทธิ 7,469 ล้านบาท มีรายได้รวมเติบโตขึ้น 4% จากปีก่อน การใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 กิกะไบต์ต่อเดือน และธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นเป็น 481,500 ราย สำหรับรอบเก้าเดือนแรกของปี 2560 รายได้รวมเติบโต 5.1% สอดคล้องกับที่คาดการณ์ทั้งปี และมีกำไรสุทธิ 22,377 ล้านบาท
นายสมชัย เลิศสุทธิวงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส กล่าวว่า “เอไอเอสในฐานะผู้ให้บริการดิจิทัลไลฟ์ ยังคงพัฒนาคุณภาพทั้งด้านเครือข่ายและงานบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองพฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคในยุคดิจิทัลให้ครบทุกด้าน สำหรับผลประกอบการไตรมาส 3/2560 นี้ รายได้รวมยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเติบโตขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากทั้งบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการเอไอเอส ไฟเบอร์
โดยการเติบโตของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่สืบเนื่องจากลูกค้ามีการใช้งานดาต้าเพิ่มขึ้นเป็น 5.9 กิกะไบต์ต่อเดือน โดยเฉพาะบริการชมวีดีโอผ่านโทรศัพท์มือถือยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้เอไอเอสยังได้การเปิดตัวเครือข่ายใหม่ AIS NEXT G ที่เร็ว แรงที่สุด จากการรวมกันของเทคโนโลยี Super Wifi และ 4G เป็นรายแรกในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยความเร็วสูงถึง 1 กิกะบิท จึงทำให้ลูกค้าพึงพอใจจากประสบการณ์ในการชมวีดีโอมากยิ่งขึ้น โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2560
เอไอเอสมีจำนวนลูกค้า 4G คิดเป็น 42% ของฐานลูกค้าทั้งหมด 40.2 ล้านเลขหมาย ขณะที่ธุรกิจเอไอเอส ไฟเบอร์ ได้ขยายฐานผู้ใช้บริการเป็น 481,500 ราย และได้ออกแพ็กเก็จ “เอไอเอส ไฟเบอร์ พาวเวอร์ 4” (AIS Fibre Power 4) ที่ผสานกันระหว่าง 3 ธุรกิจหลักอย่างเต็มรูปแบบ โดยลูกค้าสามารถใช้งานได้ทั้งอินเทอร์เน็ตมือถือ, อินเทอร์เน็ตบ้าน, เอไอเอส ซุปเปอร์ไวไฟ และรับชมพรีเมียมคอนเทนต์ผ่าน AIS PLAYBOX ทางทีวี หรือผ่านแอป AIS PLAY ทางโทรศัพท์มือถือ ที่สามารถสร้างความแตกต่าง และตอบสนองความต้องการของลูกค้าในทุกๆ ด้าน ได้อย่างแท้จริง โดยเอไอเอสยังคงมีเป้าหมายที่จะก้าวเป็นผู้นำในตลาดอินเทอร์เน็ตบ้านในอีก 3 ปีข้างหน้า
โดยภาพรวมในไตรมาส 3/2560 จากรายได้ที่เติบโตและการบริหารต้นทุนอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะการเน้นทำแคมเปญมือถือในกลุ่มลูกค้าระบบรายเดือน ส่งผลให้เอไอเอสมีรายได้ก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย และค่าเสื่อม (EBITDA) เพิ่มขึ้น 15% มาอยู่ที่ 17,589 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิปรับตัวดีขึ้น อยู่ที่ 7,469 ล้านบาท เติบโต 14% เทียบกับปีก่อน
เอไอเอสมุ่งมั่นที่จะนำความพร้อมในด้านเทคโนโลยีดิจิทัลมามอบให้ลูกค้าและคนไทย ตามแนวคิด Digital For Thais และตอบสนองนโยบาย Thailand 4.0 เพื่อประโยชน์กับประเทศอย่างต่อเนื่องต่อไป” นายสมชัย กล่าวสรุป