กรุงเทพฯ, 26 กันยายน 2561 – วีซ่า บริษัทผู้ให้บริการด้านการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลระดับโลก แถลงเปิดตัวการชำระเงินรูปแบบใหม่ล่าสุดที่ให้ผู้บริโภคชาวไทยสามารถผูกบัตรเครดิตวีซ่าเข้ากับโทรศัพท์มือถือในการใช้สแกนเพื่อจ่ายกับวีซ่า การเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่สำหรับการปฏิวัติการใช้จ่ายในประเทศไทย และยังเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เอื้อประโยชน์ให้กับผู้บริโภคและร้านค้าทั่วประเทศ
ในโลกปัจจุบัน นวัตกรรมในการชำระเงินได้ถูกพัฒนาให้มีรูปแบบที่หลากหลายมากขึ้น โดยจากผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค[1] พบว่าสามในสี่ (74 เปอร์เซ็นต์) ของผู้ตอบแบบสำรวจชาวไทยรู้จักการชำระเงินผ่าน QR Code ซึ่งเป็นสัดส่วนที่สูงที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเกือบครึ่ง (46 เปอร์เซ็นต์) ระบุถึงความต้องการที่จะใช้วิธีการชำระเงินแบบนี้เพื่อใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
คุณสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “เราได้เรียนรู้จากผู้บริโภคถึงความพร้อมที่จะใช้วิธีการชำระเงินผ่าน QR Code ในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขาจะต้องสามารถชำระเงินผ่านมือถือได้ และไม่ถูกจำกัดด้วยแหล่งที่มาของเงินเพียงที่เดียว การมีบัตรวีซ่าอยู่โทรศัพท์นั้น ถือเป็นการเพิ่มตัวเลือกในการชำระเงินให้กับผู้บริโภคชาวไทย โดยยังได้รับความปลอดภัยและสะดวกสบายตามมาตรฐานของวีซ่า นอกจากนี้ การเลือกชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านโทรศัพท์มือถือ ยังทำให้ผู้บริโภคได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากขึ้น เช่น การสะสมคะแนน ความยืดหยุ่นในการคืนเงิน การแก้ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น เป็นต้น”
การชำระเงินผ่าน QR Code ยังเป็นการเพิ่มช่องทางการรับชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทั่วประเทศ และยังจะช่วยลดค่าใช้จ่ายให้กับร้านค้าเมื่อผู้บริโภคเลือกชำระเงินผ่าน QR Code ด้วยโทรศัพท์มือถือ สิ่งเหล่านี้จะเป็นฟันเฟืองสำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนนโยบายทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับร้านค้ารายย่อยและอีคอมเมิร์ซ ซึ่งเป็นที่ที่การชำระเงินผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ได้รับความนิยมสูง
“การสรรหาโซลูชั่นที่เหมาะสมให้กับร้านค้าคือ การมีตัวเลือกการรับชำระเงินที่รวดเร็ว ปลอดภัย และคุ้มค่า ในโลกแห่งการค้าปัจจุบัน ทั้งร้านค้าขนาดเล็กหรือใหญ่ ผู้ค้าแบบมีหน้าร้านหรือออนไลน์ ควรที่จะมีความสามารถในการเข้าถึงระบบชำระเงินผ่าน QR Code ที่มีความปลอดภัย ทั้งในระบบที่โค้ดไม่มีการเปลี่ยนแปลง (Static) และระบบที่มีการเปลี่ยนโค้ดในทุกรายการ (Dynamic) ผ่านป้ายที่ตั้งหน้าร้าน และโทรศัพท์ของร้านค้าเอง เครือข่ายของวีซ่าจะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อน QR Code มาตรฐานที่สามารถทำงานร่วมกันได้ทั่วโลกและให้ทุกคนสามารถจ่ายเงินให้กันและกันได้อย่างมีประสิทธิภาพและไร้รอยต่อ” คุณสุริพงษ์กล่าวเสริม
การที่ผู้บริโภคสามารถใช้จ่ายผ่านโทรศัพท์มือถือได้ ยังเป็นโอกาสดีสำหรับธนาคารพาณิชย์ในการพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของผู้บริโภคบนแอพพลิเคชั่นของธนาคารนั้นๆ และเป็นการต่อยอดความสัมพันธ์กับลูกค้าธนาคารได้เป็นอย่างดี โดยข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทย[2] ระบุว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 มีแอคเคาท์ในแอพพลิเคชั่นของธนาคารบนมือถือทั้งหมด 34.5 ล้านแอคเคาท์ในประเทศไทย ซึ่งเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 1 ของปี 2560 ถึง 31 เปอร์เซ็นต์
“วีซ่ามุ่งมั่นที่จะมอบประสบการณ์การชำระเงินผ่านฟอร์มแฟคเตอร์ที่มีความหลากหลาย เพราะเราเชื่อมั่นในการนำเสนอทางเลือกในการชำระเงินที่หลากหลายให้กับผู้บริโภค ซึ่งท้ายที่สุดแล้ว ผู้บริโภคจะเป็นคนเลือกโซลูชั่นที่เหมาะสมกับพฤติกรรมของตนเองต่อไป” คุณสุริพงษ์ กล่าวเสริม
เพื่อสนับสนุนการเปิดตัว ช่องทางการชำระเงินผ่าน QR Code ในครั้งนี้ วีซ่า ได้จัดแคมเปญให้ความรู้แบบบูรณาการ ผ่านช่องทางสื่อดิจิตอล การโฆษณา ณ จุดขาย และช่องทางออนไลน์ รวมถึงโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้บริโภคเพื่อเพิ่มจำนวนการชำระเงินผ่าน QR Code
แคมเปญจับฉลากรางวัลสุดพิเศษ[3] ที่วีซ่าตั้งใจมอบให้ เปิดโอกาสให้ผู้บริโภคได้มีสิทธิลุ้นเป็นผู้โชคดีได้รับรถยนต์ Mercedes-Benz C250 Coupe AMG Dynamic มูลค่า 3,620,000 บาท ซึ่งแคมเปญนี้จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม – 31 มีนาคม 2562 โดยจะมีการประกาศชื่อผู้โชคดี[4] ภายในวันที่ 10 พฤษภาคม 2562“เราเชื่อว่า การให้ข้อมูลความรู้ และการสร้างแรงจูงใจจะเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนให้ผู้บริโภคเปลี่ยนความสนใจให้กลายเป็นการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันได้ โดยนอกจากความสะดวก รวดเร็วและปลอดภัยแล้ว ผู้บริโภคยังได้รับสิทธิประโยชน์ โปรโมชั่น และรางวัลจากการใช้จ่ายในทุกๆ วันอีกด้วย เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าแคมเปญนี้จะช่วยให้ประเทศไทยเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงไปยังสังคมไร้เงินสดได้อย่างยั่งยืน” คุณสุริพงษ์กล่าวปิดท้าย
[1] ผลสำรวจเกี่ยวกับการศึกษาเรื่องทัศนคติการชำระเงินของผู้บริโภค ประจำปี 2560 จัดทำโดยบริษัท Intuit Research ในนามของวีซ่า ในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม พ.ศ. 2560 ในเจ็ดประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมาร์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ประเทศไทย และเวียดนาม มีผู้ตอบแบบสอบถามออนไลน์ทั้งหมด 4,160 ราย โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยทั้งหมด 513 ราย ที่มีอายุมากกว่า 18 ปีและรายได้มากกว่า 15,000 บาท
[2] ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย “ธุรกรรมการชำระเงินผ่านบริการ Mobile banking และ Internet banking” http://www2.bot.or.th/statistics/ReportPage.aspx?reportID=688&language=th
[3] ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขและข้อกำหนด ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.visa.co.th
[4] ประกาศรายชื่อผู้โชคดีทาง www.visa.co.th