หัวเว่ย ก้าวสู่ลำดับที่ 68 แบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลกในปี 2018 โดยอินเตอร์แบรนด์
เซิ่นเจิ้น/ประเทศจีน - หัวเว่ยได้รับการจัดอันดับให้เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่าตลาดสูงสุดในโลกลำดับที่ 68 ในรายงานวิจัย Best Global Brands 2018 ฉบับล่าสุด โดยอินเตอร์แบรนด์ บริษัทที่ปรึกษาด้านแบรนด์ชั้นนำ โดยขยับขึ้นสองลำดับจากปีก่อน ด้วยมูลค่าแบรนด์ที่สูงขึ้น 14% คิดเป็น 7.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ
หัวเว่ย เป็นผู้จัดหาระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ICT) และสมาร์ทดีไวซ์ชั้นนำระดับโลก และมีปณิธานที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้าน และทุกองค์กร เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ มร. จาง หงสี่ ประธานบริหาร ฝ่ายการตลาดองค์กร ของหัวเว่ย กล่าวว่า “วัฏจักรอุตสาหกรรมในอนาคต เทคโนโลยีต่าง ๆ อาทิ AI, 5G, IoT และการประมวลผลแบบคลาวด์ จะมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีก หัวเว่ยจะส่งมอบคุณค่าที่มากขึ้น และสร้างประสบการณ์ที่ดีกว่าเดิมให้แก่ลูกค้า ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยีทั้ง AI, สมาร์ทดีไวซ์, เครือข่าย และระบบคลาวด์เข้าด้วยกัน” บริษัทจะสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับลูกค้า โดยอาศัยความร่วมมือแบบเปิดกว้างกับคู่ค้าในอุตสาหกรรม การทำงานเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้คน สร้างความสุนทรีย์ในบ้าน และสร้างแรงบันดาลใจให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในองค์กรธุรกิจประเภทต่าง ๆ
ธุรกิจเครือข่ายโทรคมนาคมของหัวเว่ยมุ่งเน้นแก้ปัญหาให้กับลูกค้า สร้างเครือข่ายแบบ All-Cloud ด้วยดาต้าเซ็นเตอร์ซึ่งเป็นหัวใจหลักสำหรับผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือทั่วโลก ด้วยโซลูชั่นนวัตกรรมสำหรับพรีเมียมบรอดแบนด์ภายในที่พักอาศัย ไวร์เลสไซต์สำหรับการใช้งานลักษณะต่างๆ และ Mobile Money หัวเว่ยช่วยให้ผู้ให้บริการเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากศักยภาพของระบบเครือข่ายที่มีอยู่ เพิ่มประสบการณ์การเชื่อมต่อของลูกค้าและความปลอดภัยของเครือข่ายให้ดีขึ้นด้วยระบบ O&M แบบดิจิทัล ในขณะเดียวกันก็กำลังเร่งทดสอบการใช้งานเทคโนโลยี 5G เชิงพาณิชย์ โดยร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจมากกว่า 50 รายทั่วโลก
ธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ของหัวเว่ยมีนวัตกรรมเทคโนโลยีในด้านคลาวด์, บิ๊กดาต้า, ปัญญาประดิษฐ์, IoT, การสื่อสารองค์กร และอื่น ๆ บริษัทชั้นนำระดับโลกหลายรายมีการติดตั้งใช้งานโซลูชั่นเมืองอัจฉริยะ เมืองปลอดภัย ธนาคารแบบ Omni Channel ระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ การขนส่ง และสมาร์ท เอ็ดดูเคชั่น ของหัวเว่ย โดยปัจจุบันบริษัทใน Fortune Global 500 จำนวน 211 ราย ซึ่งรวมถึง 48 รายใน Fortune 100 ได้เลือกหัวเว่ยเป็นบริษัทคู่ค้าในการปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่ระบบดิจิทัล
ในขณะที่ธุรกิจคอนซูเมอร์ของหัวเว่ยใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับความต้องการของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอเทคโนโลยีและดีไซน์การออกแบบที่ลงตัว ในปีนี้ สมาร์ทโฟน Huawei P20 Series ได้สร้างมาตรฐานใหม่อีกครั้งสำหรับกล้องโทรศัพท์มือถือ และได้รับการตอบรับอย่างท่วมท้นจากผู้บริโภคทั่วโลก ตอกย้ำภาพลักษณ์ของหัวเว่ยในฐานะหนึ่งในผู้นำด้านโทรศัพท์ระดับพรีเมียมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น และในวันที่ 16 ตุลาคม ที่จะถึงนี้ จะมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟน Huawei Mate รุ่นใหม่ในกรุงลอนดอน โดยจะเป็นโทรศัพท์รุ่นแรกที่ใช้ชิพเซ็ต Kirin 980 ของหัวเว่ย ธุรกิจคอนซูเมอร์ของหัวเว่ย ยังมีนวัตกรรมบรอดแบนด์เคลื่อนที่และอุปกรณ์สมาร์ทโฮมใหม่ ๆ อีกมากมาย ที่จะนำเสนอประสบการณ์ดิจิทัลได้อย่างอัจฉริยะให้แก่ผู้ใช้และที่พักอาศัยทั่วโลก
หัวเว่ยคลาวด์ กำลังเร่งสร้างนวัตกรรมด้านโครงสร้างพื้นฐานระบบคลาวด์ และมีมุ่งมั่นที่จะให้บริการคลาวด์มีความเสถียร เชื่อถือได้ ปลอดภัย และมีการปรับปรุงให้ทันสมัยตลอดเวลาแก่ลูกค้า หัวเว่ยคลาวด์ มีบริการกว่า 120 บริการ และ 60 โซลูชั่นใน 16 หมวด รวมถึงบริการผ่าน Inclusive AI สำหรับให้บริการ AI ด้วยค่าบริการที่ไม่แพง ใช้งานง่าย มีความปลอดภัยและคุณภาพสูง โดยได้รับการทดสอบและอนุมัติในหลายประเทศ และขณะนี้ลูกค้าหลายรายได้ใช้บริการคลาวด์ของหัวเว่ยเป็นหลักในกระบวนการดำเนินธุรกิจของตนเอง บริการ Enterprise Intelligence (EI) ของหัวเว่ยคลาวด์ มีใช้ในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ การผลิต การเงิน และอินเทอร์เน็ต และโมเดล AI + Industry ของหัวเว่ยก็เป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ที่สำคัญในการปรับรูปแบบธุรกิจให้ทันสมัย
กว่าสามทศวรรษที่ผ่านมา หัวเว่ยได้สร้างสรรค์นวัตกรรมทางเทคโนโลยี ระบบนิเวศ และดำเนินกิจกรรมด้านความรับผิดชอบต่อสังคมมาโดยตลอด บริษัทสนับสนุนให้มีการเปิดกว้าง ทำงานร่วมกัน และสร้างความสำเร็จร่วมกัน รวมถึงได้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมร่วมกับลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในฐานะบริษัทที่มีความรับผิดชอบ หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะลดความเหลื่อมล้ำด้านดิจิทัลในสังคม ปกป้องสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนให้มีเครือข่ายการสื่อสารที่ปลอดภัยและมีเสถียรภาพ กลยุทธ์ในอนาคตของหัวเว่ยคือ การมุ่งเน้นทางด้านโครงสร้างพื้นฐานด้านไอซีทีและสมาร์ทดีไวซ์ การสำรวจและการสร้างโลกอัจฉริยะให้เกิดขึ้น นอกจากนี้หัวเว่ยยังได้แสวงหาเทคโนโลยีและรูปแบบธุรกิจใหม่ ๆ อย่างมุ่งมั่น รังสรรค์นวัตกรรมและความก้าวหน้าร่วมกับคู่ค้าในอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมกันสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ
-จบ-