หัวเว่ยคาดยอดขายปีนี้อาจสูงถึง 108.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 21%
เซิ่นเจิ้น, จีน/ 27 ธันวาคม 2561 – มร. กัว ผิง ประธานกรรมการหมุนเวียนตามวาระ ของหัวเว่ย เผยคาดการณ์ยอดขายของบริษัทในปีนี้อาจมีมูลค่าสูงแตะ 108.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน โดยมีการลงนามสัญญา 5G เชิงพาณิชย์กับผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำทั่วโลกไปแล้ว 26 ฉบับ และได้ส่งมอบสถานีฐาน 5G กว่า 10,000 ชุดให้กับประเทศต่างๆ ทั่วโลก ปัจจุบัน มีเมืองกว่า 160 แห่ง และบริษัทชั้นนำ 211 แห่งที่อยู่ในทำเนียบ Fortune Global 500 ได้เลือกหัวเว่ยเป็นพันธมิตรในการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัล รวมถึงยอดขายสมาร์ทโฟนในปีนี้กว่า 200 ล้านเครื่อง
มร. กัว ผิง กล่าวในสารอวยพรปีใหม่แก่พนักงานหัวเว่ยทั่วโลกว่า “คำกล่าวของซิเซโร่ นักปรัชญาชาวโรมัน ที่ว่า ‘ยิ่งพบกับความยากลำบากมากเท่าไร ยิ่งเข้าใกล้ความรุ่งโรจน์มากขึ้นเท่านั้น‘ ถือเป็นการสะท้อนความจริงได้อย่างชัดเจนที่สุด สำหรับการส่งท้ายปี 2561 ที่กำลังจะผ่านพ้นไปนี้ ซึ่งมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้นมากมาย แต่เราก็ไม่เคยที่จะหยุดก้าวเดินต่อไปข้างหน้า”
นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้สร้างความสำเร็จที่โดดเด่นหลายอย่าง ทั้งในธุรกิจคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และระบบนิเวศ IoT สำหรับสมาร์ทโฮม ส่วนหัวเว่ย คลาวด์ ได้มีการเปิดตัวบริการคลาวด์กว่า 140 บริการ ใน 18 หมวดหมู่ โดยยังคงทำงานร่วมกับพันธมิตรเพื่อให้บริการแก่ลูกค้าทั่วโลกครอบคลุมทั้ง 22 ภูมิภาค และในปีนี้ หัวเว่ยยังได้ประกาศกลยุทธ์ด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเปิดตัวกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชั่น AI ที่ครอบคลุมการใช้งานทุกสถานการณ์ ซึ่งประกอบด้วยชิพ AI Ascend ซีรี่ส์แรกของโลกที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่ครอบคลุมฟังก์ชั่นการทำงานหลากหลายรูปแบบ รวมถึงผลิตภัณฑ์และบริการคลาวด์ใหม่ๆ ที่เกี่ยวข้อง
ในปี 2562 หัวเว่ยจะให้ความสำคัญกับธุรกิจและโอกาสเชิงกลยุทธ์ พร้อมวางโครงสร้างธุรกิจที่ยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น โดยจะเพิ่มการลงทุนในด้านผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างความสำเร็จในการเป็นผู้นำอย่างครบวงจร และพัฒนาคุณสมบัติด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์เพื่อสร้างผลิตภัณฑ์คุณภาพที่น่าเชื่อถือ ผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นของหัวเว่ยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ามากกว่า 170 ประเทศทั่วโลก และมีสถิติทางด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่แข็งแกร่งมาก และไม่เคยมีรายงานเรื่องภัยคุกคามต่อความปลอดภัย
“เราจะยังคงสงบนิ่งและเผชิญหน้ากับปัญหาอุปสรรค พร้อมยึดมั่นตามหลักอันแน่วแน่ของกฎหมายเพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนของภาวะการเมืองโลก การเข้าสู่เวทีระดับโลกย่อมหมายถึง การต้องปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศและภูมิภาคต่างๆ ที่เราเข้าไปดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นหลักพื้นฐานที่สำคัญที่สุดที่เราต้องพึงยึดมั่นในการให้บริการและส่งเสริมสนับสนุนสังคมโลก และยังครอบคลุมถึงการรวมข้อบังคับตามกฎหมายไว้ในกิจกรรมทางธุรกิจ ผ่านทางนโยบาย ระบบ องค์กร กระบวนการ วัฒนธรรม การฝึกอบรม และการติดต่อสื่อสาร” มร. กัว ผิง กล่าว “เราเองก็ต้องไม่สูญเสียกำลังใจจากเหตุอันเกิดจากความไม่หวังดีหรือการฉุดรั้งที่เกิดขึ้นชั่วขณะหนึ่ง พร้อมกับรักษาความมุ่งมั่นอันแน่วแน่ที่จะไปสู่เป้าหมายของการเป็นผู้นำระดับโลกเอาไว้ การฉุดรั้งที่เกิดขึ้นทำให้เรากล้าแกร่งมากยิ่งขึ้นต่างหาก และการปฎิบัติที่ไม่เป็นธรรมอย่างไม่น่าเชื่อจะขับเคลื่อนให้เราก้าวขึ้นเป็นหมายเลขหนึ่งของโลกได้”
ในช่วงสามทศวรรษที่ผ่านมา หัวเว่ยได้ให้บริการลูกค้าและพันธมิตรอย่างใกล้ชิด เพื่อนำเทคโนโลยีโทรคมนาคมไปใช้งานในเมืองต่างๆ ตลอดจนพื้นที่ห่างไกลทั่วโลก เพื่อลดปัญหาช่องว่างทางดิจิทัลระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศที่กำลังพัฒนา พร้อมทั้งเชื่อมโยงผู้คนกว่าสามพันล้านคนทั่วโลกเข้าด้วยกัน
ปัจจุบัน ในฐานะของผู้นำและผู้สนับสนุนด้านอุตสาหกรรมไอซีที หัวเว่ยเป็นสมาชิกขององค์กรในอุตสาหกรรมนี้กว่า 380 องค์กร และได้เข้าไปมีบทบาทในตำแหน่งสำคัญ 300 กว่าตำแหน่ง และเสนอโครงการกว่า 6,000 โครงการในแต่ละปี ตอกน้ำความมุ่งมั่นของหัวเว่ยในการนำดิจิทัลไปสู่ทุกคน ทุกบ้านและทุกองค์กร เพื่อสร้างโลกอัจฉริยะที่เชื่อมโยงถึงกันอย่างเต็มรูปแบบ