การขอวีซ่าอเมริกา ไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด!!

อเมริกานั้นเป็นประเทศในฝันที่หลายคนที่อยากจะไปสัมผัสสักครั้ง แต่การที่จะเข้าประเทศอเมริกาได้นั้นเราต้องมีวีซ่าก่อน ซึ่งการขอวีซ่าอเมริกานั้นไม่ได้ง่าย เพราะประเทศอเมริกาถือว่าเป็นประเทศที่เคร่งครัดในการตรวจสอบและอนุญาตให้ผู้เดินทางเข้าประเทศ หลายคนจึงกลัวการขอวีซ่าอเมริกา

แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขอวีซ่าอเมริกาไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเราเตรียมตัวให้พร้อม มีเอกสารครบถ้วน และทำให้ทางเจ้าหน้าที่เชื่อมั่นได้ว่าเราจะกลับมา หากใครกำลังสนใจที่จะไปประเทศอเมริกาและหาข้อมูลเกี่ยวกับวีซ่าเข้าประเทศอเมริกาอยู่ ลองมาทำความรู้จักกับการขอวีซ่าเข้าประเทศอเมริกาให้มากขึ้น

มารู้จักกับวีซ่าอเมริกา

ใครที่ต้องการเข้าประเทศอเมริกาจะต้องได้รับวีซ่าเสียก่อนถึงจะสามารถเข้าประเทศได้ โดยวีซ่าที่จะต้องขอเป็นวีซ่าแบบชั่วคราว การขอวีซ่าเข้าประเทศอเมริกานั้นจะต้องขอตามวัตถุประสงค์ที่ไป หากต้องการไปท่องเที่ยวต้องขอวีซ่าแบบ B-2

สำหรับระยะเวลาของวีซ่าประเภทนี้ ผู้ขอวีซ่าจะได้รับวีซ่าไม่เท่ากันทุกคน บางคนได้วีซ่าพอดีตามวันเดินทาง ระยะเวลาของวีซ่าที่ได้มากที่สุดคือ 10 ปี ซึ่งหมายความว่าผู้เดินทางจะสามารถเดินทางเข้า และออกสหรัฐอเมริกาได้หลายครั้งในช่วงระยะเวลาที่ยังมีวีซ่า แต่ว่าการไปอยู่แต่ละครั้งจะขึ้นอยู่กับว่าทางเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะอนุญาตให้อยู่กี่วัน

แล้วเราควรที่จะต้องเตรียมตัวในการขอวีซ่าอย่างไรบ้าง เพื่อให้การขอวีซ่าเป็นไปอย่างราบรื่น และมีโอกาสสัมภาษณ์วีซ่าให้ผ่านฉลุยภายในรอบเดียว ลองมาดูเอกสารที่ต้องเตรียม และขั้นตอนในการขอวีซ่ากันเถอะ

เอกสารที่ใช้ในการขอวีซ่าอเมริกา

เอกสารที่ต้องเตรียมในการขอวีซ่าแบ่งได้หลัก ๆ คือ เอกสารสำคัญและเอกสารเพิ่มเติม เราจำเป็นต้องแยกเอกสารสำคัญไว้ต่างหาก เพราะเอกสารเหล่านี้ต้องส่งให้สถานทูตโดยไม่ได้รับคืน จะได้คืนแค่เฉพาะหนังสือเดินทางเท่านั้น สำหรับเอกสารสำคัญมีดังนี้:

1. แบบฟอร์ม DS-160 ที่กรอกเสร็จแล้ว คือใบ Confirmation ของแบบฟอร์ม DS-160 ที่เราปริ้นท์ออกมาหลังจากกรอกข้อมูลทุกอย่างในระบบออนไลน์เสร็จเรียบร้อบแล้ว

2. ใบนัดสัมภาษณ์ คือเอกสารที่ได้รับหลังจากลงทะเบียนนัดวันเวลาสัมภาษณ์ในระบบออนไลน์เสร็จเรียบร้อบแล้ว

3. รูปถ่ายหน้าตรง ต้องเป็นรูปถ่ายสี ขนาด 2 นิ้ว x 2 นิ้ว 3 รูป พื้นหลังสีขาวเท่านั้นไม่มีสิ่งใดบดบังใบหน้าและห้ามสวมแว่น โดยต้องเป็นรูปที่ถ่ายมาแล้วไม่เกิน 6 เดือน

4. ใบเสร็จค่าธรรมเนียม คือใบเสร็จที่ชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าแล้ว และมีตราประทับยืนยันการฝากจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา

5. หนังสือเดินทางฉบับล่าสุด มีอายุคงเหลือมากกว่า 6 เดือนนับจากช่วงเดินทาง มีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า หากมีหนังสือเดินทางเล่มก่อนหน้าให้นำไปด้วย

สำหรับเอกสารเพิ่มเติมนั้นเป็นหลักฐานที่ใช้ในการประกอบการสัมภาษณ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่อาจเรียกดูหรือไม่ก็ได้ แต่ก็ควรเตรียมไว้ให้ครบเพราะถ้าเจ้าหน้าที่ขอดูแต่ไม่มีให้ เราจะไม่สามารถส่งเอกสารในภายหลังได้ และอาจเสียโอกาสในการได้วีซ่าได้

1. หนังสือรับรองการทำงานหรือการเรียน ในกรณีเป็นพนักงาน โดยต้องมีข้อมูลชื่อองค์กรที่ทำงาน ตำแหน่งงาน เงินเดือน วันเริ่มงาน อย่างชัดเจน ในกรณีที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ให้ใช้ใบจดทะเบียนบริษัทหรือทะเบียนการค้า ในกรณีที่เป็นนักเรียนหรือนักศึกษา ให้นำผลการเรียนหรือใบรับรองการเป็นนักเรียนมาแสดง เอกสารต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น

2. แผนการเดินทาง รายละเอียดของแผนการเดินทางในช่วงที่อยู่ในประเทศอเมริกาเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อให้รู้ว่าจะเดินทางไปไหนบ้าง ไปเที่ยวเมืองอะไร สถานที่ท่องเที่ยวไหน พักที่ใดบ้าง

3. เอกสารการจองตั๋วเครื่องบินและที่พัก ตั๋วเครื่องบินที่มีการระบุวันเดินทางไปกลับชัดเจน และเอกสารการจองโรงแรม หรือหนังสือเชิญให้ไปพักจากเจ้าบ้าน

4. หลักฐานแสดงรายได้ เช่น รายการบัญชีย้อนหลัง 6 เดือน หลักฐานการชำระภาษี ใบจดทะเบียนการค้า (กรณีเจ้าของกิจการ)

5. เอกสารอื่น ๆ เช่น ทะเบียนบ้านฉบับจริงและสำเนาทะเบียนบ้าน, บัตรประชาชนและสำเนาบัตรประชาชน, ใบสูติบัตรและสำเนาใบสูติบัตร (กรณีเป็นเด็ก), ใบเปลี่ยนชื่อและสำเนาใบเปลี่ยนชื่อ (ถ้ามี), ใบเปลี่ยนนามสกุลและสำเนาใบเปลี่ยนนามสกุล (ถ้ามี), ทะเบียนสมรสและสำเนาทะเบียนสมรส (ถ้ามี), ทะเบียนหย่าและสำเนาทะเบียนหย่า และสำเนาหน้าวีซ่าอเมริกา ในกรณีที่เคยได้รับวีซ่ามาแล้ว

ขั้นตอนในการขอวีซ่าอเมริกา

การสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกาเป็นการสัมภาษณ์แบบรู้ผลทันที ไม่ต้องรอลุ้นเหมือนการขอวีซ่าจากสถานทูตอื่น แล้วขั้นตอนในการสัมภาษณ์วีซ่าอเมริกามีอะไรบ้าง ลองมาดูกันเพื่อที่จะเตรียมตัวให้พร้อมหากต้องการจะขอวีซ่า

1. กรอกแบบฟอร์มการสมัครวีซ่า DS-160 แบบฟอร์ม DS-160 คือแบบฟอร์มสำหรับการสมัครวีซ่าชั่วคราว โดยต้องกรอกข้อมูลต่าง ๆ เช่น ข้อมูลส่วนตัว, ประเภทวีซ่าที่ต้องการจะขอ, อัปโหลดรูปภาพ และใส่ข้อมูลอื่นๆ ให้ครบถ้วน ข้อมูลที่ต้องกรอกจะค่อนข้างเยอะมาก หากไม่สามารถกรอกให้เสร็จทีเดียวได้ ควรจดเลข Application ID ไว้ เพื่อที่จะได้กลับมากรอกได้โดยไม่ต้องเริ่มใหม่ ควรกรอกอย่างตั้งใจเพราะเมื่อกรอกเสร็จแล้วจะไม่สามารถกลับมาแก้ไขได้

2. กรอกแบบฟอร์มยื่นคำร้องขอวีซ่าอเมริกา โดยต้องเข้าไปสร้างโปรไฟล์ก่อน จากนั้นกรอกข้อมูลให้ครบถ้วน หลังจากกรอกข้อมูลเสร็จแล้ว ให้ปริ้นท์แบบฟอร์มการชำระเงิน และไปชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยา เมื่อชำระเรียบร้อยแล้วจะได้รับอีเมลให้เลือกวันนัดสัมภาษณ์ เราจะต้องเลือกวันเวลาที่จะนัดสัมภาษณ์ เมื่อเลือกวันเรียบร้อยแล้วให้ปริ้นท์ใบยืนยันนัดสัมภาษณ์ไปด้วย

3. เตรียมหนังสือเดินทางและเอกสารให้พร้อม การขอวีซ่าอเมริกานั้นจะเน้นการสัมภาษณ์เป็นหลัก ประกอบกับการยื่นเอกสารที่จำเป็นดังที่กล่าวไปด้านบน เราต้องเตรียมเอกสารจำเป็นและเอกสารเพิ่มเติมให้พร้อม เพื่อเตรียมพร้อมในกรณีที่เจ้าหน้าที่เรียกดู

4. ในวันสัมภาษณ์ควรไปถึงก่อนเวลานัดหมาย อย่างน้อย 15-30 นาที ควรนำสัมภาระไปให้น้อยที่สุด นำไปแค่กระเป๋าถือขนาดเล็ก ซองใส่เอกสารที่เตรียมมา และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งต้องปิดเครื่องและฝากไว้ขณะเข้าสัมภาษณ์ ก่อนเข้าสถานทูตจะมีการสแกนและตรวจกระเป๋าทุกครั้ง หากกระเป๋าขนาดใหญ่เกินไปอาจจะไม่อนุญาตให้นำเข้าไปในสถานทูต

5. หลังจากเข้ามาในสถานทูต เจ้าหน้าที่จะช่วยจัดการและตรวจเอกสาร รวมไปถึงทำการสแกนลายนิ้วมือก่อนเข้าสัมภาษณ์ หากนัดหมายเป็นกลุ่มก็จะได้เข้าสัมภาษณ์พร้อมกัน

6. เมื่อเข้าสัมภาษณ์ สามารถเลือกสัมภาษณ์เป็นภาษาไทยหรืออังกฤษก็ได้ ถึงแม้ว่าจะพบคำถามภาษาอังกฤษจากเจ้าหน้าที่ต่างชาติ แต่ก็สามารถตอบเป็นภาษาไทยได้หากไม่ถนัดจริง ๆ เพราะเจ้าหน้าที่ส่วนใหญ่สามารถพูดไทยได้ถึงแม้ว่าจะเป็นชาวต่างชาติ แต่อย่างไรก็ตามผู้สัมภาษณ์ควรที่จะพูดภาษาอังกฤษให้ได้บ้าง เพื่อใช้ในการทักทายและตอบคำถาม เพราะจะดูมีความน่าเชื่อถือมากกว่า

7. ระหว่างการสัมภาษณ์ เจ้าหน้าที่จะถามเกี่ยวกับการเดินทางและการทำงานเป็นหลัก เช่น เดินทางไปที่ไหน เมื่อไหร่ มีแผนทำอะไรบ้าง ไปกับใคร เคยไปเที่ยวที่ไหนมาบ้าง ทำงานอะไร ทำมานานแค่ไหน เป็นต้น ซึ่งคำถามจะน้อยหรือมากขึ้นอยู่กับเจ้าหน้าที่ เราควรตอบให้กระจ่างมากที่สุด ไม่ควรตอบสั้นหรือยาวเกินไป บางกรณีเจ้าหน้าที่อาจจะขอดูเอกสารเพิ่มเติม

8. เมื่อสัมภาษณ์วีซ่าเสร็จแล้ว จะมี 2 กรณีคือ

6.1 กรณีที่สัมภาษณ์วีซ่าผ่าน เจ้าหน้าที่จะเก็บหนังสือเดินทางของเราไว้ และจะได้รับคืนผ่านทาง EMS ภายใน 3-7 วันทำการ พร้อมตราประทับวีซ่าบนหนังสือเดินทาง สำหรับอายุของวีซ่าจะขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่สถานทูต

6.2 กรณีที่สัมภาษณ์วีซ่าไม่ผ่าน เจ้าหน้าที่จะคืนหนังสือเดินทางให้ก่อนเดินทางกลับ พร้อมอธิบายเหตุผลว่าทำไมการขอวีซ่าครั้งนี้จึงไม่ผ่าน โดยจะไม่ได้รับค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าคืน ผู้ที่ไม่ผ่านต้องยื่นขอวีซ่าอีกครั้ง โดยต้องทำตามขั้นตอนการยื่นขอวีซ่าและชำระเงินใหม่ทั้งหมด

เพราะฉะนั้นใครที่ต้องการจะขอวีซ่าควรศึกษาขั้นตอนต่างๆ ให้ดี เตรียมเอกสารให้ครบ และเตรียมตัวให้พร้อมตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา และเสียเงินอีกรอบ

ค่าธรรมเนียมในการขอวีซ่าอเมริกา

สำหรับค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าอเมริกานั้น จะเรียกเก็บเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ โดยปัจจุบันค่าธรรมเนียมวีซ่าชั่วคราวประเภท B จะอยู่ที่ 160 ดอลลาร์สหรัฐ ผู้ขอวีซ่าจะต้องชำระค่าธรรมเนียมเป็นเงินบาทไทย ทั้งนี้ค่าธรรมเนียมการขอวีซ่าจะขึ้นอยู่กับเรทเงินในขณะนั้น สามารถชำระค่าธรรมเนียมวีซ่าได้ที่ธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา