ศูนย์สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (Tokyo Metropolitan Small and Medium Enterprise Support Center) ร่วมกับผู้ประกอบการจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เดินหน้าจัดกิจกรรมสัมมนาเชิงธุรกิจที่ดีที่สุดสำหรับผู้สนใจลงทุนหรือขยายธุรกิจไปประเทศญี่ปุ่นโดยเฉพาะ “Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar” ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเติบโตทางธุรกิจ ส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ และเพิ่มช่องทางการลงทุนรูปแบบใหม่ๆ ให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs นักลงทุน ตลอดจนนักธุรกิจไทยในสาขาต่างๆ ที่สนใจ โดยภายในงานได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญและผู้มีประสบการณ์ตรงมาร่วมแชร์ความคิดเห็น ประสบการณ์ พร้อมแนะนำแนวทางในการลงทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักลงทุนไทย – ญี่ปุ่นอย่างยั่งยืน ซึ่งมีผู้ประกอบการและนักธุรกิจไทยตอบรับเข้าร่วมกิจกรรมในรูปแบบ Hybrid ทั้ง Onsite และ Online ผ่านระบบ ZOOM กว่า 80 ราย
นายมาซาทากะ อาซาคุระ (Mr. Masataka Asakura) Manager, Professional Career Development Support Section, Global Support Team ศูนย์สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า
“Tokyo Metropolitan Small and Medium Enterprise Support Center หรือ ศูนย์สนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมกรุงโตเกียว มีหน้าที่ส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมในธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางในกรุงโตเกียวมานานกว่า 50 ปี ซึ่งเปิดให้บริการในหลากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การก่อตั้งธุรกิจ การเริ่มต้นธุรกิจ การขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ การสืบทอดและการฟื้นฟูธุรกิจในทุกขั้นตอน ตลอดจนให้การสนับสนุนแก่บริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายธุรกิจมายังกรุงโตเกียวมาตั้งแต่ปี 2019 ส่วนในประเทศไทยได้ทำการเปิดสำนักงานเมื่อปี 2015 เพื่อเชื่อมโยงนักลงทุนไทย-ญี่ปุ่นเข้าด้วยกันอย่างลงตัว รวมถึงสนับสนุนให้เกิดการลงทุนและการส่งออกสินค้าของนักลงทุนชาวไทยในกรุงโตเกียวมากขึ้น ซึ่งเห็นได้จากการส่งออกของสินค้าไทยไปที่ประเทศญี่ปุ่นที่มีกว่า 10% ในทางกลับกันประเทศญี่ปุ่นเป็นปลายทางการท่องเที่ยวอันดับต้นๆ ของคนไทยเช่นกัน
ทั้งนี้เพื่อตอกย้ำเป้าหมายที่วางไว้ เราจึงจัดงานสัมมนา Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar ขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความต้องลงทุนในกรุงโตเกียว ตลอดจนขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการไทยให้เติบโต ซึ่งในปีที่ผ่านมาเราได้จัดการสัมมนาครั้งแรกไปเมื่อเดือนตุลาคม 2023 โดยได้รับการตอบรับที่ดีและมีผู้สนใจเข้าร่วมงานมากกว่า 80 ราย นอกจากนี้เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา มีการจัดการประชุมเพื่อเฉลิมฉลองครบรอบ 50 ปีของความร่วมมือและเพื่อนบ้านระหว่างประเทศญี่ปุ่นและสมาพันธรัฐเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) ที่กรุงโตเกียว ซึ่งมีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย ให้เกียรติเข้าร่วมการประชุมดังกล่าวด้วย โดยในการประชุมระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้มีการทำข้อตกลงในเรื่องการเสริมสร้างความร่วมมือด้านพลังงาน โดยเฉพาะการยกระดับความแข็งแกร่งของอุตสาหกรรมรถยนต์รุ่นใหม่ที่เป็นจุดแข็งในประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทรถยนต์ชั้นนำของญี่ปุ่น อาทิ โตโยต้า ฮอนด้า อิซูซุ และมิตซูบิชิ เปิดเผยว่าได้ทำการวางแผนการลงทุนราว 1,500 ล้านบาท เพื่อผลิตรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ในประเทศไทยภายใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างทั้งสองประเทศจะยังคงเข้มแข็งและไม่เปลี่ยนแปลง”
โดยกรุงโตเกียวเป็นมหานครขนาดใหญ่ที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลก มี GDP เป็นอันดับที่ 16 และเป็นเมืองมหาอำนาจ Global Power City อันดับที่ 3 ของโลก รวมถึงเป็นเมืองที่ได้รับการจัดอันดับให้เป็นเมืองน่าอยู่อันดับที่ 1 ในปี 2020 อีกทั้งยังเป็นที่ตั้งบริษัทญี่ปุ่นที่มีเงินทุนจดทะเบียนมากกว่า 1,000 ล้านเยน มากกว่า 3,000 บริษัท (คิดเป็นครึ่งหนึ่งของบริษัทขนาดใหญ่ทั้งหมดในประเทศญี่ปุ่น) ผนวกกับสภาพแวดล้อมต่างๆ อันเป็นเป้าหมายที่สมบูรณ์แบบต่อการเลือกลงทุน โดยมีปัจจัยหลักที่สร้างความได้เปรียบจากการเป็นทำเลทองของการลงทุน และช่วยสร้างโอกาสการแข่งขันในภูมิภาค ผนวกกับการเป็นเมืองที่มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภคอย่างครบครัน จึงช่วยให้การเข้ามาดำเนินธุรกิจเป็นไปได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังโดดเด่นด้วยการเป็นแหล่งกำเนิดของเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับของโลก มีฐานการวิจัย R&D และการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี มีบุคคลากรแรงงานทักษะสูง มีพันธมิตรร่วมค้นคว้าวิจัย และมีกฎหมายด้านทรัพย์สินทางปัญญารองรับ จึงเป็นปัจจัยบวกที่เอื้อต่อการลงทุน แม้จะมีต้นทุนการดำเนินงาน ปัญหาแรงงาน และภาระภาษีเข้ามาเป็นอุปสรรค แต่ด้วยค่าเงินเยนที่อ่อนลงในขณะนี้ ประกอบกับค่าครองชีพในกรุงโตเกียวที่ไม่สูงขึ้น ตลอดจนรัฐบาลญี่ปุ่นมีมาตรการส่งเสริมผลักดันนโยบายเกี่ยวกับบุคลากรที่มีทักษะจากต่างประเทศให้สามารถเข้ามาทำงานในประเทศญี่ปุ่น เพื่อหวังช่วยแก้ปัญหาแรงงานในอุตสาหกรรมการผลิต จึงยังส่งผลบวกต่อการเลือกลงทุนในโตเกียวของผู้ประกอบการ
รวมถึงมีบริการด้านการลงทุนครบวงจรที่ได้รับการสนับสนุนจากหลากหลายองค์กรในประเทศญี่ปุ่น ที่ส่งผลต่อโอกาสทางการลงทุน อาทิ Business Development Center TOKYO (BDCT) ซึ่งให้บริการด้านธุรกิจครบวงจรจากกรุงโตเกียว สำหรับบริษัทต่างชาติที่ต้องการขยายธุรกิจไปยังกรุงโตเกียว โดย BDCT พร้อมสนับสนุนทุกด้าน ตั้งแต่เรื่องธุรกิจไปจนถึงการใช้ชีวิต ซึ่งมีกระบวนการเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการระดมทุน ไปจนถึงการขยายช่องทางการจำหน่าย รวมถึงขั้นตอนต่างๆ ที่จำเป็นต่อการจัดตั้งบริษัทในญี่ปุ่น เพื่อให้ทุกท่านขยายกิจการในมหานครโตเกียวได้อย่างรวดเร็ว
Tokyo One-Stop Business Establishment Center (TOSBEC) ที่พร้อมให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลเกี่ยวกับขั้นตอนการจัดตั้งบริษัทแก่ธุรกิจต่างชาติหรือธุรกิจร่วมทุนโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถดำเนินขั้นตอนต่างๆ สำหรับการจัดตั้งธุรกิจได้อย่างรวดเร็ว เช่น การรับรองหนังสือบริคณห์สนธิ, การแจ้งจดทะเบียนบริษัท, การจัดการด้านภาษี, การยื่นประกันสังคม และการจัดการด้านเอกสาร การตรวจคนเข้าเมือง เป็นต้น รวมถึงส่งเสริมด้านการหาพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเราพร้อมรับฟังความต้องการต่างๆ ของบริษัทต่างชาติ เพื่อดำเนินการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ให้กับผู้ที่ต้องการขยายธุรกิจในกรุงโตเกียว โดยดำเนินการค้นหาคู่ค้า, ซัพพลายเออร์ หรือองค์กรที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เพื่อแนะนำพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดสำหรับคุณ พร้อมเชิญคุณเข้าร่วมงานต่างๆ ที่จัดขึ้นโดยกรุงโตเกียว เพื่อขยายโอกาสในการพบปะคู่ค้าที่มีศักยภาพต่อไป
Startup Ecosystem Tokyo Consortium ประกอบด้วยด้วยสมาชิกจากภาคส่วนต่างๆ อาทิ บริษัท, หน่วยงานด้านเศรษฐกิจ, มหาวิทยาลัย, สถาบันวิจัย, กิจการร่วมค้า และภาคการปกครองส่วนท้องถิ่น ซึ่งประสานความร่วมมือในวงกว้าง เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมให้กรุงโตเกียวกลายเป็นมหานครแห่งสตาร์ทอัพอันดับ 1 ของโลก โดยเราพร้อมให้บริการคำปรึกษาฟรีแก่ธุรกิจต่างชาติในสาขาอุตสาหกรรม 4.0 และธุรกิจด้านการเงินที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง และต้องการขยายกิจการสู่เขตมหานครโตเกียว อาทิ การวิเคราะห์และการวางกลยุทธ์ด้านการตลาด และการหาพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ พร้อมสนับสนุนการจับคู่เจรจาทางการค้าระหว่างบริษัทต่างชาติและบริษัทในโตเกียวผ่านโครงการต่างๆ รวมถึงการบริหารงานเงินการลงทุน ทั้งนี้ทางกรุงโตเกียวมีโครงการสนับสนุนค่าใช้จ่ายบางส่วนสำหรับจัดตั้งสำนักงานใหม่ในเขตโตเกียวอีกด้วย
ส่วนงานสัมมนา Tokyo-Thailand Business Partnership Seminar ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีตัวแทนจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ผู้ประกอบการและนักลงทุนไทยเข้าร่วมงานอย่างคับคั่งทั้งทาง Onsite และ Online เพื่อร่วมรับฟังการบรรยาย และกิจกรรมสัมมนาต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อเพิ่มโอกาสต่อยอดธุรกิจ เช่น การบรรยายหัวข้อ “สภาพแวดล้อมทางธุรกิจและแนวโน้มอุตสาหกรรมในกรุงโตเกียว” โดยนายโยชิฮิโระ คาวาเสะ (Mr. Yoshihiro Kawase) Office for Startup and Global Financial City Strategy, Tokyo Metropolitan Government (Seminar contractor, Pasona Inc.), การบรรยายหัวข้อ “บอกเล่าประสบการณ์ความสำเร็จในการขยายตลาดธุรกิจไปยังกรุงโตเกียว” โดยนายอายุ จือปา ผู้ก่อตั้งบริษัท Akha Ama Coffee พร้อมมีการให้คำปรึกษาเป็นรายบุคคลสำหรับผู้ที่สนใจหรือมีข้อสงสัยต่างๆ เกี่ยวกับการลงทุนหรือขยายโอกาสทางธุรกิจ ตลอดจนมีการแนะนำบริการของ Tokyo SME support center สำนักงานประเทศไทยอีกด้วย
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tokyo SME Support Center ทางเว็บไซต์ https://www.tokyo-kosha.or.jp/english/index.html ช่องทางการติดต่อเพื่อปรึกษาด้านธุรกิจ