ช่างแต่งหน้ายุคไทยแลนด์ 4.0 “โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI” เน้นความ “มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”

ความงาม

ในโลกนี้ยุคนี้เป็นโลกแห่งการแข่งขันสูงมาก ทุกคนต้องการพื้นที่ยืนบนอาชีพต่าง ๆ เพื่อปากท้องและความอยู่รอดของตนเองพร้อมทั้งครอบครัว วันนี้ โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI” สามารถตอบโจทย์และเป็นทางเลือกหนึ่งของผู้ที่ต้องการได้งานทำ ตามที่โรงเรียนกล้าการันตีว่า “เรียนจบได้งานทำทันที” วันนี้ตัวแทนนักเรียนที่สำเร็จในหลักสูตรต่าง ๆ พร้อมมีประกาศนียบัตรรับรองได้แสดงความคิดเห็นที่หลากหลายกันออกไป แต่สิ่งที่เหมือนกันคือ เรียนแล้วไม่ยากอย่างที่คิด ได้เรียนรู้จริง และได้งานทำจริง

ประนาท โชคจินดา (แจ๊ค) อายุ 26 ปี อดีตผู้ดูแลลูกค้าวีไอพีโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง กล่าวว่า ก็ไม่เคยคิดว่า วันหนึ่งตนเองจะกลายมาเป็นช่างแต่งหน้าซึ่งตอนนี้รับทำฟรีแลนซ์ จากคนที่ไม่เคยสนใจในอาชีพนี้ เพราะมองว่า มีคนทำกันเยอะมาก หลายคนมีชื่อเสียง โดยเฉพาะรุ่นเก่า ๆ ยังคงเฉิดฉายอยู่ในวงการ คลื่นลูกใหม่ก็มีความสามารถไม่น้อยเลยทีเดียว บางคนแจ้งเกิดกันในช่วงข้ามคืนก็ว่าได้ ที่ตัดสินใจเลือกทางเดินบนถนนช่างแต่งหน้า เพราะได้แรงบันดาลใจจากข่าวสารในโซเชี่ยลมิเดีย โดยเฉพาะในเฟซบุ๊ก ช่างแต่งหน้าหลายคนนำผลงานมาโพสต์โชว์เยอะแยะไปหมด สวย ๆทั้งนั้น พอเห็นบ่อยเขาจึงเกิดแรงกระตุ้นว่าเราก็น่าจะทำได้

“ จึงหาที่เรียน ถามใครต่อใครร้อยละร้อยบอกว่า ต้องที่โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI เท่านั้นช่างแต่งหน้าชื่อดังค่อนประเทศก็เรียนจบจากที่นี่เพื่อความแน่ใจจึงเสิร์ชอินเทอร์เน็ตดู เป็นการตอกย้ำว่าเราต้องไปเรียนที่นี่ เมื่อมาสมัครเรียนตัดสินใจเลือกคอร์สแต่งหน้าเจ้าสาวเลย เพราะคิดว่า หากผ่านคอร์สนี้ไปได้ เราก็สามารถแต่งหน้าให้ใครก็ได้ คนที่จะเป็นเจ้าสาว ซึ่งเป็นครั้งหนึ่งในชีวิตก็อยากจะให้เป็นวันที่สวยที่สุดของเธอ เรียนที่เอ็มทีไอผมกล้ารับรองได้ว่า จากคนที่ไม่เป็น ไม่เคยมีพื้นฐาน ทุกคนจะมีความเป็นโปรเฟสชั่นแนลผมเชื่อเหลือเกินว่า เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน อาชีพช่างแต่งหน้าNEVER DIE ไม่เคยตายไปจากโลกนี้ครับ”

เปมิกา ชลิตพัฒนังกุล (กิ๊ก) วัย 38 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง และนักเรียนหลักสูตรแต่งหน้าขั้นพื้นฐาน กล่าวว่า อาชีพที่เป็นศิลปะทุกแขนงมนุษย์น่าจะทำได้ดีที่สุด ดีกว่าหุ่นยนต์หรือ AI ที่นิยมนำเข้ามาใช้ในภาคธุรกิจต่าง ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและรวดเร็ว สำหรับที่เลือกเรียนสายอาชีพนี้ก็เพราะว่า การแต่งหน้าเป็นเสมือนงานศิลปะที่รังสรรค์อยู่ในบนหน้าของคน เป็นอาชีพที่หุ่นยนต์ไม่สามารถจะแย่งอาชีพนี้จากคนเราได้อย่างเด็ดขาด นึกไม่ออก เห็นภาพไม่ชัดกับการที่หุ่นยนต์จะมาแต่งหน้าให้คนเราได้สวย โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI มีหลักสูตรให้เลือกเรียน แม้แต่การหน้าเอฟเฟค ที่ทราบมาว่า พอเรียนจบออกไปบางคนทำงานโกอินเตอร์ อย่างฮอลลีวู้ดก็มี

“จะว่าไปแล้วการเป็นช่างแต่งหน้านี่ไม่ต้องไปแข่งกับใครเลย แข่งกันตนเองนี่แหละดีที่สุด เราต้องเปิดใจยอมรับความจริงว่า หากเราอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพและมีชื่อเสียงเราได้พัฒนาขีดความสามารถของตัวเองหรือไม่ แล้วหากพัฒนา ๆ ไปถึงขั้นไหน ทุกอาชีพต้องมีการฝึกฝนและพัฒนาตนเองอยู่เสมอ เพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญ เพราะโลกไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ดังนั้นเราก็ไม่ควรจะหยุดพัฒนาตนเอง และควรต้องเปิดโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชีวิตบ้าง สำหรับตนเองแล้วโอกาสใหม่ ๆ อย่างอาชีพช่างแต่งหน้า นับว่าเป็นอาชีพที่น่าค้นหาและติดตาม หากใครมีความฝันจงฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง ความสำเร็จรออยู่ข้างหน้าค่ะ”

ปวันรัตน์ เพชรษุภสาโรช (มะเหมี่ยว) วัย 36 ปี นักธุรกิจค้าส่ง และนักเรียนหลักสูตรแต่งหน้าสายอาชีพขั้นฐาน กล่าวว่า หากเราทำอะไรที่รักและชอบ เชื่อว่า เราต้องทำได้และได้ดี เหมือนตัวของมะเหมี่ยวชอบแต่งหน้าตัวเองมาก ๆ เพราะเป็นการเสริมบุคลิกและสร้างความมั่นใจเมื่อเราปรากฏตัวในที่สาธารณะ ก่อนหน้านั้นเรียนแต่งหน้าในยูทูป ซึ่งมีข้อเสียคือ เวลาเรามีปัญหาไม่รู้จะถามใคร แต่การมาเรียนที่โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI นี่เราเรียนรู้จริงจากผู้มีประสบการณ์ตรง ไม่เข้าใจตรงไหนสามารถถามได้เลย วิทยากรผู้สอนมีความเป็นกันเองมาก เราสัมผัสได้เลยว่า เขามีความเชี่ยวชาญจริง ๆ ให้ความรู้แบบไม่มีกั๊ก พอเรียนจบงานแรกที่ได้เลยคือ แต่งหน้าให้เพื่อน ๆ และคนในครอบครัว ทุกคนชมว่า แต่งสวย จึงมีกำลังใจที่คิดว่า ชาตินี้จะเอาดีในอาชีพช่างแต่งหน้าให้ได้

“รับรองเลยว่า เรียนแต่งหน้าแล้วไม่ตกงาน ขอเพียงแต่เราต้องมีความกระตือรือร้นในการที่จะเป็นช่างแต่งหน้า ฝึกฝนหาประสบการณ์ เพื่อที่จะเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพและเป็นที่ยอมรับในอนาคต ซึ่งไม่นานเกินรอ ยุคสมัยนี้ค่าครองชีพก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ คือ รายรับคงที่ แต่รายจ่ายเพิ่มขึ้น ดังนั้นนอกจากอาชีพหลักแล้วหลายคนยังต้องยังหาอาชีพเสริม เพื่อหารายได้มาจุนเจือครอบครัว มะเหมี่ยวของแนะนำอาชีพช่างแต่งหน้า ไม่ว่าจะเป็นอาชีพหลักหรืออาชีพเสริม หากคุณขยันก็ไม่มีวันอดตาย”

ธีณาภัช วรสิทธิการ (บอล) วัย 30 ปี นักเรียนหลักสูตรแต่งหน้าขั้นฐาน กล่าวว่า ตนเองเป็นคนที่ชอบการแต่งหน้ามาก ๆ ฝันอยากเป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ เมื่อโอกาสมาถึงจึงรีบตามฝันของตนเอง บอกตรง ๆว่า ไหน ๆ จะเสียเงินเรียนแต่งหน้าทั้งทีก็ต้องเลือกดูให้ดี ๆ ว่า มีโรงเรียนหรือสถาบันไหนที่น่าเชื่อถือ รวมทั้งมีผลงานเป็นที่ยอมรับ ถามทั้งคนที่รู้จักกันและเสิร์ชดูในอินเทอร์เน็ต สรุปแล้วมาลงตัวที่โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI มาเรียนแล้วพูดได้เลยว่า ไม่รู้สึกเสียดายเงินแม้แต่บาทเดียว เพราะอาจารย์สอนให้เข้าใจด้วยวิธีการที่ง่าย ๆ ไม่ซับซ้อน ทันยุคทันสมัย และมีความสนุก ไม่รู้สึกว่าเครียด ทำให้เกิดความมั่นใจ ที่สำคัญเรายังได้เครือข่ายเพื่อนที่เรียนด้วยกัน

“ตอนนี้ผมได้งานทำแล้วที่เคาน์เตอร์ Nars สาขา ZEN ขอบคุณเอ็มทีไอที่หยิบยื่นโอกาสที่ดีให้ ผมมีความเชื่อมั่นอาชีพเมคอัพอาร์ตทิสต์ยังคงเป็นอาชีพที่มีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เหมือนกับไทยแลนด์ 4.0 ไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร คนเราก็ยังคงรักสวยรักงาม โดยเฉพาะผู้หญิงเราส่วนใหญ่ก็จะแต่งหน้าก่อนออกจากบ้านไปทำงานหรือไปทำกิจกรรมต่าง ๆ กันแทบทั้งนั้น”

สำหรับผู้สนใจเรียนแต่งหน้า ขณะนี้โรงเรียนสอนศิลปการแต่งหน้า MTI มีโปรใหม่ สุดคุ้ม เลือกจ่ายตามใจ หลักสูตรเริ่มต้นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ จากราคาเต็ม 30,000 บาท ลดเหลือ 25,000 บาท รับฟรีเครื่องสำอางแบบมืออาชีพครบเซ็ต+ชุดแปรงแต่งหน้า 15 ชิ้น+พร้อมกระเป๋า MTI หรือเลือกจ่ายในราคา 15,000 บาท และรับฟรีชุดแปรงแต่งหน้า 15 ชิ้นส่วนหลักสูตรเรียน 60 ชั่วโมง รับใบประกาศนียบัตรรับรองโดยกระทรวงศึกษาธิการ "เรียนซ้ำได้ ไม่จำกัด ภายใน 1 ปี" สมัครเรียนหรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร.0-2693-2480 ต่อ 131,132 หรือ 089-113-6775 หรือ 086-341-6713

  • ผู้โพสต์ :
    comman
  • อัพเดทเมื่อ :
    26 ก.ค. 2018 01:31:19

ลงข่าวประชาสัมพันธ์ ฟรี คลิกที่นี่

 

X

เว็บไซต์เรามีการใช้คุกกี้ คลิกเพื่อดู นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา