ประกาศผลการตัดสินไปเรียบร้อยแล้วสำหรับเวทีการประกวดสาวประเภทสองระดับประเทศอย่าง “มิสทรานส์ไทยแลนด์ 2019” (MISS TRANS THAILAND 2019) ที่มี คุณเฟม-อดีราห์ จันทพาน เป็นโต้โผใหญ่ ซึ่งจัดประกวดไปอย่างยิ่งใหญ่ ณ โรงเเรมเซ็นทารา วอเตอร์เกท พาวิลเลียน กรุงเทพฯ
หนึ่งในสาวงามที่รับตำแหน่งอย่าง “เกรซ-เมธาวรินทร์ ธนาดุลกุลนันท์” นักธุรกิจด้านความงาม กับมงกุฎ “มิสทรานส์อินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2019” (MISS TRANS INTERNATIONAL THAILAND 2019) พร้อมกับคว้า 2 รางวัลคือ “รางวัลผิวหน้าสวยใส” กับ “รางวัลชุดราตรียอดเยี่ยม” ได้เปิดใจภายหลังจากได้รับตำแหน่งว่า ต้องขอบคุณเวทีมิสทรานส์ไทยแลนด์ 2019 น่าจะเป็นเวทีเดียวเปิดโอกาสอายุของผู้เข้าสมัครถึง 32 ปี ซึ่งตนเองก็อายุ 30 อัพคิดว่าคงหมดโอกาส การตัดสินใจเข้าประกวดนอกจากจะเป็นความใฝ่ฝันของสาวประเภทสองที่ครั้งหนึ่งในชีวิตอยากแต่งสวยขึ้นเวทีประกวดแล้ว ยังมองเห็นว่า เป็นเวทีที่ได้แสดงศักยภาพสาวประเภทสองของไทยในทุกด้าน อีกทั้งผู้ชนะในตำแหน่งต่าง ๆ ยังมีโอกาสได้เป็นตัวแทนของสาวประเภทสองเดินทางไปประกวดเวทีระดับนานาชาติในประเทศต่าง ๆ อีกด้วย
“สำหรับความสำเร็จของเกรซในครั้งนี้มาจาก 6 ส.คือ 1.ใส่ใจอย่างกระตือรือร้น มีวินัย เกรซจะมีความศรัทธาและเชื่อในสิ่งที่ตนเองทำ คิด พูด อีกทั้งเตรียมตัวในทุกด้านไว้ล่วงหน้า มีการบริหารเวลาที่ดี รวมถึงการกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน 2.ส.สมอง คือการทำการบ้าน การสร้างทัศนคติที่ดี โดยเฉพาะเรื่องบทบาทของสาวประเภทสองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 3.สติ คือ สิ่งสำคัญมาก ที่จะช่วยให้เราไม่ประหม่าและตื่นเต้น ทำให้ก้าวสู่เป้าหมายได้ 4.สไตล์ เราต้องมีบุคลิกภาพที่ดีและสร้างเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สร้างสรรค์ไม่เลียนแบบใคร 5.สามารถ คือ เราต้องมีความสามารถรอบตัว ก้าวให้ทันในโลกปัจจุบัน ซึ่งควรต้องขวนขวายหาความรู้ 6.สังคม คือ เราต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคม พร้อมทั้งเป็นจิตอาสาพัฒนาสังคมและประเทศชาติสืบต่อไป โดยสอดคล้องกันสโลแกนของเวทีการประกวดที่ว่า...สวยใจบุญ”
เธอได้กล่าวถึงการเตรียมพร้อมในการเป็นตัวแทนสาวประเภทสองเดินทางไปประกวดในระดับนานาชาติที่ประเทศฟิลิปปินส์ในช่วงประมาณเดือนพฤศจิกายนนี้ว่า ใช้หลัก 6 ส.ที่เกรซได้กล่าวไปแล้วจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด ดังคำกล่าวของ นโปเลียน ฮิลล์ ที่ว่า “เมื่อคุณทำมากกว่าที่คนอื่นคาดหวัง กฎแห่งการตอบแทนจะปรากฎขึ้น” และ “สิ่งใดก็ตามที่คุณกล้าจะนึกฝันและเชื่อมั่น ทุกสิ่งนั้นย่อมเป็นไปได้เสมอ” ทั้งนี้จะต้องเกิดจากความร่วมมือจากหลาย ๆ เป็นทีมเวิร์กซึ่งจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ เพราะลำพังเกรซเพียงคนเดียวคงจะไม่พลังมากพอ
“ผลการตัดสินที่จะเป็นอย่างไรนั้นถือว่าเราภูมิใจที่ได้ทำดีที่สุด เกรซเชื่อมั่นว่าสำหรับความล้มเหลวแล้วเป็นเหมือนคำกล่าวที่ว่า ความล้มเหลวเพียงความพ่ายแพ้เพียงชั่วคราวที่พิสูจน์ว่า นี่อาจจะเป็นพรอันประเสริฐที่แปลงตัวมา หรือเรียกอีกอย่างก็คือ เรื่องดีๆ ที่แฝงอยู่ในเรื่องร้ายๆ”
นอกจากนี้เธอได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม ที่จะถึงนี้ ซึ่งมีสาวประเภทสองลงรับสมัครด้วยว่า รู้สึกดีใจที่สังคมไทยให้การยอมรับเพศทางเลือก โดยเฉพาะสาวประเภทสองกันมากขึ้น นับว่าเป็นมิติใหม่ทางการเมือง ที่ไม่ได้มองเรื่องเพศ แต่มองเรื่องความดีและสามารถเป็นหลัก มีการคำนึงถึงสิทธิมนุษยชนที่คนเรามีเท่าเทียมกัน
“อยากฝากบอกและให้กำลังกับสาวประเภทสองที่คนที่ลงรับสมัครเลือกตั้งว่า ให้มองโลกในแง่ดีและต้องตระหนักว่าอย่ารอคอยโอกาสจงลุกเข้าไปหาโอกาสดังที่ทุกคนทำอยู่ อย่าหยุดคิดสร้างสรรค์แล้วคิดให้ต่างพร้อมลงมือทำทันที อย่าคิดว่าทำไม่ได้โดยที่เรายังไม่ได้ลงมือทำ ดังที่ ดร.ซุนยัดเซ็นกล่าวไว้คือ ถ้าเราเชื่อมั่นว่าทำได้ต่อให้ย้ายภูเขาถมทะเลในที่สุดก็สำเร็จจนได้ แต่ถ้าหากใจเราคิดว่า ทำไม่ได้ แม้จะง่ายแค่พลิกฝ่ามือก็ยังไม่มีวันประสบความสำเร็จ…เกรซขอเป็นกำลังให้กับผู้ที่รับสมัครเลือกตั้งทุก ๆ คนที่มีความมั่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาบ้านเมืองและประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าพร้อมทั้งมีความสงบสุขอย่างสันติ”
สำหรับการวางอนาคตของตนเองนั้น เกรซกล่าวว่า ไม่ขออะไรเลยนอกจากการได้เป็นแบบอย่างที่ดีและเป็นแรงบันดาลใจในด้านการดำเนินชีวิตที่ประสบความสำเร็จให้กับสาวประเภทสองทุกคน ความสวย ตำแหน่งความงามใด ๆ ทรัพย์สมบัติต่าง ๆไม่สามารถคงทนยั่งยืน แก่มาร่างกายสังขารก็เปลี่่ยนไปตามสภาพ ตายไปก็เอาอะไรติดตัวไปไม่ได้สักอย่าง แต่ความดี ความรู้ความสามารถที่เรามอบให้กับโลกใบนี้ต่างหากจะติดตัวเราไปจนวันตาย ไม่มีใครแย่งไปจากเรา
นี่คือคมคิดของ เกรซ-เมธาวรินทร์ ธนาดุลกุลนันท์ มิสทรานส์อินเตอร์เนชั่นแนลไทยแลนด์ 2019