​“ท่านน้อย-จันทะเสน พิมพ์ทะสอน" ผู้สร้างประวัติศาสตร์การประกวด “สาวลาว” สู่เวทีนางงามอินเตอร์ ปีนี้พร้อมเดินหน้า ได้กูรูนางงามไทยเสริมทัพ

ความงาม

นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์หน้าใหม่ สำหรับการประกวดสาวงามของ “ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว”(สปป.ลาว) ซึ่งแต่เดิมจะค่อนข้างเป็นการประกวดแบบปิด เป็นที่รู้กันเฉพาะในประเทศเท่านั้น ชุดการประกวดก็ดูเหมือนจะมิดชิด มีการเน้นชุดประจำชาติที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์ของ “แม่หญิงลาว”

แต่ทว่าเมื่อเข้าสู่ยุคไอทีที่ลาวนำ 4G ก่อนไทยลาวโดยภาคเอกชนจึงได้ปฏิวัติรูปแบบการประกวดโฉมใหม่ให้มีสีสันและทันยุคทันโลกมากยิ่งขึ้นซึ่งตัวผู้เข้าประกวดเองก็ฉีกภาพลักษณ์จากผู้หญิงที่เสมือนผ้าพับไว้ กลายมาเป็นผู้หญิงที่ตรงกันข้ามอย่างสิ้นเชิง คือมีความทันสมัย โดยเฉพาะด้านความสวยที่งามแบบติดตาตรึงใจรูปร่างที่ดูโฉบเฉี่ยวมีสัดส่วนมาตรฐานสากล สามารถสวมใส่ผ้าน้อยชิ้น ร่วมถึงชุดว่ายน้ำได้โดยไม่เคอะเขิน อีกทั้งความรู้ก็ไม่ธรรมดา หลายคนจบเมืองนอก ดีกรีการศึกษาในระดับปริญญาโท ความสามารถเพียบ ภาษาอังกฤษก็พูดชนิดน้ำไหลไฟดับ เรียกได้ว่า “สวยครบสูตร”

ยิ่งเมื่อ “อรอนงค์ หอมสมบัติ” รองอันดับ 1 มิสยูเวิร์สลาว 2017 ที่ได้รับการแต่ตั้งให้เป็น“มิสยูนิเวิร์สลาว ปี 2018” เข้าร่วมประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2018” ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพเมื่อช่วงเดือนธันวาคมปีที่แล้ว สามารถพรีเซนต์ชุดประจำชาติลาวที่ใช้ชื่อชุดว่า “Stream of Generosity” หรือ “ชุดธารน้ำใจสู่ประเทศลาว“จนกระทั่งคว้ารางวัลชนะเลิศชุดประจำชาติ ซึ่งเป็นฝีมือการรังสรรค์อย่างวิจิตรตระการตาโดย “คัมภีร์-รพีภัทร สำเร”ดีไซเนอร์ชาวไทย มาครอบครองได้เหนือความคาดหมาย เพราะการประกวดในครั้งนี้ถือว่าเป็นสงครามชุดประจำชาติกันกันเลยทีเดียวชนิดที่ว่าใครอย่าพลาดทำเอาโซเชี่ยลมิเดียของลาวแทบระเบิด เนื่องจากมีแต่ผู้คนโพสต์ข้อความแสดงความยินดีไปหลายวันทำให้เกิดกระแสความนิยมใน “นางงามลาว” กันมากขึ้น ทั้งผู้ที่จะลุกขึ้นมาจัดประกวดเพื่อที่จะส่งนางงามไปประกวดนอกประเทศ ทั้งสร้างแรงบันดาลใจให้กับสาวลาวทั้งหลายสนใจที่จะสมัครประกวด ตลอดจนชาวลาวมีการตื่นตัวเรื่องนางงามกันมากยิ่งขึ้น

ท่านน้อย-จันทะเสน พิมพ์ทะสอน ประธานบริษัท มิสลาว จำกัด ในฐานะผู้สร้างสรรค์และทรงอิทธิพลในการจัดประกวดนางงามลาวมากที่สุดในขณะนี้ โดยได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐให้จัดตั้งบริษัท มิสลาว จำกัด ขึ้นมา กล่าวว่า ภายหลังจากที่ประสบความสำเร็จในการจัดประกวด “มิสอินเตอร์เนชั่นแนลลาว 2018” (MISS INTERNATIONAL LAOS 2018) และ “มิสทัวริซึ่มควีนลาว 2018” (MISS TOURISM QUEEN LAOS 2018) โดยได้รับอนุญาตจากกระทรวงแถลงข่าว วัฒนธรรมและกีฬา เมื่อช่วงปลายปีที่ผ่านมา นับว่าเป็นการปลุกกระแสการประกวดนางงามลาวให้ฟื้นขึ้นมามีชีวิตชีวา กลายเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ขึ้นมา เนื่องจากเป็นการฉีกกฎ กติกา รูปแบบการประกวดแบบเดิม ๆโดยสิ้นเชิง ถือว่าเป็นการขับเคลื่อนเวทีประกวดนางงามลาวให้เข้าสู่ความทันสมัยและมีความเป็นสากลนิยมมากขึ้น แต่เราไม่ได้ทิ้งความดั้งเดิมไปหมด ยังคงเอกลักษณ์ของเสน่ห์ผู้หญิงลาว โดยเฉพาะด้านชุดประจำชาติที่บ่งบอกถึงเอกลักษณ์ทางด้านวัฒนธรรมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งผู้ได้รับตำแหน่งชนะเลิศ รองอันดับต่าง ๆ และผู้เข้ารอบลึก ๆ จะได้เป็นผู้แทนสาวลาวเข้าร่วมประกวดในเวทีระดับนานาชาติ อย่างเช่น มุกธิดา สุพันทะจิตผู้เข้ารอบ 20 คนสุดท้ายมิสอินเตอร์เนชั่นแนลลาว ปี 2018ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 2Miss China-Asean Etiquette Pageant 2018 ที่ประเทศจีนมา เปรียบเสมือนทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของลาวสู่สายตาชาวโลก และเป็นการเปิดประตูประเทศกว้างขึ้น เพื่อให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเยือน

“สำหรับบริษัท มิสลาว จำกัด ไม่ได้เป็นเพียงแค่บริษัทที่จัดประกวดนางงามลาวเท่านั้น หากแต่ยังเป็นศูนย์กลางที่ครบวงจรของผู้หญิงลาวยุคใหม่ที่จะส่งเสริมและสนับสนุนทุกคนได้แสดงศักยภาพอย่างสร้างสรรค์สู่สังคมอย่างมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ทั้งระดับประเทศและระดับโลกในทุกๆด้านตามความถนัดของแต่ละคน พร้อมทั้งพัฒนาศักยภาพให้เป็นต้นแบบที่ดีแก่คนรุ่นใหม่อีกด้วย”

ท่านน้อย ยังกล่าวด้วยว่า ล่าสุดเพิ่งได้รับลิขสิทธิ์ในการจัดประกวด “มิสยูนิเวิร์สลาว 2019” (MISS UNIVERSE LAOS 2019) อย่างเป็นทางการเพิ่มขึ้นมาอีก 1 เวทีใหญ่ ถือเป็นการคัดสรรสาวงามลาวเข้าสู่เวทีใหญ่อันดับหนึ่งของโลกเป็นครั้งแรกบนเวที “มิสยูนิเวิร์สลาว 2019” (MISS UNIVERSE 2019)โดยที่ผ่านมาได้รับเชิญจากกองประกวด “มิสยูนิเวิร์ส 2018” โดยหัวเรือใหญ่ คุณพอลล่า แมรี่ ชูการ์ต ซึ่งเมืองไทยเป็นเจ้าภาพ ให้เข้าร่วมในวันงานสำคัญต่าง ๆ อีกด้วย

“เราคาดหวังว่า ในปีนี้และปีต่อๆไปจะสามารถคัดสรรผู้แทนสาวลาวที่จะขึ้นสู่เวทีการประกวดระดับโลกต่าง ๆ ได้อย่างสง่างามโดยเฉพาะเวทีมิสยูนิเวิร์สให้ดีที่สุด มีคุณสมบัติตอบโจทย์ของเวทีได้มากที่สุด ทั้งนี้เราได้เชิญผู้เชี่ยวชาญด้านความงามและการประกวดจากประเทศไทย อย่างเช่น คุณหนุ่ม-นันท์นภัทร (ประเสริฐ) เจิมจุติธรรม มาเป็นที่ปรึกษาของบริษัทฯ ตั้งแต่ปีที่แล้ว ต้องขอขอบคุณที่มาช่วยสร้างสีสันและปลุกกระแสความนิยมในนางงามให้กับชาว สปป.ลาว มากยิ่งขึ้น โดยมีเครื่องชี้วัดสำคัญนั่นคือ โซเชี่ยลมิเดีย ที่อาจกล่าวได้ว่าร้อนระอุเลยทีเดียว”

ทางด้าน คุณหนุ่ม- นันท์นภัทร (ประเสริฐ) กล่าวว่า ไทยกับลาวเป็นบ้านพี่เมืองน้อง พึ่งพาอาศัยกันมาทุกยุคทุกสมัย แม้แต่วงการนางงาม ไม่อยากให้คิดว่า เป็นการสร้างนางงามลาวให้เป็นคู่แข่งนางงามไทย เราเรียกว่าเป็นการเติมเต็มให้กันและกันอย่างชุดประจำชาติลาวที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมบนเวทีมิสยูนิเวิร์ส 2018 ก็เป็นฝีมือของดีไซเนอร์ชาวไทย การได้รับเกียรติและความไว้วางใจจากท่านน้อย ในนาม บริษัท มิสลาว จำกัด นับว่าเป็นความร่วมมือที่ดีในระดับระหว่างประเทศที่จะช่วยเปิดโลกทัศน์และพัฒนาศักยภาพทั้งผู้เข้าประกวดและเวทีประกวดของ สปป.ลาว ให้มีความก้าวหน้าและทัดเทียมกับนานาประเทศไม่น้อยหน้าใคร

"เท่าที่สัมผัสกับนางงามลาวมาในระยะหนึ่งต้องบอกว่าพัฒนาแบบก้าวกระโดดมาก ในขณะเดียวเดียวกับเราก็ไม่ได้ทิ้งความเป็นเอกลักษณ์ของชาติ เช่น ความเป็นแบบฉบับของสาวลาว และศิลปวัฒนธรรมลาว เป็นต้น ยังคงสอดแทรกไว้อย่างเหมาะสม แล้วตัวผู้เข้าประกวดหรือตัวแทนที่จะเข้าร่วมประกวดจะได้รับการพัฒนาและเพิ่มพูนศักยภาพด้านต่าง ๆ รวมถึงการต่อยอดในการทำงาน ทั้งระหว่างในขณะที่ดำรงตำแหน่งและหลังจากหมดวาระลงไป เรียกว่า เป็นการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับชีวิต หวังว่าความร่วมมือในครั้งนี้จะสามารถต่อยอดไปยังด้านต่าง ๆ ได้ดีอีกด้วย"

  • ผู้โพสต์ :
    comman
  • อัพเดทเมื่อ :
    26 มี.ค. 2019 03:19:52

ลงข่าวประชาสัมพันธ์ ฟรี คลิกที่นี่

 

X

เว็บไซต์เรามีการใช้คุกกี้ คลิกเพื่อดู นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา