5G จะส่งผลให้เกิดการปฎิรูปครั้งใหญ่ในหลายภาคส่วน และในปีนี้เราได้เริ่มเห็นการเปิดตัว 5G จากทั่วโลก ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เองก็ได้กลายเป็นจุดสนใจว่าจะมีการเปิดตัวเมื่อไร อย่างไร ทั้งทางด้านการตลาด และการใช้งานจริงในระดับภูมิภาค ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในตลาดดิจิทัลที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็วที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จึงเป็นที่คาดการณ์ว่า ประเทศไทยจะได้ประโยชน์จากการนำ 5G มาใช้ในการสร้างโอกาสใหม่ๆให้กับประเทศในอนาคตอันใกลนี้ ภายในงาน Nokia Innovation Day 2019 ที่จัดขึ้นในกรุงเทพฯ โนเกียได้นำนวัตกรรมสำหรับยุคแห่งการเชื่อมต่อโดยเทคโนโลยี 5G มาจัดแสดงให้กับลูกค้าและพันธมิตร อาทิเช่น
โซลูชั่น 5G สำหรับประเทศไทย 4.0
ในขณะที่ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนเพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0, องค์กรและบริษัทต่างๆ จำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากระบบไซเบอร์-กายภาพต่างๆที่มีความซับซ้อน เพื่อที่จะบูรณาการระบบภายในองค์กรให้เป็นไปตามแนวทางดิจิทัล ภายในงานฯ โนเกียได้สาธิตให้เห็นว่าการใช้งานของระบบอัตโนมัติและการรวมกันของข้อมูลสามารถช่วยองค์กรในภาคส่วนต่างๆ ให้ก้าวต่อไปอย่างรวดเร็วเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับเศรษฐกิจดิจิทัลในระยะต่อไป
▪ ระบบการผลิตแบบแทคไทล์ผ่าน 5G (5G Tactile Production System) – การแสดงให้เห็นว่าระบบการผลิตแบบแทคไทล์ผ่าน 5G ของโนเกียจะช่วยสนับสนุนสายการผลิตที่ปัจจุบันมีความยืดหยุ่นที่เพิ่มขึ้นได้ ช่วยทำให้สภาพแวดล้อมในการปฏิบัติงานมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมต่างๆ มีประสิทธิภาพการผลิตที่สูงขึ้นและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
▪ ระบบอัตโนมัติแบบดิจิทัลเพื่อการผลิต (Digital Automation for Manufacturing) – การสาธิตว่าเครือข่าย 5G สามารถสร้างการแลกเปลี่ยนข้อมูลแบบเรียลไทม์เพื่อป้องกันความผิดพลาดของเครื่องมือและเครื่องจักรอุตสาหกรรมโดยการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence: AI) ได้อย่างไร
▪ การปฏิบัติงานด้านท่าเรือแบบอัตโนมัติผ่าน 5G (Automated Harbor Operations with 5G) – การแสดงให้เห็นว่าการตอบสนองที่รวดเร็วและความหน่วงที่น้อยลงของ 5G (5G URLLC: Ultra-Reliable Low Latency Communication) จะสร้างคุณค่าให้กับระบบการทำงานแบบอัตโนมัติของท่าเรือได้ โดยสาธิตการควบคุมฝูงโดรนความเร็วสูงในท่าเรือจำลอง
เพิ่มขีดความสามารถในการเชื่อมต่อให้ผู้บริโภคในยุค 5G
ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีการเชื่อมต่อการสื่อสารไร้สายมากที่สุด โดย มีปริมาณการสมัครการใช้บริการสื่อสารไร้สาย (mobile subscriptions) 133% จากจำนวนประชากร 69.24 82%ของจำนวนทั้งหมดนี้มีการเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต ในฐานะที่ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่ยุคใหม่แห่งการเชื่อมต่อผ่าน 5G ภายในงาน Nokia Innovation Day โนเกียได้มีการสาธิตดังต่อไปนี้
▪ ปฏิวัติประสบการณ์ของผู้บริโภคด้วย 5G – การสาธิตค่าความหน่วงระหว่าง 4G กับ 5G โดยการเล่นปิงปองแบบเสมือนจริง (VR) โดยผู้เล่นจะถืออุปกรณ์สัมผัสแทนไม้ปิงปองเพื่อควบคุมตัวละคร (avatars) ของตน
▪ สาธิตประสบการณ์การช้อปเสมือนจริง – การประยุกต์ใช้ 5G เพื่อรวมร้านค้าออนไลน์และร้านค้าปลีกทั่วไปเข้าด้วยกัน โดยให้ผู้ใช้ลองสวมใส่เสื้อผ้าจริงผ่านกระจกเสมือนจริง ซึ่งผู้ทดลองจะถูกสแกนและวัดขนาดตัวตามเวลาจริง และแปลงค่าที่วัดได้เป็นขนาดเสื้อผ้าที่พอดีกับขนาดตัวตามยี่ห้อและเสื้อผ้าที่จะผลิตตามความต้องการ
▪ ทัวร์การออกแบบรถยนต์ – ทัวร์แห่งอนาคตในรูปแบบของการรวมสภาพแวดล้อมจริงกับวัตถุเสมือนเข้าด้วยกัน (Augmented Reality: AR) บน 5G ซึ่งประกอบด้วยการฉายภาพโฮโลแกรมของนักออกแบบรถที่กำลังพาผู้ใช้ชมส่วนประกอบต่างๆ ของการออกแบบรถรุ่นนั้นๆ ที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของพวกเขา
มร.เซบาสเตียน โลฮอง, ผู้อำนวยการบริษัทโนเกีย ประจำประเทศไทย กล่าวว่า “ด้วย 5G ที่กำลังจะมาถึงประเทศไทยจะมีการก้าวกระโดดในเรื่องของการเชื่อมต่ออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนซึ่งหมายความว่าธุรกิจและองค์กรในประเทศจะต้องปรับตัวเตรียมสถาปัตยกรรมการเชื่อมต่อเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลที่จะมาถึง 5G จะช่วยกระตุ้นวิสัยทัศน์ดิจิทัลนี้ และนำไปสู่การประยุกต์ใช้ที่จะเป็นประโยชน์ต่อ อุตสาหกรรมในวงกว้าง ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสใหม่ๆ ทั้งด้านการพัฒนามนุษย์และเศรษฐกิจของประเทศ
เช่นเดียวกับปีก่อนๆ ที่งาน Nokia Innovation Day ในปีนี้เรามีความยินดีที่ได้นำเทคโนโลยีและตัวอย่างการใช้งาน 5G ล่าสุดมาจัดแสดง เพื่อช่วยผลักดันและสนับสนุนวิสัยทัศน์ประเทศไทย 4.0 ที่จะช่วยให้ประเทศไทย ก้าวสู่ความเป็นหนึ่งในผู้นำแห่งวิถีของโลกดิจิทัลในภูมิภาคนี้ ”