“ทรู “ แบรนด์ไทยที่สร้างชื่อเสียงระดับนานาชาติ โดย นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ขึ้นรับ 2 รางวัลเกียรติยศในพิธีมอบรางวัล Asia–Pacific Best Practices Awards 2019 ณ โรงแรมแชงกรีลา ประเทศสิงคโปร์ โดย “ทรู คอร์ปอเรชั่น” เป็นโอเปอเรเตอร์ไทยเพียงรายเดียวที่ได้รับรางวัลผู้ให้บริการโทรคมนาคมแห่งปี 2019 ประจำภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก โดยได้รับต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ขณะที่ “ทรูมูฟ เอช” ได้รับรางวัลผู้ให้บริการโมบายล์ดาต้า แห่งปี 2019 ประจำภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิก ซึ่งนับเป็นรางวัลต่อเนื่อง 3 ปีซ้อน สะท้อนภาพความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจอันเป็นที่ยอมรับในระดับสากล
นายวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ รองประธานคณะกรรมการบริหาร บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า กลุ่มทรู ภูมิใจและรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ประสบความสำเร็จ ได้รับ 2 รางวัลเกียรติยศครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญ ที่ไม่ใช่เพียงสะท้อนความเป็นผู้นำธุรกิจโทรคมนาคมในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังหมายถึงการได้ก้าวไปสู่แถวหน้าของธุรกิจด้วยขีดความสามารถในการแข่งขันระดับภูมิภาคเอเชีย–แปซิฟิกอีกด้วย ซึ่งรางวัลฟรอสต์ แอนด์ ซัลลิแวน เอเชีย–แปซิฟิก ถือเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจที่ได้สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศ
"เนื่องจากการได้รับรางวัลครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่าบริษัทไทยมีคุณสมบัติที่เหมาะสมด้วยการผ่านการพิจารณาอย่างเข้มข้นจากการตัดสินของผู้บริหารระดับสูงในแวดวงสื่อสารโทรคมนาคมในเอเชีย–แปซิฟิก และเหล่านักวิเคราะห์จาก Frost & Sullivan ที่โปร่งใสและรอบด้าน สะท้อนสภาวะการตลาดในปัจจุบัน รวมถึงแนวโน้มตลาดใหม่ที่กำลังเติบโต ทั้งนี้ คณะกรรมการได้ประเมิน วิเคราะห์และวิจัยบริษัทที่ได้รับการเสนอชื่อแบบเจาะลึก ตามหลักเกณฑ์ที่หลากหลายด้านจากผลประกอบการด้านการตลาดที่แท้จริง อาทิ การเติบโตของรายได้ ส่วนแบ่งการตลาด และการเติบโตของส่วนแบ่งการตลาด นอกจากนี้ ยังรวมถึงความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมสินค้า กลยุทธ์การตลาด และกลยุทธ์การพัฒนาธุรกิจอีกด้วย"
Ms. Sofea Zukarnain, Research Associate, Digital Transformation, Frost & Sullivan กล่าวว่า ด้วยฐานผู้ใช้บริการที่ขยายเพิ่มขึ้นและการใช้ดาต้าที่สูงขึ้น ทรู คอร์ปอเรชั่น มีการเติบโตด้านรายได้จากการให้บริการสูงที่สุดในปี 2018 พิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถในการบริหารจัดการส่งมอบเครือข่ายที่แข็งแกร่ง สินค้าและบริการคุณภาพให้แก่ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมีส่วนช่วยในการขับเคลื่อนธุรกิจของกลุ่มทรู ยิ่งไปกว่านั้น บริษัท ยังได้ผนึกกำลังและร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในและนอกกลุ่มอุตสาหกรรมเพื่อพัฒนาประสบการณ์การใช้งานของลูกค้า และยังคงสามารถแข่งขันในอุตสาหกรรมที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้
นอกจากนี้ ความมุ่งมั่นในการขยายธุรกิจและพัฒนาประสบการณ์ใช้งานที่ดีของลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ ทรูมูฟ เอช เติบโตด้านการบริการโมบายล์ ดาต้า ในระดับเอเชีย-แปซิฟิกเมื่อปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยยะสำคัญ และด้วยคลื่นสัญญาณหลากหลายความถี่ของทรูมูฟ เอช ทำให้สามารถให้บริการอย่างครอบคลุม และมีคุณภาพ เหนือชั้น โดยเครือข่าย 4G คลอบคลุมจำนวนประชากรในประเทศถึง 98% ซึ่งถือว่าสูงกว่าคู่แข่ง สร้างความเชื่อมั่นให้โครงข่าย ทรูมูฟ เอช ยังคงโดดเด่นในด้านโมบายล์ดาต้า โดยมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นถึง 14% และรายได้จากการให้บริการ Non Voice ในเอเชีย-แปซิฟิก สูงขึ้น 7.3% ในปีที่ผ่านมา
“ทั้งนี้ การเตรียมตัวเพื่อก้าวสู่ยุค 5G ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรด้านเทคโนโลยี กลุ่มทรู กำลังเปิดให้บริการ Internet of Things รวมถึงแอปพลิเคชันที่ช่วยให้โลกเชื่อมโยงกันได้มากขึ้น ซึ่งการที่กลุ่มทรู ขับเคลี่อนธุรกิจแบบต่อเนื่อง เพื่อให้องค์กรยังคงยืนหยัดในอุตสาหกรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วได้นั้น ส่งผลให้กลุ่มทรู สามารถอยู่เหนือคู่แข่งได้” Ms. Sofea Zukarnain กล่าว