“ซาบีน่า” เผยผลประกอบการไตรมาส 3 รายได้รวมอยู่ที่ 847.5 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 116.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.3 ล้านบาท คิดเป็น 5.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 2,490.6 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 316.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.5 ล้านบาทหรือเพิ่มขึ้น 10.6% ยอมรับรายได้ชะลอตามภาพรวมเศรษฐกิจ ขณะที่ปัญหาอุทุกภัยในหลายพื้นที่ภาคอีสานฉุดกำลังซื้อ แต่ได้รับปัจจัยหนุนจากบาทแข็งค่า ส่งผลต้นทุนจ้างผลิตต่ำลง ระบุการเปิดตัวคอลเลคชั่น “บอดี้ บรา” และกระแสความแรงของ “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก” ช่วยหนุนยอดขายไตรมาส 3 พร้อมเดินหน้าปั๊มยอดขายไตรมาสสุดท้ายด้วยการผนึกกำลัง “ไลน์” ดึงคาแรคเตอร์ไลน์ที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุด 8 ลาย ปั้นชุดชั้นในคอลเลคชั่นใหม่ทำตลาดกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น
นายบุญชัย ปัณฑุรอัมพร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซาบีน่า จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายชุดชั้นในแบรนด์ “ซาบีน่า” เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคมถึงกันยายน) และงวด 9 เดือนแรก (มกราคมถึงกันยายน) ของปีนี้ เป็นไปตามภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังอยู่ในภาวะชะลอตัว ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวมีหลายพื้นที่ในภาคอีสานที่ประสบปัญหาอุทุกภัย ทำให้ยอดขายผลิตภัณฑ์ซาบีน่าอยู่ในภาวะทรงตัว อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มีกำไรสุทธิเติบโตขึ้น เนื่องจากต้นทุนลดลง โดยเฉพาะการที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้นทุนการจ้างผลิตจากโรงงานในจีนลดต่ำลง ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังเน้นควบคุมค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ ทำให้ผลประกอบการทั้งไตรมาสที่ 3 และงวด 9 เดือน มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาคิดเป็น 5.7% และ 10.6% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 3 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้เปิดตัวชุดชั้นในคอลเลคชั่น “บอดี้ บรา” (Body Bra) ซึ่งเป็นบราเกาะอก โดยมี “ใบเฟิร์น-พิมพ์ชนก ลือวิเศษไพบูลย์” เป็นพรีเซนเตอร์ ยังเป็นปัจจัยกระตุ้นการขายในช่วงเวลาดังกล่าว ทั้งนี้ หากพิจารณาจากช่องทางขายทั้ง 4 ช่องทางของซาบีน่าแล้ว พบว่าช่องทางขายออนไลน์ยังคงเติบโตได้อย่างน่าพอใจ โดยมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้น 7.3% ขณะที่ช่องทางรีเทล ผ่านทั้งเคาน์เตอร์ในห้างสรรพสินค้าและซาบีน่า ช้อป ลดลง 2.6% การส่งออกภายใต้แบรนด์ “ซาบีน่า” ไปยังกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา, ลาว, เมียนมา และเวียดนาม) ขยายตัว 102% ส่วนการรับจ้างผลิต (OEM) ให้กับแบรนด์ในยุโรป ลดลง 11.9% ตามภาพรวมเศรษฐกิจโลกจากการไม่แน่นอนของสงครามการค้า และการถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ของสหราชอาณาจักร อย่างไรก็ตาม คำสั่งซื้อในไตรมาสที่ 4 เริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
“แม้ว่า ไตรมาสที่ 3 จะเป็นช่วงที่เวลามีความท้าทายมาก แต่เราก็ยังทำผลงานได้อย่างน่าพอใจ โดยเฉพาะการมุ่งรักษาอัตราการเติบโตของกำไรสุทธิ และอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ที่ยังคงอยู่ที่ 53.7%” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SABINA กล่าว
สำหรับในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมทำตลาดด้วยการจับกลุ่มลูกค้าวัยรุ่น โดยได้ผนึกความร่วมมือกับ LINE Creator Market ร่วมมือกันนำคาแรคเตอร์ยอดฮิตที่มียอดดาวน์โหลดสูงสุดของไลน์ มาออกแบบเป็นลายชุดชั้นใน ธีมฤดูหนาว ทั้งหมด 8 ลายได้แก่ หมีขอ, พุดดิ้ง แฮมเตอร์, แมวเย้, คุณหมีกับเจ้าเหมียว, เจ้าเหมียวน้อย , หมีนุ่มกับต่ายนิ่ม, วอร์บี้ และเบบี้แคท โดยมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เป็นกลุ่มวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษา และกลุ่มคนวัยทำงานที่ชอบความน่ารักสดใส ซึ่งเชื่อว่าคอลเลคชั่น Sabina X LINE Creator Market จะสามารถสร้างความตื่นเต้น และเกิดเป็นกระแสกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปีนี้ได้อย่างแน่นอน
“ปัจจุบันคอลเลคชั่นที่ร่วมมือกับศิลปินและลิขสิทธิ์การ์ตูนคาแรคเตอร์ของซาบีน่า มีจำนวนมากกว่า 11 คอลเลคชั่น เริ่มตั้งแต่ปี 2014 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลาเกือบ 6 ปีแล้วที่ซาบีน่าเริ่มนำคาแรคเตอร์การ์ตูนที่ได้รับความนิยมในโลกโซเชียลมีฐานแฟนคลับที่ชื่นชอบเป็นจำนวนมากมาออกแบบผลิตเป็นชุดชั้นใน ถือเป็นความแปลกใหม่และยังไม่เคยมีแบรนด์ใดทำมาก่อน ประกอบกับลวดลายน่ารักและการเล่าเรื่องราวที่เข้าถึงวัยรุ่นได้ง่าย ยิ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านชุดชั้นในวัยรุ่นของซาบีน่า ส่งผลให้ยอดขายของชุดชั้นในคอลเลคชั่นนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี โดยในปีนี้ เราคาดว่า ยอดขายของชุดชั้นในกลุ่มคาแรคเตอร์จะเพิ่มขึ้นถึง 21%” นายบุญชัย กล่าวในท้ายที่สุด