นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) เป็นประธานในพิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณผู้เกษียณอายุราชการ และผู้ให้บริการดีเด่นของ สช.พร้อมมอบนโยบายการจัดการศึกษาเอกชน และถ่ายภาพร่วมกับคณะทำงานประสานการจัดการศึกษาเอกชนกับส่วนภูมิภาค ทั้ง 18 เขตตรวจราชการ ในการประชุมรายงานผลโครงการพัฒนาทักษะนักเรียนโรงเรียนเอกชน เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 โดยมี นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (เลขาธิการ กช.) นายวิมล จำนงบุตร ที่ปรึกษาเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน นายธฤติ ประสานสอน รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ผศ.ดร.ศุภเสฏฐ์ คณากูล นายกสมาคมสถานศึกษาเอกชนจังหวัดนครราชสีมา ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชนในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ประธานคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด นายกสมาคมการศึกษาเอกชน ผู้เกษียณอายุราชการ ผู้ให้บริการดีเด่นของ สช.และบุคลากรของ สช.เข้าร่วมในพิธีกว่า 300 คน เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2563 ณ โรงแรมมณเฑียร ริเวอร์ไซด์ เขตบางคอแหลม กรุงเทพมหานคร
นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงศึกษาธิการ (รมช.ศธ.) กล่าวว่า รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่มาเป็นประธานในพิธีและเป็นผู้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณให้กับผู้เกษียณอายุราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของ สช.และข้าราชการกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชนในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด พร้อมกันนี้ รู้สึกยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณผู้ให้บริการดีเด่นของ สช.ด้วย ในนามของกระทรวงศึกษาธิการ ขอขอบคุณผู้เกษียณอายุราชการทุกท่านที่เสียสละเวลา อุทิศทั้งแรงกาย แรงใจ ที่ไม่เพียงปฏิบัติราชการอย่างเต็มกำลังความสามารถ และยังได้สร้างประโยชน์ให้กับหน่วยงานเป็นอย่างมาก จนมาถึงวันนี้ วันเกษียณอายุราชการ วันที่ทุกท่านภาคภูมิใจ ขออวยพรให้ผู้เกษียณอายุราชการทุกท่าน พร้อมด้วยผู้เข้าร่วมในพิธีทุกท่าน และขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย พระสยามเทวาธิราช สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก พร้อมทั้งคุณความดีที่ได้กระทำไว้ได้โปรดดลบันดาลให้ทุกท่านและครอบครัว จงประสบแต่ความสุขความเจริญ ตลอดไป
จากนั้น นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศธ.ได้มอบนโยบายการจัดการศึกษาเอกชน ซึ่งได้กล่าวว่า จากที่ได้เข้ามาทำงานรวมเวลาได้ 1 ปี กับอีกประมาณ 2 เดือน ได้ทุ่มเท ทำงาน ลงพื้นที่เพื่อรับฟังปัญหาอุปสรรคมากมาย จากหน่วยงานในกำกับ รับรู้ถึงความยากลำบาก ทั้งของผู้บริหารโรงเรียนเอกชน ทั้งของครูเอกชน รวมทั้ง ของนักเรียน ผู้เรียนด้วย ซึ่งปัญหาเหล่านี้ เมื่อดิฉันได้รับทราบแล้ว ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ นำปัญหาเหล่านั้นมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ ตั้งคณะทำงาน เพื่อหารือ ความร่วมมือ แนวทางการแก้ไข เพื่อให้ได้มาซึ่งการดำเนินงานที่มีประสิทธิ ภาพ เพื่อพัฒนาการศึกษาไทย ทุกคนร่วมกัน ทุกคนร่วมแรงร่วมใจกัน ทั้ง เลขาธิการ กช.สมาคมโรงเรียนเอกชน ทุกท่านล้วนแล้วแต่เป็นจิกซอร์ ที่จะมาเติมเต็มเพื่อการศึกษาชาติทั้งสิ้น
สำหรับการดำเนินงานที่ผ่านมา ได้เพิ่มสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลครูเอกชน จาก 100,000 บาท/คน/ปี เป็น 150,000 บาท/คน/ปี ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 ได้พัฒนาศักยภาพการจัดการเรียนการสอนของครูผู้ดูแลเด็กพิการ ให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับวิธีการจัดการเยนการสอนที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละคนได้อย่างเหมาะสม เช่น มอบค่าตอบแทนพิเศษครูที่สอนนักเรียนพิการ (พ.ค.ก.) อุดหนุนสิ่งอำนวยความสะดวก สื่อ บริการ และความช่วยเหลืออื่นใดทางการศึกษาให้นักเรียน พัฒนาผู้บริหารและครู เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระดับชาติ (O-Net) จำนวน 42,989 คน 2,764 โรงเรียน ใน 4 วิชาหลัก คือ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และภาษาอังกฤษ ได้เปิดให้ใช้Application สช. On Mobile เพื่อสร้างเครื่องมือในการเข้าถึงการให้บริการแก่ ครู และบุคลากรทางการศึกษา สังกัด สช. ในรูปแบบ Mobile Application เพื่อเพิ่มช่องทางในการอำนวยความสะดวก ด้านการติดต่อสื่อสาร และการประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสาร สนับสนุนการเข้าถึงข้อมูลด้านความรู้และสวัสดิการจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนไปยังผู้บริหาร ครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน และเพื่อจัดเก็บฐานข้อมูลที่ได้จาก ครูและบุคลากรทางการศึกษาสังกัดสถาบันการศึกษาเอกชน ที่เกี่ยวข้อง สำหรับนำมาวิเคราะห์ และกำหนดนโยบายในการบริหารต่อไป
สำหรับการอบรมค่ายผู้นำเยาวชนวิถีใหม่ห่างไกลยาเสพติด รัฐบาลได้กำหนดให้การป้องกันและปราบปราบยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ ที่หน่วยงานทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันในการควบคุม ป้องกัน ปราบปราบ และแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ประชาชนมีความรู้สึกมั่นคงปลอดภัยในการดำรงชีวิต กระทรวงศึกษาธิการในฐานะหน่วยงานของรัฐที่กำกับดูแลสถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กและเยาวชนในสถานศึกษาต่อการรองรับสภาพปัญหายาเสพติดในสังคม ได้ดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษามาอย่างต่อเนื่องสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ได้ตระหนักและเห็นความสำคัญในการป้องกันและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับนักเรียนโรงเรียนเอกชนเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนเอกชนมีการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) ได้ตระหนักถึงความสำคัญดังกล่าว จึงกำหนดโครงการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาเอกชน เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนเอกชนมีการดำเนินงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติดให้กับผู้เรียนในโรงเรียนเอกชน และให้ผู้เรียนมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์และทักษะที่จำเป็นสำหรับศตวรรษที่ 21 และเพื่อสร้างเครือข่ายโรงเรียนต้นแบบด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา โดยแบ่งเป็น 2 กิจกรรม คือ ค่ายทักษะชีวิตสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด กลุ่มเป้าหมาย เป็นนักเรียนโรงเรียนเอกชนสามัญทั่วประเทศ ระดับประถมศึกษา จำนวน 80 โรงเรียน โรงเรียนละ 50 คน รวม 4,000 คน และค่ายผู้นำเยาวชนวิถีใหม่ ห่างไกลยาเสพติด นักเรียนโรงเรียนเอกชนสามัญทั่วประเทศ ระดับมัธยมศึกษา จำนวน 4,000 คน
สำหรับกิจกรรมการจัดประชาพิจารณ์ “ความคาดหวังต่อรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อการพัฒนาการศึกษาเอกชน” ได้มอบหมายให้ ท่านอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ กช. ไปดำเนินการร่วมกับสมาคมคณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชน (ส.ปส.กช.) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการจัดประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นและความต้องการของนักเรียนโรงเรียนเอกชน จำนวน 20 จุด โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ความรู้แก่ผู้เข้าร่วมโครงการ เรื่องคุณธรรม จริยธรรม ความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ ส่งเสริมพัฒนาให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีความพร้อมและรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงสังคมปัจจุบัน ปลูกจิตสำนึกให้ผู้เข้าร่วมโครงการมีส่วนร่วมในกิจกรรมตามวิถีแห่งประชาธิปไตยร่วมเสนอความคิดเห็นและความคาดหวังต่อรัฐบาล และกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อการพัฒนาการศึกษาเอกชน โดยมีผู้เข้าร่วมประชาพิจารณ์ ประกอบด้วย ผู้บริหาร จำนวน 225 คน ครูโรงเรียนเอกชน จำนวน 450 คน และ นักเรียนโรงเรียนเอกชน จำนวน 5,401 คน รวม 6,076 คน การทำประชาพิจารณ์ ซึ่งความคิดเห็นดังกล่าวได้นำไปรวบรวม เพื่อนำเสนอต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เพื่อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป
และ สำหรับการดำเนินการต่อไปนั้น ได้ขยายความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย แห่งเรียนรู้กับภาคีเครือข่ายแหล่งเรียนรู้ดิจิทัล “ศูนย์ Digital Leaning Center” ของสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนที่มีความหลากหลาย เข้าถึงทั้งนักเรียนและประชาชนมากยิ่งขึ้น โดยเน้นครูใช้ระบบออนไลน์ได้อย่างชำนาญ และพัฒนาระบบสวัสดิการกองทุนสงเคราะห์ออนไลน์ให้สมาชิกได้รับรู้ข้อมูล ความเคลื่อนไหวของกองทุนฯ และการบริการอื่นๆ ของ สช. รมช.ศธ. กล่าว
ทางด้าน นายอรรถพล ตรึกตรอง เลขาธิการ กช. กล่าวว่า พิธีมอบโล่ประกาศเกียรติคุณของผู้เกษียณอายุราชการ และผู้ให้บริการดีเด่นของ สช. และข้าราชการที่ปฏิบัติงานกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชนของสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด ในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อให้บุคลากรของ สช. ได้รับการเอาใจใส่ ให้ความสนใจและความสำคัญ อันจะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจ ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ผู้เกษียณมีพลังที่จะสร้างสรรค์คุณประโยชน์ให้กับสังคม และขณะเดียวกันเพื่อให้บุคลากรที่จะเกษียณได้ถ่ายทอดและเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในการทำงาน โดยจัดขึ้นในวันที่ 24 กันยายน 2563 ผู้เข้าร่วมกิจกรรมประกอบด้วยผู้บริหาร ข้าราชการ และบุคลากร ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน ข้าราชการที่ปฏิบัติงานกลุ่มส่งเสริมการศึกษาเอกชนในสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด คณะกรรมการประสานและส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัด สมาคมฯ และผู้เกษียณอายุราชการ รวมทั้งสิ้นกว่า 300 คน
#ประชาสัมพันธ์ สช.