​ครัว “ดอยคำ” ตอบรับนโยบายของรัฐบาลควบคู่ไปกับดูแลใส่ใจลูกค้า นั่งรับประทานที่ร้านไม่ได้...แต่สั่งไปรับประทานที่บ้านได้

อุปโภค บริโภค

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด–19 ระลอก 3 ในขณะนี้ นับว่าเป็นช่วงวิกฤตที่หนักหน่วงของประเทศไทย เพราะจำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นในแต่ละวัน ครัว“ดอยคำ” พร้อมสนับสนุนนโยบายรัฐบาลเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19ในครั้งนี้ โดยของดนั่งรับประทานอาหารที่ร้านแต่ลูกค้ายังสามารถสั่งอาหารอร่อยๆ จากครัว“ดอยคำ”สาขาราชเทวีไปรับประทานที่บ้านได้ ทั้ง 15 เมนูสูตรเด็ด ตั้งแต่เวลา 09.00 -16.00 น.ของทุกวัน เว้นวันอาทิตย์

1. ข้าวคลุกกะปิ85 บาท

2. ข้าวหมูอบน้ำจิ้มแจ่ว 85 บาท

3. ข้าวสตูว์หมูม้วน 115 บาท

4. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง 85 บาท

5. ข้าวกะเพราหมูสับ ไข่ดาว 85 บาท

6. ข้าวหมูผัดพริกแกง ไข่ดาว 85 บาท

7. ข้าวซอยไก่ 85 บาท

8. ข้าวซอยเนื้อน่องลาย115 บาท

9. หมี่กะทิโบราณ 130 บาท

10. บะหมี่หน้าไก่อย่างห้าแยกพลับพลาไชย กุนเชียง 120 บาท

11.ข้าวหน้าไก่อย่างห้าแยกพลับพลาไชย กุนเชียง ไข่ดาว 120 บาท

12. ข้าวไก่อบ ไข่ดาว 135 บาท

13. ข้าวน้ำพริกมะขามสด ปลาสลิดฟู 120 บาท

14. หมี่ฮุ่นแกงปู อย่างปักษ์ใต้ 150 บาท

15. ข้าวตังหน้าตั้ง 85 บาท

อยู่ที่ไหนก็อิ่มได้กับครัว“ดอยคำ” โทร.06-5940-2461หรือไลน์คลิก https://lin.ee/SN0UtHf (ไอดีไลน์ : @282ysdzh)

1.ข้าวคลุกกะปิ

ใช้กะปิชั้นดีจากภาคใต้ คั่วจนหอมกะปิ ก่อนนำข้าวมาผัดคลุกเคล้า แนมด้วยเครื่องเคียงคู่กับหมูหวาน กุ้งแห้งทอดที่มีรสชาติเค็มพอดี หอมแดงซอย พริกจินดา ถั่วฝักยาวซอย ไข่ฝอย มะม่วงน้ำดอกไม้ หรือทานคู่กับตะลิงปลิง เติมเต็มด้วยกากหมูที่เจียวจนกรอบ ตามสูตรดั้งเดิมแบบภาคกลาง

2.ข้าวหมูอบจิ้มแจ่ว

ใช้สันคอหมู ปรุงรสด้วยรากผักชี กระเทียม พริกไทย น้ำปลา และน้ำตาลมะพร้าว จากอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ก่อนนำมาย่างจนสุกมีความนุ่มหอม ทานคู่กับน้ำจิ้มแจ่วรสเด็ดเสริมให้รสชาติเข้มข้น

3.ข้าวสตูว์หมูม้วน

ไม่ได้มีดีแค่น้ำสตูว์ ที่ใช้แครอท หอมใหญ่ มันฝรั่ง ผัดกับเนยแล้วใส่น้ำมะเขือเทศดอยคำลงไปเคี่ยวจนเข้าที่เท่านั้น เพราะในส่วนของหมูม้วนใช้หมูสามชั้น ปรุงรสด้วยเกลือ พริกไทย และสมุนไพรฝรั่ง นำมาม้วนแล้วมัดให้แน่น ก่อนนำมาเคี่ยวในน้ำซุปต่อเนื่องอีก6 ชั่วโมงจนเป็นหมูม้วนราดน้ำสตูว์แสนอร่อยพร้อมเสิร์ฟ

4. ก๋วยเตี๋ยวหลอดทรงเครื่อง

เป็นอีกหนึ่งเมนูที่มาพร้อมกับเครื่องเคียงหลากหลายไม่ว่าจะเป็น กุ้งแห้งคั่ว ปลาหมึกแห้งคั่ว โรยหน้าด้วยน้ำราดซีอิ้ว เต้าหู้ ปลาหมึกกรอบ และหมูสับ ได้รสชาติที่กลมกล่อม ด้วยเอกลักษณ์ของเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดที่นุ่มนวลและกุ้งแห้งแบบฝอยตามแบบฉบับเส้นก๋วยเตี๋ยวหลอดโบราณ พอคลุกเส้นกับเครื่องเข้าด้วยกันแล้วจะรับรู้ถึงรสชาติก๋วยเตี๋ยวหลอดแท้ๆ ถือเป็นความอร่อยอย่างลงตัว

5. ข้าวกะเพราหมูสับ ไข่ดาว

ดูเหมือนเป็นอาหารธรรมดาแต่สำหรับดอยคำรสชาติไม่ธรรมดาแน่นอน โดยเฉพาะเนื้อหมูที่เน้นคุณภาพ เนื้อหมูแดง เนื้อแน่นเวลานำมาผัดกับกระเทียมพริกสด แล้วโรยด้วยใบกระเพราปิดท้าย ผัดจนได้ความหอมของใบกระเพราะ และหยดน้ำปลาเล็กน้อย จะได้ความหอมของใบกระเพรา พริก กระเทียม รวมถึงความนุ่มของหมูผัดกระเพรา ที่อร่อยน่ารับประทาน

6. ข้าวหมูผัดพริกแกง ไข่ดาว

นอกจากเลือกใช้เนื้อหมูสันในคุณภาพดีแล้ว ยังจัดจ้านด้วยพริกแกงที่จัดเต็มครบเครื่องเน้นพริกแกงที่โขกสดใหม่ เวลานำมาคั่วไฟก่อนใส่เนื้อหมูจึงทำให้ความหอมของเครื่องสมุนไพรในพริกแกงมีความโดดเน โดยเฉพาะการเลือกใช้พริกแห้งที่ให้รสชาติความเผ็ดอย่างพอดีและช่วยเพิ่มสีสันสวยงามพร้อมกลิ่นหอมด้วยใบมะกรูดสด

7. ข้าวซอยไก่

ต้นตำรับความอร่อยด้วยเครื่องแกงข้าวซอย และเส้นข้าวซอยที่ส่งตรงจากจังหวัดเชียงใหม่ ข้าวซอยไก่เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงหลากหลาย อาทิ มะนาวสด หอมแดงซอยพริกเผาปรุงพิเศษโดยใช้พริกจินดาแห้งป่นมาผัดกับน้ำมันและผักกาดดองหั่นเต๋าตามสูตรของดอยคำ โรยหน้าด้วยต้นหอม ผักชี หอมเจียว และหมี่กรอบ

8. ข้าวซอยเนื้อน่องลาย

เป็นอีกเมนูที่ชวนให้ลิ้มลอง ข้าวซอยเนื้อน่องลาย โดยนำเนื้อน่องลายมาเคี่ยวกับหางกะทิ ปรุงรสด้วยเกลือเล็กน้อย จนเนื้อเปื่อยเข้าที่ จะได้เนื้อน่องลายที่นุ่มกำลังดี ทานคู่กับเส้นบะหมี่ทั้งแบบนุ่มและกรอบพร้อมน้ำข้าวซอยที่เป็นสูตรต้นตำหรับจากทางภาคเหนือ เสิร์ฟพร้อมเครื่องเคียงข้าวซอยตามอย่างดอยคำ

9. หมี่กะทิโบราณ

หมี่กะทิ เมนูอาหารจานเดียวที่หารับประทานได้ยากแล้วในทุกวันนี้โดยเฉพาะสูตรดั้งเดิมแบบโบราณ ความพิเศษของหมี่กะทิ “ดอยคำ” น้ำเต้าหู้ยี้ที่คลุกกับเส้นหมี่ลวกนุ่มพอประมาณ ทำให้น้ำเต้าหู้ยี้ซึมผ่านเส้นได้อย่างลงตัว ทานคู่กับไข่ฝอย และราดด้วยน้ำหมี่กระทิที่นำเนื้อหมูเคี่ยวกับกระทิ และเต้าหู้เวลาเสิร์ฟจะแยกเส้นกับหน้า เมื่อรับประทานค่อยนำมาคลุกรวมกันเพื่อให้เส้นไม่เละจนเกินไป

10. บะหมี่หน้าไก่อย่างห้าแยกพลับพลาไชย กุนเชียง

อีกหนึ่งเมนูเด็ดจากห้าแยกพลับพลาไชย หาทานได้ที่ครัว “ดอยคำ” นอกจากเส้นบะหมี่ที่นุ่มอร่อยแล้วน้ำราดยังกลมกล่อม ด้วยเทคนิคการทำที่แป้งไม่จับตัวเป็นก้อน น้ำราดที่คัดสรรเนื้อไก่ หั่นเป็นก้อนเต๋า ผัดกับกุนเชียงแสนอร่อยจากไชน่าทาวน์เมืองไทย ปรุงรสด้วยซอสสูตรพิเศษ ใส่แป้งมันฮ่องกงเพื่อให้ความชุ่มกับเนื้อไก่ กุนเชียง ก่อนนำมาคลุกเคล้ากับบะหมี่ที่เตรียมไว้

11. ข้าวหน้าไก่อย่างห้าแยกพลับพลาไชย กุนเชียง ไข่ดาว

ตำนานความอร่อยจากห้าแยกพลับพลาไชย ที่สืบทอดมาถึงปัจจุบัน มีให้คุณได้ลิ้มรสที่ครัว “ดอยคำ”สำหรับคนชอบรับประทานข้าว ปรับจากบะหมี่ ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ เหมือนเดิมกับบะหมี่หน้าไก่ เพิ่มเติมด้วยไข่ดาวจากไข่เป็ดเพื่อเพิ่มความหอมมัน

12. ข้าวไก่อบ ไข่ดาว

โดดเด่นด้วยรสชาติของไก่อบที่นุ่มละมุนลิ้น จากการหมักไก่ด้วยซอสสูตรพิเศษของดอยคำ ก่อนนำไก่ไปตุ๋น ซึ่งนำส่วนผสมทั้งหมดมาต้มรวมกันโดยใช้ระยะเวลา 2-3 ชั่วโมงในการตุ๋นจนซอสเข้าเนื้อไก่

13.ข้าวน้ำพริกมะขามสด ปลาสลิดฟู

เป็นหนึ่งในเมนูน้ำพริกอาหารประจำบ้าน สู่อาหารจานเดียวที่ได้รับการปรุงรสอย่างพิถีพิถัน ข้าวสวยร้อนๆ ทานกับปลาสลิดแร่แต่เนื้อทอดให้เหลืองกรอบ แก้มด้วยน้ำพริกมะขามสด ที่ตั้งใจโขกแบบหยาบ เพื่อให้ได้รสชาติของเนื้อมะขามอมเปรี้ยว และกลมกล่อมด้วยกะปิจากภาคใต้ พร้อมแนมด้วยเครื่องเคียงที่ช่วยเพิ่มรสชาติความอร่อยเช่น ขมิ้น แตงกวา และถั่วฝักยาว ที่แกะสลักอย่างสวยงาม

14. หมี่ฮุ่นแกงปู อย่างปักษ์ใต้

ไฮไลท์อยู่ที่พริกแกงต้นตำหรับจากภาคใต้ ที่มีส่วนผสมกว่า 10 ชนิดจนได้พริกแกงขมิ้นแล้วนำมาโขลกให้เข้ากับเนื้อปลาทะเล น้ำแกงปูอย่างใต้นี้รับประทานคู่เส้นหมี่ขาว หรือชาวจีนปักษ์ใต้เรียก “หมี่ฮุ่น” แนมกับผักเครื่องเคียงได้แก่ ผักกาดดองหั่นเต๋า แตงกวา ขมิ้นขาว ถั่วฝักยาว พร้อมเนื้อกรรเชียงปู และใบโหระพาที่เพิ่มความหอมเวลาทานคู่กับแกงปูได้อย่างลงตัว

15. ข้าวตังหน้าตั้ง

อาหารทานเล่นของไทยที่ตกทอดกันมาแต่โบราณ ความอร่อยไม่ได้อยู่ที่เครื่องหน้าตั้งเท่านั้นตัวข้าวตังก็สำคัญ ซึ่งแต่เดิมได้จากข้าวที่ติดก้นหม้อหรือก้นกระทะ แต่ในปัจจุบันใช้วิธีทอดแผ่นข้าวตัง ซึ่งที่ครัว “ดอยคำ” ใช้เทคนิคการทอดที่ได้ข้าวตังที่หอมกรอบเหลืองทั้งสองด้าน

เกี่ยวกับดอยคำ

จากพระราชวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรที่ทรงต้องการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของราษฎรชาวไทยภูเขาให้ดีขึ้น ทรงส่งเสริมการปลูกพืชผลไม้เมืองหนาวแทนการปลูกฝิ่นพร้อมทรงมีพระราชดําริให้จัดตั้ง สหกรณ์ชาวเขา และโรงงานหลวงอาหารสําเร็จรูปขึ้น เพื่อรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรอย่างเป็นธรรม และแปรรูปผลผลิตภายใต้ตราสินค้า “ดอยคํา” รวมถึงจัดให้มีการค้นคว้า วิจัย และพัฒนา โดยจัดตั้งเป็น นิติบุคคลภายใต้ชื่อ “บริษัท ดอยคําผลิตภัณฑ์อาหาร จํากัด” ดําเนินกิจการในรูปแบบ “ธุรกิจเพื่อสังคม” ในปีพ.ศ. 2537

ดอยคำตระหนักอยู่เสมอว่าผลกำไรที่แท้จริงคือ การได้เห็นคนไทยทุกระดับกินดี อยู่ดี และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพราะนั้นย่อมหมายถึงความสุขที่ยั่งยืนของคนไทยทุกคน...ดังสโลแกนที่ว่า “เกษตรเพื่อชุมชน ผลิตผลเพื่อคนไทย”

  • ผู้โพสต์ :
    comman
  • อัพเดทเมื่อ :
    25 เม.ย. 2021 21:54:22

ลงข่าวประชาสัมพันธ์ ฟรี คลิกที่นี่

 

X

เว็บไซต์เรามีการใช้คุกกี้ คลิกเพื่อดู นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา