กรุงเทพฯ/ 8 สิงหาคม 2562 – หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมกันเผยแพร่รายงานสมุดปกขาวเรื่อง อุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ของประเทศไทย ในงาน Thailand IoT Industry Summit ซึ่งจัดขึ้นโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) เควกเทล และหัวเว่ย รายงานฯ ระบุกรอบการทำงานสำหรับเทคโนโลยี อีโคซิสเต็ม และการใช้งาน IoT ของประเทศไทย เพื่อช่วยแนะนำแนวทางการพัฒนาธุรกิจแก่สตาร์ทอัพด้าน IoT และกระตุ้นเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย
งาน Thailand IoT Industry Summit ดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้ธีม “IoT ขับเคลื่อนประเทศไทย 4.0 ดันไทยก้าวไกลสู่เศรษฐกิจดิจิทัล”(IoT, the Engine of Thailand 4.0 to Drives Digital Economy) โดยมีหน่วยงานภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ ผู้ให้บริการเครือข่ายชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมและพันธมิตรจากภาคส่วนต่างๆ เข้าร่วมงานกว่า 300 คน เพื่อแบ่งปันข้อมูลองค์ความรู้ด้านนวัตกรรม IoT ที่ล้ำหน้า ตลอดจนขยายขอบเขตความร่วมมือเพื่อช่วยกันขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 และเศรษฐกิจดิจิทัลให้รุดหน้า
“IoT เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญที่จะมาช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์ประเทศไทย 4.0 อีกทั้งยังช่วยเร่งให้การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลของประเทศไทยเกิดได้รวดเร็วยิ่งขึ้น ทั้งด้านสมาร์ทซิตี้ สมาร์ทอินดัสทรี่ และสมาร์ทไลฟ์ เราเชื่อว่า IoT จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลของเรา ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของเราอีกด้วย” นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าว
สำหรับประเทศไทยนั้น เทคโนโลยี IoT ได้กลายเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนแปลงประเทศไปสู่ยุคดิจิทัล สร้างมูลค่าทางสังคมและเศรษฐกิจในระดับสูง ซึ่งผู้ให้บริการ อาทิเช่น เอไอเอสและทรู คอร์ปอเรชั่น ก็ได้วางโครงข่าย NB-IoT ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยมีตัวอย่างการใช้งาน อาทิ อุปกรณ์ติดตามรถ อุปกรณ์ดูแลเด็ก และการจอดรถอัจฉริยะซึ่งเทคโนโลยีเหล่านี้มีการใช้งานในเชิงพาณิชย์แล้ว นวัตกรรมต่างๆ อาทิ สมาร์ทมิเตอร์และอุปกรณ์ติดตามวัว (Connected Cow) ก็ได้เข้ามาทดลองใช้งานในประเทศไทยแล้วเช่นกัน
ในงานดังกล่าว หัวเว่ย ประเทศไทย ได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม IoT “OceanConnect” อย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นโอเพ่นอีโคซิสเต็มที่พัฒนาขึ้นบน IoT และคลาวด์สาธารณะที่จะช่วยให้บริษัทพันธมิตรผู้พัฒนาระบบ หรือ System Integrator (SI) ในประเทศสามารถพัฒนา IoT และนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดได้อย่างรวดเร็ว
“ปัจจุบัน นวัตกรรมและเทคโนโลยีด้านดิจิทัลทำให้โลกและชีวิตของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วจนเราตั้งตัวไม่ทัน หัวเว่ยก็มีส่วนช่วยผลักดันอีโคซิสเต็มและการพัฒนา IoT ในประเทศไทยผ่านการสนับสนุนพันธมิตร SI ในประเทศ ผสานความร่วมมือกับพันธมิตรด้าน IoT ทั้งในและต่างประเทศ และนำกรณีการใช้งานจากต่างประเทศมาใช้ในประเทศไทยให้มากขึ้น” มร. เอเบล เติ้ง รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) กล่าว
จากข้อมูลของ GSMA Intelligence เผยว่า ทั่วโลกมีการเปิดใช้งานเครือข่าย Mobile IoT เชิงพาณิชย์ไปแล้วทั้งสิ้น 114 เครือข่ายนับจนถึงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาและคาดว่าการเชื่อมต่อ IoT ทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นเป็น 2.5 หมื่นล้านในปี 2568 โดย GSMA Intelligence คาดการณ์ว่าภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคจะเป็นภูมิภาคที่มีรายได้สูงสุดราว 3.68 แสนล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่รายได้จาก IoT ทั่วโลกจะเติบโตสูงกว่าราวสี่เท่า คิดเป็นมูลค่าราว 1.1 ล้านล้านเหรียญสหรัฐในปี 2568 อันเป็นผลมาจากการผลักดันส่งเสริมของรัฐบาลและการเชื่อมต่อ IoT ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่งในภาคอุตสาหกรรม
“เราหวังที่จะเห็นการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม IoT ในประเทศไทยผ่านการทำงานร่วมมือกันที่มากขึ้น เพื่อผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลและประเทศไทย 4.0 ให้รุดไปข้างหน้า” มร. เอเบล เติ้ง กล่าว