- แผนการลงทุนสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สำหรับ 'ดีแล็บส์'
- โครงการใหม่ที่จะนำเสนอบริการของทั้งเครือ รวมถึงบ้านเสมือนจริง, ทรัพย์สินดิจิทัล, อุปกรณ์สวมใส่ดิจิทัล และเครื่องประดับดิจิทัล
- บริษัทในเครือทั้งหมดและลูกค้าของดาแมค พรอพเพอร์ตี จะได้รับสิทธิพิเศษก่อนใคร
- ส่วนหนึ่งของปณิธานและเป้าหมายการเข้าสู่โลกดิจิทัลทั่วทั้งองค์กรของกรุ๊ปในการเป็นแบรนด์ดิจิทัลระดับโลก
ดาแมค กรุ๊ป (DAMAC Group) กลุ่มธุรกิจชั้นนำในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของดาแมค พรอพเพอร์ตี (DAMAC Properties) บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับโลก, เอ็ดจ์เน็กซ์ (Edgnex) บริษัทศูนย์ข้อมูล, เดอ กริสโซโกโน (de Grisogono) บริษัทอัญมณีหรู และโรแบร์โต คาวาลี (Roberto Cavalli) กลุ่มบริษัทแฟชั่น ประกาศแผนเข้าสู่โลกเมตาเวิร์สและสร้างเมืองดิจิทัลของตัวเอง นับเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกด้านนี้ในกลุ่มประเทศสมาชิกคณะมนตรีความร่วมมือระหว่างรัฐอ่าวอาหรับ (GCC)
ฮุสเซน สัจวานี (Hussain Sajwani) ผู้ก่อตั้งดาแมคกล่าวว่า "ในความพยายามที่จะหลอมรวมเข้ากับแนวโน้มความก้าวหน้าทางธุรกิจนั้น เรากำลังขยายสินค้าและบริการของเราลงในโลกเมตาเวิร์ส เพื่อใช้ประโยชน์จากโอกาสที่มีอยู่มากมาย เราสนใจที่จะสำรวจความเป็นไปได้ในเมตาเวิร์สในลักษณะที่ช่วยให้เราเชื่อมต่อและมีส่วนร่วมกับลูกค้าและความสนใจของลูกค้ามากขึ้น"
ดาแมค กรุ๊ปจะดำเนินการภายใต้ชื่อ 'ดีแล็บส์' (D-Labs) นำโดยอาลี สัจวานี (Ali Sajwani) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของดีแล็บส์และผู้จัดการทั่วไปของดาแมค โดยโครงการนี้เป็นส่วนหนึ่งในปณิธานของทั้งบริษัทที่จะขยับเข้าสู่วงการสินทรัพย์ดิจิทัลและ NFT (Non-Fungible Token) และอาลีมีพันธกิจที่จะต้องบรรลุเป้าหมายขององค์กรในการเป็นแบรนด์ดิจิทัลชั้นนำระดับโลก
ทั้งนี้ ดาแมค กรุ๊ปวางแผนที่จะลงทุนสูงถึง 100 ล้านดอลลาร์สำหรับโครงการนี้
อาลี สัจวานี อธิบายว่า "ตลอด 2 ปีที่ผ่านมา เราพยายามกระโดดเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างจริงจัง และโครงการใหม่นี้ในเมตาเวิร์สจะช่วยให้เรามีดิจิทัลฟุตพรินต์มากยิ่งขึ้น นอกจากการอัปเดตระบบ กระบวนการ และการดำเนินงานในแผนกต่าง ๆ แล้ว เรายังลงทุนเพื่อสร้างทีมผู้เชี่ยวชาญมากฝีมือและพรสวรรค์เพื่อช่วยสนับสนุนปณิธานในการเป็นผู้นำด้านดิจิทัล เราวางแผนที่จะดำเนินการเช่นนี้ต่อไป รวมทั้งขยายทีมและความรู้ความชำนาญของเรา"
ตั้งแต่ปีที่แล้ว ดาแมค พรอพเพอร์ตี ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของดาแมค กรุ๊ป ให้ผู้ซื้อบ้านได้สัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงแบบ 3 มิติ โดยใช้เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน (VR) และความเป็นจริงเสริม (AR) นับเป็นหนทางสู่โลกเมตาเวิร์ส ซึ่งถือเป็นจักรวาลดิจิทัลที่ประกอบด้วย VR, AR และความเป็นจริงแบบขยาย (XR) ที่หมายถึง 'สภาพแวดล้อมที่รวมทั้งโลกจริงและโลกเสมือน ตลอดจนปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับเครื่องจักรที่เกิดจากเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สวมใส่' ที่ผู้ใช้รู้สึกได้ถึง 'การสัมผัส' ประสบการณ์
ในความเคลื่อนไหวครั้งนี้ ดาแมค กรุ๊ปหวังที่จะตั้งบริการขึ้นมาเพื่อตอบสนองความต้องการของทั้งกรุ๊ปในแง่ของสินทรัพย์ดิจิทัลโดยเฉพาะ ตั้งแต่บ้านเสมือนจริง, ทรัพย์สินดิจิทัล ตลอดจนอุปกรณ์สวมใส่ดิจิทัล และเครื่องประดับดิจิทัลผ่านการเข้าซื้อกิจการเดอ กริสโซโกโน บริษัทอัญมณีสัญชาติสวิตเซอร์แลนด์ และโรแบร์โต คาวาลี แบรนด์แฟชั่นอิตาลี
นอกจากนี้ ประสบการณ์ดิจิทัลยังเป็นส่วนหนึ่งของบริการที่แขกสามารถสัมผัสประสบการณ์เสมือนจริงในแมนดาริน โอเรียนทอล รีสอร์ท โบลิดัฟฟารู (Mandarin Oriental Resort Bolidhuffaru) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มโรงแรม, รีสอร์ท และเซอร์วิสอพาร์ทเมนท์ของดาแมค กรุ๊ป
ดาแมคยังคงอุทิศตนต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย โดยจะให้ลูกค้าปัจจุบันมีสิทธิพิเศษในการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเหล่านี้ก่อนใคร เมื่อเปิดตัวแผนแล้ว
เมตาเวิร์สในธุรกิจ
เป็นที่ทราบกันดีว่า เมตาเวิร์สเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจและพนักงานผ่านการทำงานร่วมกันในสภาพแวดล้อม 3 มิติที่น่าตื่นเต้นและมีเครือข่ายสูงซึ่งมุ่งเน้นไปที่การเชื่อมสัมพันธ์ทางสังคม ประโยชน์ที่โดดเด่นบางประการในการปรับตัวเข้ากับเมตาเวิร์ส ได้แก่ เพิ่มการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้า เชื่อมต่อและทำงานร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้ดีขึ้น และมีรายได้เพิ่มขึ้นในที่สุด
บริษัทมาร์เก็ต รีเสิร์ช ฟิวเจอร์ (MRF) ให้ข้อสังเกตว่าตลาดเมตาเวิร์สมีมูลค่า 2.191 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2563 ซึ่งคาดว่าจะเติบโต 41.7% ภายในปี 2573 โดยรายงานอธิบายว่า การบรรจบกันของโลกจริงกับโลกดิจิทัล ควบคู่ไปกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในโลกเมตาเวิร์สสำหรับการซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลโดยใช้คริปโทเคอร์เรนซี จะเป็นโอกาสที่แข็งแกร่งสำหรับตลาดเมตาเวิร์สภายในปี 2573
นอกจากนี้ ยังมีความต้องการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากในเมตาเวิร์ส ซึ่งคาดว่าจะเป็นหนึ่งในกระแสดึงดูดยอดนิยมสำหรับนักลงทุนในโลกเสมือน