Chester’s (เชสเตอร์) ขยับตัวครั้งใหญ่ กับแคมเปญฉลองครบรอบ 34 ปีที่แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของแบรนด์ ในการขยับเข้าสู่กลุ่มเป้าหมายคนรุ่นใหม่
แรกเริ่ม แบรนด์ปล่อยทีเซอร์เรียกความสนใจ ด้วยวิธีหยิบประเด็นที่เป็นเทรนด์ในหมู่คนรุ่นใหม่ทั่วโลก อย่าง Diversity มาเป็น Topic ชวนคุย แต่พูดอย่างได้ใจสายกิน.. “Celebrate Diversity of Tongues - ฉลองแด่ความหลากหลายทางลิ้น” ผ่าน social post ในเฟซบุ๊คของแบรนด์ ตีความคาแรคเตอร์ของลิ้นประเภทต่างๆ เป็นภาพ illustration ได้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู ไม่ว่าจะเป็น..ลิ้นผู้หญิง แต่ไม่อินของหวาน, ลิ้นหลากสี ที่เชื่อเรื่องเสรีภาพความอร่อย, ลิ้นคุณหนู อร่อยกับวัตถุดิบชั้นดี เพราะที่ในกระเพาะลิมิเต็ดจริงๆ, ลิ้นนักรีวิว เรื่องกินเรื่องใหญ่ แต่เรื่องรีวิวใหญ่กว่า ฯลฯ โดยเนื้อหากล่าวถึงการฉลองแด่ความหลากหลายทางลิ้น ก็เพราะลิ้นของแต่ละคนอร่อยกับรสชาติในมุมที่แตกต่างกัน จึงทำให้โลกนี้เกิดเมนูแปลกใหม่มากมาย ซึ่งเชสเตอร์เองเตรียมออกเมนูใหม่สุดปัง แบบ Exclusive ไม่เคยมีมาก่อน
เบื้องหลังความสำเร็จของเมนู
ไอติมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่
ต่อมาแบรนด์ยังรักษาโมเมนตัมต่อเนื่อง โดยปล่อยคำใบ้รายวันให้แฟนเพจเข้ามาทาย ว่าเมนูใหม่ ที่ว่านี้คืออะไร? สร้างความตื่นเต้น ให้ชาวเน็ตร่วมสนุกและเฝ้ารอ จนกระทั่งเชสเตอร์เฉลยว่าเมนูสุด Exclusive นั้นคือ ‘เมนูไอติมรสซอสน้ำปลาฮอตชิลลี่’ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากเมนูsignature ยอดฮิตข้าวไก่กรอบซอสน้ำปลา และ ไก่ย่างสูตรเผ็ดเชสเตอร์ ของทางแบรนด์ มาแปลงโฉมเป็นไอติมนั่นเอง โดยได้แบรนด์ดัง ที่มีความเชี่ยวชาญด้านไอติมอย่าง iberry มาร่วมคิดค้นพัฒนาสูตร จนเกิดเมนูไอติมรสชาติพิเศษ เป็นการผสมผสานความอร่อยของเมนูคาวหวาน ได้อย่างลงตัว
ความกล้าหาญของแบรนด์ยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะด้วยรสชาติที่ขึ้นชื่อว่า “ซอสน้ำปลา” ต้องยอมรับว่ามีทั้งแฟนคลับ คนที่ชอบเมนูของคาว และคนที่ไม่อินเลย แต่ชอบของหวานอย่างไอติม ทำให้เสียงแตกเป็น 2 ขั้วโดยธรรมชาติอยู่แล้ว แบรนด์จึงปิ๊งไอเดียโปรโมทสุดกล้า โดยเปิดกว้างฟังเสียงโซเชียล ชวนคนกินมาตัดสินเองว่าลิ้มลองแล้วคุณ ‘จึ้ง’ หรือ ‘อึ้ง’ กันแน่? มีการปล่อยหนังที่เห็นบรรดาคนที่แบรนด์ชวนไปลิ้มรสไอติมครั้งแรก แต่ละคนที่ได้ชิมมี reaction ต่างๆ กัน ซึ่งสามารถช่วยเรียกกระแสให้คนไปชิมไอติมรสชาติ Exclusive นี้ตั้งแต่วันแรกที่วางขายที่ร้านเชสเตอร์ทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี และยังสร้าง engagement ให้ consumers เข้าไปออกความเห็นในเฟซบุ๊คเพจเชสเตอร์อย่างคึกคักเป็นประวัติการณ์ ซึ่งมีทั้งคุนที่ชิม แล้วจึ้ง และ อึ้ง เพราะแต่ละคนอร่อยกับรสชาติในมุมที่แตกต่างกัน ถือว่าแคมเปญนี้ตอบโจทย์ไอเดียของแบนรด์และผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ได้ด้อย่างชัดเจน
ครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ซึ่งเชื่อว่า…นี่คือจุดเริ่มต้นเท่านั้น ก้าวต่อไปของเชสเตอร์ จะงัดกระบวนท่าอะไร กลยุทธ์การตลาดแบบไหน ออกมาเซอร์ไพรส์ให้ได้ตื่นเต้นกันอีก ต้องเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด
#Chesters #34ปีเชสเตอร์ #ไอติมซอสน้ำปลาสุดเชส #จึ้งteam #อึ้งteam