เมื่อผู้คนนึกถึงมณฑลซานซีของจีน ก็ต้องนึกถึง "น้ำส้มสายชูดำ" (Mature Vinegar) สูตรต้นตำรับ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะที่มีมายาวนานกว่า 3,000 ปี น้ำส้มสายชูชนิดนี้มีรสชาติเปรี้ยว หอม หวาน กลมกล่อม และสดชื่น โดยผ่านกรรมวิธีหลัก 5 อย่างตามด้วยวิธีผลิตอีก 82 ขั้นตอน ทั้งนึ่ง หมัก รมควัน แช่ และบ่ม ขั้นตอนเหล่านี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 1 ปี ไปจนถึงมากกว่า 10 ปีจึงจะเสร็จสมบูรณ์
คำกล่าวจีนโบราณที่ว่า "มีน้ำส้มสายชูในบ้าน ไม่ดิ้นพล่านไปหาหมอ" สะท้อนให้เห็นว่าชาวซานซีต่างยอมรับสรรพคุณด้านสุขภาพของน้ำส้มสายชู โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ซานซีได้แนะนำผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพที่ทำจากน้ำส้มสายชู และผลิตภัณฑ์คล้ายคลึงกับยาและอาหาร ซึ่งช่วยเพิ่มคุณประโยชน์ต่อสุขภาพของน้ำส้มสายชูดำซานซีให้มากยิ่งขึ้น
มณฑลซานซีได้ศึกษาวัฒนธรรมการใช้น้ำส้มสายชูอย่างลึกซึ้ง ในขณะที่สามารถรักษารสชาติดั้งเดิมของน้ำส้มสายชูดำเอาไว้ได้ ซึ่งนำไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่กำลังได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็น "ไอศกรีมน้ำส้มสายชูดำ" ที่ผสมน้ำส้มสายชูและครีมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างรสชาติที่น่ารับประทาน และ "มื้ออาหารน้ำส้มสายชูดำ" ซึ่งนำเสนอเมนูอย่างปลารมควันคู่กับน้ำส้มสายชูดำ และวอลนัตแช่น้ำส้มสายชู โดยอาหารเหล่านี้ไม่เพียงแต่คงรสชาติดั้งเดิมไว้เท่านั้น แต่ยังเน้นย้ำถึงคุณสมบัติในการส่งเสริมสุขภาพของน้ำส้มสายชูอีกด้วย
เพื่อนำเสนอเทคนิคการผลิตแบบดั้งเดิมและมรดกทางวัฒนธรรมของน้ำส้มสายชูดำซานซีอย่างเต็มที่ ทางมณฑลซานซีจึงได้จัดตั้งพิพิธภัณฑ์น้ำส้มสายชู สวนน้ำส้มสายชู และเปิดเวิร์กช็อปน้ำส้มสายชูในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น เมืองโบราณผิงเหยา (Pingyao) และเมืองไท่หยวน (Taiyuan) โครงการเหล่านี้เปิดโอกาสให้ผู้เยี่ยมชมทั้งในและต่างประเทศได้ทำความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมน้ำส้มสายชูของซานซี พร้อมสัมผัสฝีมือเบื้องหลังมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้เช่นนี้
ที่มา: ศูนย์ข่าวและสารสนเทศของสำนักข่าวซินหัว สาขาซานซี