ดร.รัชนีพร พุคยาภรณ์ พุกกะมาน อธิการบดีมหาวิทยาลัยศรีปทุม ส่งมอบตู้ความดันบวก MOBILE SWAB TESTING UNIT (Positive Pressure) จำนวน 10 ยูนิต ให้กับกรมควบคุมโรค โดยมีนายแพทย์ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เป็นผู้รับมอบ ณ ลานอเนกประสงค์ หน้าอาคาร 11 มหาวิทยาลัยศรีปทุม กทม.(บางเขน)
นายแพทย์ ขจรศักดิ์ แก้วจรัส รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ได้เปิดเผยว่า ตู้ความดันบวก หรือMOBILE SWAB TESTING UNIT (Positive Pressure) ที่ทางมหาวิทยาลัยศรีปทุมมอบให้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับในสถานการณ์เช่นนี้ สำหรับการรองรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีแววจะกลับมาระบาดรอบสอง ถือว่าเป็นนวัตกรรมใหม่ที่จะมาช่วยในช่วงที่วิกฤตเช่นนี้ เบื้องต้นทางกรมควบคุมโรคจะเอาตู้ความดันบวกไปไว้ตามด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ เพื่อใช้ในการตรวจคัดกรองสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อโควิด - 19 เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของบุคลากรทางการแพทย์
ทางด้าน ผศ.ดร.ชลทิศ เอี่ยมวรวุฒิกุล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ได้กล่าวว่า
ในช่วงที่มีการแพร่ระบาดใหม่ๆ ได้มีโอกาสไปร่วมทำงานกับคณะทำงานของ อว. ก็ได้ทราบว่าโรงพยาบาลตามต่างจังหวัดยังขาดการสนับสนุนในการตราวจคัดกรองเชื้อ และได้มีโอกาสได้ไปพูดคุยกับทางคุณหมอวรรณพร คุณหมอที่โรงพยาบาล เจ้าพระยาอภัยภูเบศร จังหวัดปราจีนบุรี ก็พบว่ายังต้องการอุปกรณ์ป้องกันเชื้อให้กับบุคลากรทางการแพทย์ ที่สามารถใช้งานได้สะดวกและเคลื่อนย้ายได้ไปตามจุดต่างๆได้ จนได้เกิดเป็นนวัตกรรมตู้ความดันบวก หรือMOBILE SWAB TESTING UNIT (Positive Pressure) ขึ้นมาเพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และยังเป็นการลดการใช้ชุดป้องกันเฉพาะบุคคลหรือที่เรียกว่า PPE ซึ่งขาดแคลนและมีค่าใช้ที่สูง
ทั้งนี้ทางคณะวิศวกรรมศาสตร์ยังมีโครงการอีกมายมากที่จะออกมาช่วยเหลือสังคม เช่น การปรับปรุงห้องผ่าตัดจากที่เป็นความดันบวก ให้กลายมาเป็นความดันลบที่จะสามารถรองรับผู้ป่วยฉุกเฉินในสถานการณ์การระบาดของ Covid-19 ในประเทศไทย
สำหรับนวัตกรรมตู้ความดันบวก หรือMOBILE SWAB TESTING UNIT (Positive Pressure) ที่คิดค้น ออกแบบ และผลิตโดย คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่คัดกรองประชาชนที่เดินทางผ่านพรมแดนระหว่างประเทศ
โดยตู้ความดันบวก (Positive Pressure) ที่ส่งมอบนี้จะถูกส่งไปให้บุคลากรทางการแพทย์ประจำด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ จำนวน 10 จุด ทั่วประเทศ ได้แก่
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนสะเดา
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนเชียงของ
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนสะพานมิตรภาพ 2 มุกดาหาร
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนช่องเม็ก
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนแม่สาย
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนวังประจัน
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือเชียงแสน
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าเรือตำมะลัง
ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานเชียงใหม่
ที่ทำการแพทย์ตรวจคนเข้าเมือง สวนพูล