เป็นที่ทราบกันดีว่าทุกวันนี้แทบไม่มีใครเลยที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19ซึ่งทำให้สถานการณ์ต่าง ๆ ในสังคมและครอบครัวต้องพลิกผันจากหน้ามือเป็นหลังมือ และทุก ๆ คนไม่ว่าจะเป็นเด็ก เยาวชน หรือผู้ใหญ่ ต่างก็ได้รับผลกระทบทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ ยูนิเซฟจึงได้รวมพลังชาวอาสาสมัคร ส่งพลังอาสาช่วยเด็ก ๆ รับมือผลกระทบโควิด-19 และชาวอาสาสมัครได้แสดงให้พวกเราได้เห็นถึงความสำคัญของพลังของคนธรรมดาทั่วไปที่มารวมตัวช่วยเหลือกันในช่วงเวลาแห่งวิกฤต ประเทศไทยก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น จากผลสำรวจเร็ว ๆ นี้ที่จัดทำโดยยูนิเซฟ ร่วมกับสภาเด็กและเยาวชนแห่งประเทศไทย และหน่วยงานต่าง ๆ ขององค์กรสหประชาชาติ พบว่า เด็กและเยาวชนกว่า 7 ใน 10 คน ในไทย ได้รับผลกระทบเชิงลบด้านสุขภาพจิต มีความเครียดและความกังวล
I Am UNICEF ซึ่งเป็นโครงการอาสาสมัครของยูนิเซฟ เล็งเห็นถึงประเด็นปัญหานี้ และได้ระดมกำลังอย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะช่วยเร่งมือการตอบสนองกับปัญหาที่มากับโควิด-19 และเนื่องจากการมีข้อมูลที่ถูกต้องเป็นปัจจัยที่ช่วยให้ชีวิตปลอดภัยได้ในช่วงโรคระบาด เราจึงพัฒนาแนวทาง 3 ขั้นตอน คือ ติดตาม-พัฒนา-ระดมกำลัง ปลุกพลังอาสา เพื่อจะทำงานร่วมกับเหล่าอาสาสมัคร ในการจัดทำสื่อสร้างสรรค์ข้อมูลที่มีประสิทธิภาพที่เด็กๆสามารถเข้าใจได้ง่ายอาสาฯ เหล่านี้ยังช่วยเผยแพร่ข้อมูลที่ถูกต้องให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง เพื่อที่จะช่วยแก้ไขความเข้าใจผิด และรณรงค์การไม่ตีตราในสถานการณ์ที่ไวรัสแพร่ระบาด ทั้งยังช่วยให้ข้อมูลว่าพ่อแม่จะช่วยปกป้องลูก ๆ จากโรคระบาดนี้อย่างไรได้บ้าง
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เกรียงไกร กงกะนันทน์ อาจารย์คณะดิจิทัลมีเดีย มหาวิทยาลัยศรีปทุม เปิดเผยว่า จากการที่ได้มีการพูดคุยกับทีมงาน Unicef Thailand เนื่องจากหากเราสามารถ่ายทอดผลงานผ่านกิจกรรมอาสาที่ใช้ความถนัดและความสามารถของตัวเอง ก็จะเป็นการสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอย่างแท้จริงได้ และนอกจากนี้ยังได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการสร้างสรรค์ผลงานและผลิตสื่อต่างๆ ของนักศึกษาคณะดิจิทัลมีเดีย SPU ซึ่งในบางครั้ง ผลงานของนักศึกษาเป็นที่รู้จักกันแค่ในคณะหรือวงจำกัด ในขณะที่ผลงานหลายๆ ชิ้นสามารถนำไปทำประโยชน์และประยุกต์ใช้ได้ในการสื่อสารทั่วไปในชีวิตประจำวัน
ผศ.เกรียงไกร เผยต่อว่า ดังนั้นจึงได้นำทีมตัวแทนนักศึกษาดิจิทัลมีเดียที่มีจิตอาสากว่า 20 คน เข้าร่วมเป็นศิลปินอาสา ด้วยความร่วมมือจากทางทีมงานอาสาสมัคร I AM UNICEF ที่ทำงานอย่างใกล้ชิดและให้การสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนสังคมเชิงบวกของกลุ่มเยาวชนรุ่นใหม่หลายๆ กลุ่ม ซึ่งเห็นตรงกันว่า เป็นโอกาสที่ดีที่ Unicef Thailand จะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางส่งผ่านพลังบวกของน้องๆ จึงได้ร่วมพูดคุยกับนักศึกษาศิลปินอาสา
โดยทีมงานอาสาสมัคร I AM UNICEF องค์การ ยูนิเซฟ ประเทศไทย ได้เปิดให้ศิลปินอาสาสมัครเข้าร่วมโครงการส่งภาพวาดที่สื่อสารถึงการป้องกันตัวจากเชื้อไวรัส COVID-19 เพื่อนำมารวมเล่ม และจัดทำเป็นสมุดระบายสีสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กไทยทั่วประเทศ ซึ่งรอบแรกได้แจกจ่ายในทุกพื้นที่ทั่วไทย จำนวนถึง 30,000 เล่ม และในเดือนกุมภาพันธ์ที่โรงเรียนจะเปิดทำการเรียนการสอนอีกครั้งทีมงานวางแผนที่จะกระจายโอกาสการแจกจ่ายสมุดกิจกรรมผ่านช่องทางเว็ปไซต์ https://iam.unicef.or.th/ เพื่อเปิดโอกาสในการทำกิจกรรมนี้ให้กับทุกๆ คนที่ต้องการรับสมุดกิจกรรมไปสร้างการเรียนรู้ให้กับเด็กๆ ในชุมชนและพื้นที่ของตนเอง
หนึ่งใน ทีมงานอาสาสมัคร I AM UNICEF ได้เล่าถึงความรู้สึกที่ได้ร่วมงานกับนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีปทุมว่า ประทับใจในความสามารถของนักศึกษาทุกคนมากๆ ทั้งความกระตือรือร้นและความตั้งใจในการผลิตผลงาน และดีใจที่ Unicef ได้เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันผลงานของน้องๆ นักศึกษา เพื่อส่งต่อไปให้เด็กๆ ทั่วประเทศไทยได้เรียนรู้ในการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องและลดการระบาดของโรค COVID-19 และหวังว่าน้องๆ ศิลปินอาสาจะได้ประสบการณ์ที่ดี
นอกจากนี้ ทางทีมงานอาสาสมัคร I AM UNICEF ยังคงวางแผนงานสำหรับโครงการต่อไปร่วมกับน้องๆ ศิลปินอาสา เพราะยังมีเด็กๆ ทั่วประเทศที่รอโอกาสในการเรียนรู้หลากหลายในด้านต่างๆ ทีมงานจึงหวังว่า ความร่วมมือนี้จะนำไปสู้โครงการอื่นๆ อีกมากมายในอนาคต และหากน้องๆ นักศึกษาคนไหนสนใจ หรือมีไอเดียใหม่ๆ ที่จะสามารถช่วยให้ชีวิตของเด็กทุกคนดีขึ้น สามารถติดต่อทีมงาน I AM UNICEF ได้ที่ Line : @iamunicef
#Dek64 #SPU #ศรีปทุม #TCAS64 #GATPAT #Onet #บัณฑิตพันธุ์ใหม่ #เรียนกับตัวจริงประสบการณ์จริง #คณะดิจิทัลมีเดียSPU #UNICEF #จิตอาสา