“มิวเซียมสยาม” พาท่องราตรีชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน สัมผัสความโก้เก๋แห่งยุคซิกซ์ตี้ ในกิจกรรม “Night at the Museum 8 ตอน ไนต์คลับ”

ท่องเที่ยว

สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) จัดกิจกรรม Night at the Museum เทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน ครั้งที่ 8 ตอน “Night Club” City in the Sixties : สีสันตะวันตกยุคหกศูนย์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชน ได้สัมผัสประสบการณ์การเที่ยวพิพิธภัณฑ์รูปแบบใหม่ ที่ได้ความรู้คู่ความสนุกมากยิ่งขึ้น อันเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้เกิดค่านิยม Museum Culture ขึ้นในสังคมไทย นำไปสู่การสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน และยังเป็นการเฉลิมฉลองและรำลึกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างไทย – อเมริกาที่มีมายาวนานถึง 185 ปี โดยภายในงานได้จำลองบรรยากาศย้อนวันวานไปสู่ในบางกอกยุค 60’s เรียนรู้ถึงที่มาของประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมผ่านกิจกรรมมากมาย ภายในงานวันเปิดกิจกรรม ได้รับเกียรติจาก คุณเม้าท์ – สุดา ชื่นบาน สาวเปรี้ยวเจ้าแม่แฟชั่นในยุคซิกซ์ตี้และการเป็นนักร้องไนต์คลับในสมัยนั้น คุณเอ๋ – ไพโรจน์ สังวริบุตร ผู้กำกับและนักแสดง และ คุณจิ๊บ – วสุ แสงสิงแก้ว ศิลปินผู้หลงใหลดนตรีและสีสันจากยุค 60’s ร่วมพูดคุยถึงความประทับใจที่ได้รับอิทธิพลจากยุค 60’s ณ มิวเซียมสยาม ท่าเตียน

นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (มิวเซียมสยาม) กล่าวถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ว่า “สำหรับเทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน Night at the Museum เป็นกิจกรรมพิเศษ ที่ให้ประชาชนเข้าชมพิพิธภัณฑ์และนิทรรศการต่างๆ ในช่วงค่ำคืน โดยจัดกิจกรรมและการแสดงมากมาย ซึ่งสอดแทรกความรู้ควบคู่ความสนุก และเปิดโอกาสให้ประชาชนชาวไทยได้เที่ยวชมพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน เกิดเป็นภาพลักษณ์ใหม่ที่ดีแก่คนรุ่นใหม่ ให้กลับมาสนใจท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์มากขึ้น สนับสนุนการท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์และแหล่งเรียนรู้ สานต่อการสร้างวัฒนธรรมการแหล่งเรียนรู้ผ่านพิพิธภัณฑ์ (Museum Culture) ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่กิจกรรมนี้ได้จัดอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 8 และยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมืออย่างดีเสมอมา

ในปีนี้ เราใช้ชื่อตอนว่า “Night Club” City in the Sixties : สีสันตะวันตกยุคหกศูนย์” ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากบางกอกในช่วงยุคซิกซ์ตื้ ซึ่งถือเป็นยุคที่มีสีสันมากที่สุด โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงของประเทศมากมาย ซึ่งหนึ่งในนั้นทหารอเมริกันที่เข้ามาในประเทศไทยได้นำวัฒนธรรมจากชาติตะวันตกเข้ามา จึงทำให้คนไทยได้รับอิทธิพลจนเป็นกลายเป็นรากฐานของวัฒนธรรมในปัจจุบัน ทั้งภาษา ดนตรี ภาพยนตร์ อาหาร และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งงาน Night at the Museum 8 ได้สร้างสรรค์เป็นนิทรรศการและกิจกรรมที่น่าสนใจพร้อมกับสอดแทรกเนื้อหาการเรียนรู้ให้ผู้ร่วมงานได้ค้นพบตัวตนความเป็นไทยอย่างสนุกสนาน”

ภายในงาน มิวเซียมสยามได้เนรมิตพื้นที่ให้กลายเป็นบางกอก ยุค 60’s พานักท่องเที่ยวทุกคนย้อนเวลาไปสัมผัสบรรยากาศแห่งสีสันตั้งแต่ก้ามเท้าเข้าสู่พื้นที่ ซึ่งผู้ร่วมกิจกรรมจะได้สัมผัสฟลอร์เต้นรำที่จำลองจากไนต์คลับดังแห่งยุค รวมถึงโซนนิทรรศการที่ได้รับนอกจากนี้ยังมีกิจกรรมและโซนต่าง ๆ อาทิ การเสวนาจากวิทยากรชื่อดัง, การฉายหนังกลางแปลง ชมภาพยนตร์สุดคลาสสิคที่ได้รับความนิยมในสมัยนั้น, รถคลาสสิคที่ถือว่าเป็นรถในฝันของเหล่านักสะสม, ร้านพิสมัยคาเฟ่ สถานบันเทิงที่หนุ่มสาวนัดกันเพื่อไปออกสเต็ป, ร้านค้าต่าง ๆ ที่จำลองแบบย้อนยุคให้เข้ากับบรรยากาศ ไม่ว่าจะเป็นบาร์เบอร์ร้านตัดผมชายและซาลอนร้านเสริมสวยของสุภาพสตรี ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปตัดผมหรือจัดแต่งทรงผมให้เข้ากับธีมงานได้, ร้านขายเสื้อผ้าในยุคซิกซ์ตี้, ร้านขายแผ่นเสียง, รวมถึงฟู้ดทรัคที่รวมอาหารจานเด็ดที่เกิดขึ้นในยุคนั้น

นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรพิพิธภัณฑ์ทั้ง 8 แห่ง ในการร่วมกันจัดเทศกาลท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ยามค่ำคืน Night at The Museum ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว, หอศิลป์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ, พิพิธภัณฑ์กษัตริย์เกษตร, พิพิธภัณฑ์เหรียญกษาปณานุรักษ์, พิพิธบางลำพู, พิพิธภัณฑ์อาคารสายสุทธานภดล, อนุสรณ์สถานแห่งชาติ และศูนย์สร้างสรรค์เยาวชน (กระจ่าง บริรักษ์นิติเกษตร) ซึ่งนอกจากจะเปิดให้เข้าชมพิพิธภัณฑ์ตอนกลางคืนแล้ว ยังมีการจัดกิจกรรมพิเศษรอต้อนรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย

ผู้ที่สนใจสามารถติดตามกิจกรรมต่าง ๆ ของ มิวเซียมสยาม หรือ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.museumsiam.org หรือ www.facebook.com/museumsiamfan หรือโทรศัพท์ 02 225 2777
  • ผู้โพสต์ :
    mazdarx7
  • อัพเดทเมื่อ :
    24 ธ.ค. 2018 14:12:20

ลงข่าวประชาสัมพันธ์ ฟรี คลิกที่นี่

 

X

เว็บไซต์เรามีการใช้คุกกี้ คลิกเพื่อดู นโยบายคุกกี้ และ นโยบายความเป็นส่วนตัว ของเรา