เป็นที่ทราบกันดีว่าไลฟ์สไตล์การทำงานของมนุษย์ออฟฟิศในปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง สาเหตุหลักมาจากการปรับตัวเข้าสู่โลกการทำงานในยุคดิจิตอลที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และคงปฏิเสธได้ยากว่าสื่อดิจิตอลรวมถึงโซเชียลมีเดียต่างๆนั้นกลายมาเป็นส่วนหนึ่งในการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันของคนยุคนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ยุคดิจิตอลทำให้การติดต่อสื่อสารและการเข้าถึงข้อมูลต่างๆมีความง่ายและสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น โดยคนสมัยนี้สามารถใช้ประโยชน์จากความสะดวกสบายดังกล่าวในการทำงาน เช่น ส่งอีเมล์จากที่บ้าน ประชุมหรือส่งงานผ่านกรุ๊ปไลน์ การติดตามข่าวสารการตลาดหรือธุรกิจผ่านสื่อโซเชียลมีเดียต่างๆ เป็นต้น แต่ความสะดวกสบายนี้ก็มาพร้อมกับความกดดันและความคาดหวังให้ก้าวทันเทรนด์ต่างๆที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ บางคนถึงกลับกล่าวว่าเพียงแค่หยุดอยู่กับที่เฉยๆก็อาจทำให้ล้าหลังคนอื่นแล้ว จึงไม่แปลกที่คนทำงานรุ่นใหม่จะมีชีวิตติดดิจิตอลและใช้เวลาบนโลกออนไลน์ผ่านเครื่องมือสื่อสารต่างๆไม่จะเป็นโทรศัพท์มือถือ แท็บเบล็ต โน้ตบุ๊ค และคอมพิวเตอร์มากเกินไป จนหลงลืมการให้เวลากับครอบครัวและดูแลตัวเอง
จากไลฟ์สไตล์ข้างต้นส่งผลให้มนุษย์ออฟฟิศยุคใหม่มีความเครียดสูง เพราะต้องทำงานติดต่อกันเป็นเวลานาน ใช้สายตามาก มีเวลาพักผ่อนน้อย ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ทานอาหารไม่ตรงเวลาหรือทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ซึ่งหากปล่อยละเลยหรือไม่ได้รับการป้องกันที่ทันท่วงทีจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคออฟฟิศซินโดรม เช่น โรคกรดไหลย้อน นิ้วล็อค หมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท กระเพาะปัสสาวะอักเสบ ฯลฯ ซึ่งสามารถสร้างความเสียหายต่อสุขภาพในระยะยาวและการใช้ชีวิตประจำวันได้
นอกจากนั้น ผลสำรวจคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่แบบ 360° ของ “ซิกน่า” ยังพบข้อมูลในทำนองเดียวกันด้วยว่า คุณภาพชีวิตของคนวัยทำงานซึ่งมีอายุระหว่าง 30 - 45 ปี ที่มักนั่งทำงานติดโต๊ะและต้องพบกับความเครียดสูงทั้งจากปัญหาการทำงานและชีวิตส่วนตัว มีคะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมที่ต่ำกว่ากลุ่มคนช่วงอายุอื่นโดยเฉพาะคะแนนด้านการงาน และคนกลุ่มนี้มีความเครียดที่ค่อนข้างสูง ซึ่งมากกว่า 88% ของคนกลุ่มนี้มีความเครียดที่เกิดจากความวิตกกังวลในเรื่องการทำงานหนักและการใช้เวลากับคนในครอบครัวที่ไม่เพียงพอ
ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันและเตรียมรับมือกับปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตเนื่องจากไลฟ์สไตล์ในการทำงานที่เปลี่ยนไป กลุ่มคนวัยทำงานยุคใหม่ต้องรู้เท่าทันและต้องหันกลับมาเตรียมตัววางแผนดูแลสุขภาพของตนเองให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในการทำงานยุคนี้ โดยการมองหาหลักประกันด้านสุขภาพที่ให้ความคุ้มครองครอบคลุมกลุ่มโรคยอดฮิตอย่างออฟฟิศซินโดรมซึ่งเป็นโรคที่เกิดมาจากไลฟ์สไตล์การทำงานของคนยุคใหม่อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ควรพิจารณา