ดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวกรับคืบหน้าวัคซีน ขณะจับตามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ
ณ เวลา 19.59 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์บวก 64 จุด หรือ 0.21% สู่ระดับ 30,234 จุด
ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวกว่า 100 จุดเมื่อวานนี้ ขณะที่ดัชนี S&P 500 และ Nasdaq แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้แรงหนุนจากคำสั่งซื้อหุ้นกลุ่มธุรกิจสุขภาพ ขานรับความคืบหน้าเกี่ยวกับการพัฒนาวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ขณะที่นักลงทุนยังคงจับตาการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐ รวมทั้งการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวเพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานของรัฐบาล (ชัตดาวน์)
แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันในวุฒิสภาสหรัฐได้หารือกันวานนี้เกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
อย่างไรก็ดี ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันเกี่ยวกับการจัดสรรเงินช่วยเหลือรัฐบาลท้องถิ่นในรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 โดยพรรคเดโมแครตต้องการให้มีการจัดสรรเงินสนับสนุนรัฐต่างๆ ในขณะที่พรรครีพับลิกันแสดงท่าทีคัดค้าน
ก่อนหน้านี้ นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ และนายมิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภา แสดงความหวังว่า สภาคองเกรสจะสามารถบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการออกกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ภายในวันที่ 11 ธ.ค.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายก่อนที่หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐจะเผชิญภาวะชัตดาวน์
นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนต.ค., ตัวเลขการเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) เดือนต.ค., จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย., ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน