เอสซีลอร์ ผู้ผลิตเลนส์แว่นตาคุณภาพสูงจากฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ทั่วโลก
จัดงาน “ฉลองครบรอบ 60 ปี เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟแบรนด์ วารีลักซ์”
โชว์ความเป็นผู้นำทั้งด้านนวัตกรรมสุขภาพดวงตาและความเชี่ยวชาญด้านเลนส์หลายโฟกัส
พร้อมเชิญผู้เชี่ยวชาญและคนดัง ร่วมเสวนาสุขภาพดวงตา ในหัวข้อ “ปัญหาและการดูแลสายตาในวัย 40+”
บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น (ประเทศไทย) จำกัดผู้นำระดับโลกด้านการออกแบบ การผลิต และการประกอบเลนส์แว่นตา จากฝรั่งเศสที่ได้รับความนิยมอันดับ 1 ทั่วโลก จัดงาน “ฉลองครบรอบ 60 ปี เลนส์แว่นตาโปรเกรสซีฟวารีลักซ์” ในฐานะผู้นำระดับโลกเรื่องโซลูชั่นสำหรับดวงตาที่มุ่งตอบโจทย์ทุกความต้องการในการมองเห็น ด้วยนวัตกรรมและความเชี่ยวชาญด้านเลนส์แว่นตา รวมถึงเครื่องมือตรวจวัดสุขภาพดวงตาและสุขภาพสายตา เพื่อการมองเห็นที่สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ภาพคมชัดทุกระยะ ปรับตัวง่าย เหมาะกับไลฟ์สไตล์ อายุ หรือกิจกรรมที่แตกต่างกันออกไป ร่วมด้วยเหล่าคนดังที่มาร่วมงานยินดีในโอกาสพิเศษนี้ อาทิ ภัทร จึงกานต์กุล, มิษฎา สุขกนิษฐ์, กัลยรัตน์ อัครเดชเดชาชัย เป็นต้น ณ ลานอีเดน ศูนย์สรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์
ดร. ศุภชัย อาชีวระงับโรค ผู้จัดการทั่วไป บริษัท เอสซีลอร์ ดิสทริบิวชั่น ประเทศไทย จำกัด กล่าวว่า ตลอด 60ปี เลนส์วารีลักซ์ยังคงความเป็นผู้นำในวงการเลนส์แว่นตา โดยเราจะไม่หยุดพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างการมองเห็นที่ดีขึ้นให้กับผู้คนทั่วโลก โดยจุดเริ่มต้นของเลนส์วารีลักซ์เกิดขึ้นเมื่อ 60 ปีที่ผ่านมา ณ ประเทศฝรั่งเศส เมื่อ นาย Bernard Maitenaz (แบร์นาร์ด เมเตอนาซ) ได้ปฏิวัติอุตสาหกรรมเลนส์แว่นตา ด้วยการสร้างนวัตกรรมเลนส์โปรเกรสซีฟ ที่มีชื่อว่า Varilux (วารีลักซ์) ซึ่งเป็นโซลูชั่นเลนส์ที่ให้ความคมชัดหลายระยะบนเลนส์ที่ไร้รอยต่อ ทั้งยังให้การมองเห็นที่สบายตา ตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านการมองเห็น และยังคงสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ ด้านโซลูชั่นเลนส์ที่หลากหลายออกมาอยู่เสมอๆ เช่น วารีลักซ์ รุ่นคอมฟอร์ท (Varilux Comfort) เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ได้ถูกพัฒนาด้านโครงสร้างเลนส์โดยคำนึงถึงเกณฑ์ด้านการยศาสตร์เพื่อให้ผู้ใช้ปรับการมองได้ง่าย และสบายตา หรือแม้แต่การปรับแต่งโครงสร้างแบบ Azio ให้เข้ากับดวงตาชาวเอเซีย เช่นเดียวกับนวัตกรรมล่าสุดในวารีลักซ์ รุ่นเอ็กซ์ ซีรี่ส์ (Varilux X Series) ซึ่งเป็นเลนส์โปรเกรสซีฟตัวแรกที่ให้ประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับการมองในระยะช่วงแขน ซึ่งเป็นระยะการมองสำหรับผู้ใช้งานยุค 4.0 อย่างแท้จริง จึงช่วยให้ผู้ใช้ลดการขยับศีรษะเพื่อหาโฟกัสที่ชัด และเพื่อให้มีท่าทางการมองที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
“ในฐานะที่เอสซีลอร์เป็นผู้นำอุตสาหกรรมเลนส์ระดับโลก นอกจากการพัฒนาเทคโนโลยีด้านเลนส์แล้ว ยังเน้นงานวิจัยพัฒนาเครื่องมือตรวจวัดเพื่อผู้ประกอบแว่นและผู้เชี่ยวชาญในการตรวจวัดสายตาทั่วโลกด้วย รวมทั้ง อุปกรณ์ตรวจวัดค่าสายตา สุขภาพดวงตา และพฤติกรรมการมองเห็น ตลอดจนเครื่องมือตัดประกอบแว่นตา เพื่อมอบประโยชน์แก่ลูกค้าของเอสซีลอร์ต่อไป ซึ่งเรามั่นใจว่า เลนส์วารีลักซ์จะยังคงได้รับความนิยมในกลุ่มผู้บริโภคและผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา และเป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคต้องการมากที่สุดเช่นปัจจุบัน1 และเป็นแบรนด์เลนส์โปรเกรสซีฟอันดับ 1 ของโลก” ผู้บริหารเอสซีลอร์ กล่าว
ไฮไลต์ในงานเป็นการจัดเสวนา ในหัวข้อ “ปัญหาและการดูแลสายตาในวัย 40+” โดย พญ. วชิรา สนธิไชย จักษุแพทย์ โรงพยาบาลรามาธิบดี, ดร. มายูมิ ฟาง ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา และอาจารย์พิเศษภาควิชาทัศนมาตรศาสตร์ ม.ราม และ ม.นเรศวร ร่วมด้วย เซเลบริตี้ชื่อดัง ได้แก่ คุณปริษา ปานะนนท์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด, คุณป๋อ-ณัฐวุฒิ สกิดใจ และ คุณพนิตนาฏ ฉัตรวิไล พิธีกร อาจารย์ และผู้ก่อตั้งสถาบัน The SpokenArts
ดร. มายูมิ ฟาง ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา และอาจารย์ภาควิชาทัศนมาตรศาสตร์ กล่าวถึงสาเหตุของสายตายาวตามวัยว่า เกิดจากกล้ามเนื้อเลนส์ตา ที่ควบคุมความโค้งของเลนส์เพื่อมองระยะใกล้ ไม่ยืดหยุ่นเท่าเดิม อาจจะเรียกว่า หย่อนไปตามวัย ยิ่งเพ่งมองใกล้ๆ หรือยิ่งใช้งานมากขึ้นยิ่งรู้สึกตาล้า โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของคนในยุคดิจิทัล ทั้งเพ่งจอมือถือ ดูคอมพิวเตอร์ ใช้จำนวนชั่วโมงมากขึ้น จอจ้า จอเล็ก ตัวเล็ก ทั้งหมดทำให้กล้ามเนื้อต้องเพ่ง ดังนั้น สิ่งที่จะบอกไปถึงคนรุ่นใหม่ทั้งหลาย พฤติกรรมดังกล่าวนี้จะทำให้สายตายาวตามวัยเร็วขึ้น เพราะสถิติล่าสุดพบว่าอายุ 37 ปี ก็เริ่มเข้าสู่ภาวะนี้แล้ว อาการที่เกิดขึ้นแน่นอนคือ ไม่สบายตา จากการมองใกล้ไม่ชัดเหมือนเดิม เนื่องจากเราต้องเพ่งมอง จึงทำให้เกิดอาการปวดเกร็งตา ปวดศีรษะ ตึงขมับ ท่านที่เป็นรุนแรงอาจปวดกล้ามเนื้อ ปวดไมเกรน ผู้ป่วยบางคนก็คิดว่าเป็นอาการออฟฟิศซินโดรม แต่พอตัดแว่นไปใช้ก็หาย หรือ บางรายอาจมีอาการด้านสุขภาพดวงตาอื่นๆร่วมด้วย มากน้อยต่างกันไป
“เราเลือกปักหมุดจุดเปลี่ยนของสุขภาพสายตาที่เลข 4 เพราะเป็นช่วงวัยที่เราจะเริ่มสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงของกำลังการมองเห็นที่ไม่ดีเหมือนเดิมได้ชัดเจนที่สุด แต่อย่างที่บอกไป คือยุคดิจิทัลนี้ บางท่านก็เริ่มมีอาการตั้งแต่เลข 3 ปลายๆ ซึ่งยิ่งเราได้เริ่มใช้เลนส์ที่เหมาะสมช่วยเสริมกำลังดวงตาได้เร็วเท่าไหร่ ก็เป็นการถนอมดวงตาได้เร็วขึ้น ที่แน่ๆ ดวงตาคนอายุ 20, 40, 60 ก็ไม่เหมือนกัน เช่น ความใสของเลนส์ตา หรือสภาพของจอประสาทตาก็มีการเสื่อมตามอายุ ซึ่งต้องอาศัยการตรวจสุขภาพดวงตาอื่นๆ ประกอบการวินิจฉัย เพราะบางกรณี เราแก้ความผิดปกติของดวงตาได้ด้วยเลนส์ แต่บางกรณีต้องใช้หัตถการทางแพทย์ร่วมด้วย”
ดร. มายูมิ ฟาง ยังให้ความรู้เรื่องเลนส์โปรเกรสซีฟว่า เลนส์โปรเกรสซีฟ คือ เลนส์หลายโฟกัส เนื่องจากเลนส์มีการออกแบบให้ค่าสายตาหลายๆ ค่า มาอยู่บนเลนส์เดียวแบบไม่มีรอยต่อ และมองได้ไหลลื่นทุกโฟกัส ผู้ใช้จึงต้องสร้างความเคยชินกับแต่ละระยะของเลนส์ เพื่อใช้ได้คล่อง ที่เรียกว่าต้องปรับตัว เพราะก่อนหน้านี้หลายปีนานมาแล้ว วิธีแก้ปัญหาสายตายาวตามวัย จะเป็นการใช้เลนส์แว่นตา 2 ชั้น ซึ่งมักจะประสบกับปัญหาในการใช้งาน เนื่องจากผลข้างเคียงของการกระโดดของค่าสายตา 2 ค่าที่แตกต่างกันบนเลนส์ จึงทำให้การมองผ่านเลนส์ชนิดนี้ไม่สบายตานัก และการดำเนินกิจกรรมประจำวันก็ไม่ไหลลื่นคล่องตัว
“การเลือกเลนส์ให้เหมาะสมกับสายตาและไลฟ์สไตล์ ปัจจุบันทำได้ไม่ยาก ก่อนอื่นต้องดู ไลฟ์สไตล์เพื่อรู้ลักษณะการใช้งานประจำวัน เช่น ใช้ดิจิทัลหนักมั้ย ต้องการกรองแสงสีน้ำเงินอันตราย หรือต้องการ UV protection เพราะเข้าออกที่ร่มกลางแจ้งบ่อยครั้งขนาดไหน มีอาการที่พบเวลาใช้สายตาอย่างไรบ้าง เช่น อาการแพ้แสงจ้า จะต้องปรับตาเวลาออกจากที่มืดไปที่สว่างกว่า หรือ บางคนมีปัญหาเวลาขับรถตอนกลางคืน จะพบว่าค่าสายตาตอนกลางคืน ไม่เท่ากับตอนกลางวัน เพราะรูม่านตาเซนซิทีฟต่อแสงมาก ปัจจุบันเรามีเครื่องมือตรวจวัดสายตา ที่เรียกว่า WAM เป็นสุดยอดเครื่องมือตรวจสุขภาพตาแบบครบจบในเครื่องเดียว ช่วยให้การวินิจฉัยสุขภาพดวงตาได้แม่นยำยิ่งขึ้น ส่วนในเคสที่มีค่าสายตาซับซ้อน หรือมีความผิดปกติทางสรีระดวงตาร่วมด้วย เราต้องคำนวณโครงสร้างเลนส์เฉพาะทางเพื่อสั่งผลิต จึงจะได้เลนส์ที่ใช้แล้วมีประสิทธิภาพสูงสุดในการมองเห็น ความสบายตา และการปกป้องดวงตา” ผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา กล่าว
ยิ่งกว่านั้น เพื่อเป็นการเฉลิมฉลอง 60 ปี เลนส์วารีลักซ์ ลูกค้าที่เลือกตัดเลนส์ Varilux ใส เลนส์ย่อบางเนื้อวัสดุ Airwear ขึ้นไป จะได้รับการอัพเกรด ฟรี! เพิ่มฟีเจอร์ตัดแสงสีน้ำเงินชนิดอันตราย ด้วยเทคโนโลยีล่าสุด แบบกรองแสงในเนื้อเลนส์ จึงทำให้เลนส์ยังคงความใส สวยงาม และสำหรับเลนส์ Varilux รุ่นเปลี่ยนสี Transitions ซึ่งมีฟีเจอร์ตัดแสงสีน้ำเงินในเนื้อเลนส์ ทุกเนื้อวัสดุ จะได้รับ กระเป๋าสะพายคาดแฟชั่น ฟรี! สามารถสอบถามโปรโมชั่น ทั้ง 2 รายการ เพิ่มเติมได้จากร้านแว่นตาที่ร่วมรายการ ตั้งแต่วันนี้ – 31 มีนาคม 2562 และพบกับกิจกรรมดีๆ ฉลองครบรอบ 60 ปี กับเลนส์วารีลักซ์จากเอสซีลอร์ ได้ตลอดทั้งปีนี้ ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม www.essilor.co.th
# # # # # #
เกี่ยวกับเลนส์วารีลักซ์ (Varilux)
Varilux เป็นเลนส์โปรเกรสซีฟชั้นนำของอุตสาหกรรมวงการเลนส์แว่นตา ที่ออกแบบโครงสร้างมาเพื่อแก้ไขการมองเห็นหลายระยะ ทั้งใกล้ กลาง และไกล บนเลนส์ที่ไร้รอยต่อ ตั้งแต่การริเริ่มผลิตคิดค้นเลนส์โปรเกรสซีฟรุ่นแรกในปี 1959 วารีลักซ์ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่อง ด้วยศาสตร์และศิลป์ที่มีผู้สวมใส่เป็นหัวใจของการค้นคว้าวิจัยตลอดมา ภายใต้การผลิตและพัฒนาคุณภาพ โดย เอสซีลอร์ ที่ยังคงมุ่งมั่นจะผลักดันอุตสาหกรรมเลนส์ให้ก้าวต่อไป พร้อมจะพัฒนาวิธีการแก้ไขปัญหาให้ตอบโจทย์ความต้องการด้านการมองเห็นในทุกช่วงวัยให้มากยิ่งขึ้นไปอีก จนถึงวันนี้ เอสซีลอร์ยังคงให้ความ สำคัญกับความต้องการของผู้สวมใส่มาเป็นอันดับแรก ร่วมกับการสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เพราะผู้สวมใส่ คือหัวใจของการพัฒนาเลนส์วารีลักซ์ จนถึงวันนี้ เลนส์กว่า 13,000 ล้านชิ้น ได้ถูกผลิตขึ้นจากการผสมผสานทุกความต้องการในการมองเห็นของผู้คน ไม่ว่าพวกเขาจะอาศัยอยู่ประเทศใดในโลกใบนี้
1. ผลการวิจัยโดย CSA กับกลุ่มตัวแทนผู้เชี่ยวชาญด้านสายตา 1,018 ท่าน ใน 10 ประเทศ: ฝรั่งเศส, สเปน, เยอรมนี, อิตาลี, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา, แคนาคา, บราซิล, อินเดีย, จีน เมื่อ ก.พ.-เม.ย. 2561