โปรแกรม Sculptra กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ปรับปรุงคุณภาพผิวให้แข็งแรงจากภายในสู่ภายนอก
แน่นอนว่าเมื่อคนเรามีอายุมากขึ้น สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปและสามารถสังเกตเห็นได้ง่าย ๆ ก็คงจะเป็นใบหน้าของเราที่เริ่มมีริ้วรอยเล็ก ๆ ผิวมีความหย่อนคล้อย ไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเมื่อก่อน ซึ่งสาเหตุเกิดจากการที่มีอายุมากขึ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของเราก็จะเริ่มลดลง โดยปกติร่างกายจะเริ่มสร้างคอลลาเจนลดลงตั้งแต่อายุประมาณ 20 ปีขึ้นไป และเมื่อมีอายุประมาณ 45 ปี การสร้างคอลลาเจนในผิวก็จะเริ่มลดน้อยลงมากขึ้น จึงทำให้สังเกตเห็นได้ชัดเจนว่าผิวมีความหย่อนคล้อยไม่กระชับเต่งตึงเหมือนเดิม เนื่องจากคอลลาเจนนั้นจะเป็นส่วนสำคัญในการช่วยพยุงโครงสร้างของผิว เมื่อคอลลาเจนลดลงก็จะทำให้ผิวหย่อนคล้อยและเสียรูปทรงได้
ปัจจุบันวงการแพทย์ด้านความงามจึงได้มีการพัฒนานวัตกรรมการฟื้นฟูผิวแบบใหม่ด้วยโปรแกรม Sculptra ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว ฟื้นฟูผิวตั้งแต่ภายในสู่ภายนอก ส่งผลทำให้ผิวกลับมาเรียบเนียน กระชับเต่งตึง ผิวแข็งแรง แลดูอ่อนกว่าวัยขึ้นนั่นเอง
“Sculptra มอบผิวใหม่ฉ่ำเด้ง คืนผิวเด็กแบบก้าวกระโดด กระตุ้นการสร้าง Collagen Type 1 ได้สูงถึง 66.5% ผลลัพธ์ยาวนานกว่า 2 ปี”
นวัตกรรม Sculptra คืออะไร? กระตุ้นคอลลาเจนให้ผิวได้อย่างไร?
Sculptra คือ อนุภาคของกรด Poly-L-Lactic Acid (PLLA) ซึ่งถือว่าเป็น The First & Original Collagen Biostimulator ตัวแรกของโลกที่มีคุณสมบัติเฉพาะตัวโดดเด่นไม่เหมือนใคร โดย Sculptra ได้ถูกนำมาใช้ทางการแพทย์ตั้งแต่ปี 1999 ซึ่งเป็นสารฉีดกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ในชั้นผิวตามกระบวนการธรรมชาติ เมื่อฉีดเข้าไปยังส่วนลึกของชั้นผิวหนังแท้อนุภาค PLLA จะกระจายไปทั่วผิว โดยอนุภาคขนาดเล็กของ PLLA จะทำหน้าที่เพิ่มปริมาณเซลล์ไฟโบรบาสต์ (Fibroblast) ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดของคอลลาเจนและช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิวภายใน ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิว ทำให้ผิวแน่นอิ่มฟู ยกกระชับบริเวณผิวหย่อนคล้อย ปรับปรุงคุณภาพผิวให้ดียิ่งขึ้น และยังช่วยให้ผลลัพธ์ที่ได้ก็ดูเป็นธรรมชาติแบบค่อยเป็นค่อยไปอย่างต่อเนื่อง
ทำความรู้จัก Collagen (คอลลาเจน) คืออะไร? มีความสำคัญต่อผิวอย่างไรบ้าง
- ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกทำความรู้จักกับกระบวนการทำงานของโปรแกรม Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ก่อนอื่นเรามารู้จักกับ Collagen (คอลลาเจน) องค์ประกอบสำคัญของผิวก่อน ซึ่งคอลลาเจนเป็นโปรตีนชนิดหนึ่งที่เป็นส่วนประกอบหลักของผิวหนัง โดยมีสัดส่วนสูงถึง 80% เป็นโครงสร้างสำคัญของเนื้อเยื่อต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นผิวหนัง กระดูก กล้ามเนื้อ เล็บ เอ็น และข้อ เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผิวหนัง ที่จะช่วยป้องกันรอยเหี่ยวย่น และผิวแก่ก่อนวัย
ความสำคัญของคอลลาเจนที่มีต่อผิวหนัง ได้แก่
- ช่วยรักษาสมดุลของน้ำและกักเก็บความชุ่มชื้นในชั้นผิว
- ช่วยลดเลือนริ้วรอย กระชับผิวให้เต่งตึง
- เสริมสร้างความยืดหยุ่นให้กับผิว และลดความหยาบกร้านของผิว
- ช่วยให้โครงสร้างชั้นผิวภายในมีความแข็งแรง
- ผลัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้ว
- ซ่อมแซมและฟื้นฟูเซลล์ผิวให้เจริญเติบโต
Collagen (คอลลาเจน) มีกี่ชนิด แต่ละชนิดช่วยเรื่องอะไร?
ในร่างกายของคนเราจะมีคอลลาเจนด้วยกันหลากหลายชนิด ซึ่งชนิดที่สำคัญสามารถพบได้บ่อยและควรรู้จักมีด้วยกัน 5 ชนิด และแต่ละชนิดก็มีความแข็งและยืดหยุ่นได้ดีแตกต่างกันออกไป ดังนี้
- คอลลาเจน Type 1 (Collagen Type I) เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบได้มากที่สุดในร่างกาย ซึ่งจะพบมากในผิวหนัง ผนังหลอดเลือด และเส้นเอ็น มีความแข็งแรงและยืดหยุ่นสูง ช่วยป้องกันไม่ให้เนื่อเยื่อฉีดขาด ทำให้ผิวกระชับ เรียบเนียน ไม่หย่อนคล้อย
- คอลลาเจน Type 2 (Collagen Type II) เป็นคอลลาเจนที่มีความยืดหยุ่นมากกว่า Type 1 ซึ่งจะพบมากในกระดูกและข้อต่อ ช่วยในการสร้างกระดูกอ่อน กระตุ้นการให้เกิดการสังเคราะห์เซลล์ใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งรองรับน้ำหนักและข้อต่อต่าง ๆ ทำให้ร่างกายเคลื่อนไหวสะดวก และลดการเสื่อมของกระดูกบริเวณข้อต่อ
- คอลลาเจน Type 3 (Collagen Type III) เป็นคอลลาเจนชนิดที่พบมากอยู่ในผิวหนัง กล้ามเนื้อ และหลอดเลือด ซึ่งมักพบร่วมกับคอลลาเจน Type 1 แต่พบในอัตราส่วนที่น้อยกว่า และไม่แข็งแรงเท่ากับคอลลาเจน Type 1 ซึ่งจะช่วยในการสร้างมวลกล้ามเนื้อ
- คอลลาเจน Type 4 (Collagen Type IV) เป็นคอลลาเจนที่มีความเฉพาะตัว พบมากในบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันที่หุ้มกล้ามเนื้อและไขมัน ช่วยในเรื่องการทำงานของระบบประสาทและเส้นเลือด
- คอลลาเจน Type 5 (Collagen Type V) เป็นคอลลาเจนที่พบในกระจกตา เส้นผม ผิวหนัง และในเนื้อเยื่อของทารกในครรภ์และรก ซึ่งคอลลาเจนชนิดนี้จะช่วยควบคุมการเจริญเติบโตของเส้นใยภายในชั้นผิว และช่วยจัดเรียงเซลล์ผิวให้เป็นระเบียบ
จะเห็นว่าคอลลาเจน Type 1 เป็นชนิดที่พบมากที่สุดในผิวหนัง และเป็นชนิดที่มีความสำคัญต่อผิวหนังที่ร่างกายของเราต้องการมากที่สุด แต่ยิ่งเรามีอายุมากขึ้นร่างกายก็จะผลิตคอลลาเจนได้น้อยลง โดยเมื่อเข้าสู่ช่วงอายุ 20 ปีขึ้นไป ร่างกายจะสูญเสียคอลลาเจนในชั้นผิว 1-2 % ต่อปี และเมื่ออายุ 45 ปี กระบวนการสร้างคอลลาเจนในผิวก็จะเริ่มลดน้อยลง ส่งผลให้ผิวเริ่มมีริ้วรอย ผิวไม่กระชับเหมือนเดิม ผิวแห้งกร้าน และมีร่องลึกมากขึ้น Sculptra จึงเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนในร่างกายของคนเราตามธรรมชาติเพิ่มมากขึ้น โดยตามผลการวิจัยจะสามารถกระตุ้นให้เกิดการผลิตคอลลาเจน Type 1 สูงถึง 66.5% หลังจากฉีดไปแล้ว 3 เดือนนั่นเอง
กระบวนการทำงานของ Sculptra เป็นอย่างไรบ้าง?
สำหรับ PLLA ใน Sculptra จะมาในรูปแบบผง PLLA Powder โดยจะบรรจุอยู่ภายในขวด ซึ่งกระบวนการทำงานเริ่มตั้งแต่ก่อนฉีดเข้าสู่ผิวหนัง มีดังนี้
- Sculptra จะต้องถูกผสมด้วย Sterile Water ก่อนฉีดเข้าสู่ผิวหนังชั้นลึก Subcutaneous
- เมื่อทำการฉีด Sculptra เข้าสู่ผิวหนังชั้นลึกแล้ว ตัวยาจะเริ่มกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอไปทั่วผิวบริเวณที่ฉีด
- ผิวบริเวณที่ฉีดจะดูเติมเต็มและอิ่มฟูทันทีหลังการฉีด Sculptra เนื่องจากปริมาตรน้ำที่ฉีดเข้าไป
- หลังจากฉีดไปแล้ว 2-3 วัน น้ำและส่วนประกอบต่าง ๆ ของตัวยาจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย โดยจะเหลือเพียงแค่อนุภาคของ Sculptra ซึ่งอาจจะทำให้เห็นร่องลึก หรือริ้วรอยกลับมาอีกครั้งหนึ่ง
- ต่อมา Sculptra จะเริ่มกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนผ่านระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย โดยดึงเซลล์ Macrophages มาล้อมรอบอนุภาคของ Sculptra จำนวนมาก และมีการส่งสัญญาณให้เซลล์ Fibroblast เข้ามารวมตัวกันและเพิ่มจำนวนมากขึ้น
- Fibroblast ซึ่งเป็นเซลล์ต้นกำเนิดที่สร้างเส้นใยคอลลาเจนตามธรรมชาติ โดยเฉพาะคอลลาเจน Type 1 ที่เป็นส่วนประกอบหลักของโครงสร้างผิวหนัง จึงทำให้ผิวมีความแข็งแรงและกระชับ
- หลังจากนั้นเมื่อเวลาผ่านไป อนุภาคของ Sculptra จะค่อย ๆ หายไป เหลือเพียงเส้นใยคอลลาเจนที่มาสะสมแทน จึงช่วยฟื้นฟูความแข็งแรงของโครงสร้างผิวหนัง และช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ในระยะยาว
- Sculptra สามารถฟื้นฟูสภาพผิวที่หย่อนคล้อย ขาด Volume ช่วยทำให้ผิวกลับมาอ่อนเยาว์มากขึ้น รวมทั้งช่วยยกกระชับใบหน้าและฟื้นฟูคุณภาพผิวยาวนานกว่า 25 เดือน
คุณสมบัติของ Sculptra ช่วยอะไรบ้าง?
- กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้ผิวอย่างเป็นธรรมชาติ
- ฟื้นฟูผิวชั้นลึก ปรับปรุงโครงสร้างผิวจากภายในให้แข็งแรง
- ช่วยเติมเต็มคอลลาเจนใต้ชั้นผิวให้เรียงตัวอย่างเป็นระเบียบและแน่นขึ้น
- ช่วยยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อย ให้กลับมาเต่งตึง
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยต่าง ๆ ให้ผิวเรียบเนียนขึ้น
- เติมเต็มริ้วรอยร่องลึกให้ตื้นขึ้น
- ช่วยให้ผิวกระจ่างใสและนุ่มชุ่มชื้น
- ผิวแข็งแรง ดูแน่นอิ่มฟู ไม่หยาบกร้า
Sculptra นวัตกรรมกระตุ้นคอลลาเจน ฉีดตรงไหนได้บ้าง
สามารถฉีดได้หลายตำแหน่งด้วยกัน โดยหลัก ๆ จะนิยมทำการฉีดบริเวณ ขมับ หน้าแก้ม (Midface) ใต้โหนกแก้มด้านข้าง กรอบหน้า นอกจากนี้ยังมีบริเวณที่ไม่แนะให้ฉีดเข้าไปตรง ๆ ในบางตำแหน่ง ได้แก่ บริเวณหน้าผาก, จมูก, ใต้ตา, ร่องแก้ม, ปาก, ร่องน้ำหมาก เป็นต้น
ผลลัพธ์หลังทำ Sculptra®
ผลลัพธ์ของการทำโปรแกรม Sculptra ผิวของเราจะค่อยๆ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ชั้นผิวอย่างต่อเนื่อง โดยจะเริ่มสังเกตเห็นผลลัพธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของผิว ดังนี้
- รู้สึกถึงผิวที่ตึงกระชับขึ้น
- ผิวหน้ากระจ่างใสขึ้น
- ผิวแน่น อิ่มฟู ดูเรียบเนียน
- บริเวณของผิวที่ขาด volume จะค่อยๆ เต็มขึ้น
- ริ้วรอยลดเลือนลง และรอยยับบนใบหน้าตื้นขึ้น
- ผิวแข็งแรงขึ้น มีความยืดหยุ่นดีขึ้น
ขั้นตอนการฉีด Sculptra มีวิธีการอย่างไรบ้าง
- เข้ารับการประเมินปัญหาและสภาพผิวกับแพทย์ก่อนทำการฉีดจริง
- ก่อนทำการฉีด แพทย์จะแปะยาชาเป็นเวลาประมาณ 30-45 นาที เพื่อช่วยลดอาการแสบในขณะที่ฉีด
- ระหว่างรอยาชาแพทย์จะทำการเตรียม Sculptra ให้อยู่ในรูป Active form โดยการผสม Sculptra เข้ากับ Sterile water เพื่อพร้อมใช้งาน
- แพทย์จะทำการฉีด Sculptra ที่พร้อมใช้แล้วลงใต้ชั้นผิว 1.5-2 เซนติเมตร ด้วยเข็มทู่ขนาด 22-25 G ซึ่งจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนได้ดีที่สุด
- เมื่อฉีดเสร็จอาจมีรอยเข็ม และมีอาการบวมซึ่งเป็นเรื่องปกติที่สามารถเกิดขึ้นได้ หลังจากนั้นแพทย์จะแนะนำวิธีการดูแลตัวเอง และวิธีการนวดหน้าเพื่อให้ยากระจายตัวได้ดียิ่งขึ้น
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Call Center : 02-259-1555
Facebook : https://www.facebook.com/SparshaOfficialAccount
Line : https://page.line.me/@sparsha
Instagram : https://www.instagram.com/SparShaThailand/
TikTok : https://www.tiktok.com/@sparshathailand