กรุงเทพฯ –ฝ่ายเทคโนโลยีอาคาร จัดงานสัมมนา “Bosch Building Technologies 2019”เปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ และแสดงเทคโนโลยีล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Security, Safety และ Communications เน้นโซลูชันสำหรับอาคารอัจฉริยะ สมาร์ตซิตี และอุตสาหกรรม 4.0 ตอกย้ำเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำทางด้าน IoT ณ ซี อาเซียน อาคารไซเบอร์เวิลด์
นายเอกรินทร์ วัชรยิ่งยง ผู้จัดการทั่วไป แผนกเทคโนโลยีอาคาร บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดงานสัมมนา “Bosch Building Technologies 2019” ในวันที่ 4 กรกฎาคม 2562 ณ ซี อาเซียน อาคารไซเบอร์เวิลด์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเปิดตัวผลิตภัณฑ์รุ่นใหม่ และแสดงเทคโนโลยีล่าสุดในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Security, Safety และ Communications โดยเน้นโซลูชันสำหรับอาคารอัจฉริยะ สมาร์ตซิตี และอุตสาหกรรม 4.0 เพื่อตอกย้ำเป้าหมายสู่การเป็นผู้นำทางด้าน IoT ดังนโยบายที่บริษัทฯวางแผนไว้ ภายในงานมีดีลเลอร์และกลุ่มผู้ที่สนใจให้ความสนใจเข้าร่วมงานกว่า 300 คน
ภายในงานประกอบด้วย
หน่วยธุรกิจ Security Systems เปิดตัวผลิตภัณฑ์และซอฟต์แวร์ที่ให้อิสระในการควบคุม และสร้างความแตกต่างในการนำเสนอโซลูชัน
(1) ผลิตภัณฑ์กล้องวงจรปิดชนิดโดมรุ่น FLEXIDOME IP starlight 8000i ถูกออกแบบให้ผู้ติดตั้ง หรือเจ้าของโครงการสามารถปรับเปลี่ยนมุมกล้องได้อย่างอิสระผ่านโปรแกรม เว็บเบราว์เซอร์ หรือแอปพลิเคชันในอุปกรณ์เคลื่อนที่อัจฉริยะ (Smart mobile device) นอกจากนี้ ในตัวกล้องยังมีเทคโนโลยี starlight และระบบวิเคราะห์ภาพอัจฉริยะ (IVA)
(2) Camera Trainer เป็นนวัตกรรมใหม่ของกล้อง Bosch ที่สามารถสอนให้กล้องเรียนรู้และแยกแยะวัตถุใหม่ๆตามที่ผู้ใช้งานต้องการได้ โดยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี Machine Learning
(3) Intelligent Insight ซอฟท์แวร์โมดูลที่รวบรวมข้อมูล Metadata โดยการวิเคราะห์ภาพจากกล้องหลากหลายตัว นำมาแสดงผลข้อมูลในรูปแบบ Dashboard Web Widget เพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถนำข้อมูลดังกล่าวไปประยุกต์ใช้ เพื่อวางแผนการบริหาร พัฒนา และสร้างโอกาสทางธุรกิจต่อไป
(4) Bosch Video Management Systems ซอฟท์แวร์บริหารจัดการระบบกล้องวงจรปิดที่มีเสถียรภาพและมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายเพื่อให้การรักษาความปลอดภัยกับองค์กรได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประหยัดต้นทุนการเป็นเจ้าของระบบ (TCO – Total Cost of Ownership)
(5) Access Management System ซอฟต์แวร์บริหารจัดการระบบควบคุมการเข้าออกอาคารที่ทำงานร่วมกับระบบ Bosch Video Management Systems ได้ และสอดคล้องตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (GDPR)
หน่วยธุรกิจ Safety Systems นำเสนออุปกรณ์และซอฟต์แวร์อัจฉริยะในกลุ่มผลิตภัณฑ์แจ้งเตือนอัคคีภัย เพื่อตอบโจทย์โครงการต่างๆทางด้านความปลอดภัย ช่วยประหยัดต้นทุนของโครงการ และบำรุงรักษาระบบได้ง่าย
(1) Software Systems Designer (SSD) ซอต์ฟแวร์ที่ช่วยผู้ออกแบบประมาณการณ์จำนวนอุปกรณ์ ตรวจสอบระบบสาย แรงดัน และกระแสไฟฟ้าที่ใช้ในระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย
(2) Smart Evacuation เป็นการทำงานร่วมกันของระบบแจ้งเตือนอัคคีภัย และระบบเสียงประกาศเพื่อการอพยพฉุกเฉินได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดตามมาตรฐาน EN54
(3) AVIOTEC เทคโนโลยีกล้องตรวจจับ แยกแยะควันและเพลิงไหม้ได้อย่างรวดเร็ว และแม่นยำภายในอาคารที่เป็นพื้นที่เสี่ยง
(4) Remote Services เป็นซอฟต์แวร์การจัดการดูแลภาพรวมระบบ ตรวจสอบดูแลรักษา และบำรุงรักษาจากระยะไกล
หน่วยธุรกิจ Communications นำเสนอผลิตภัณฑ์ระบบสื่อสารผ่านไอพีอย่างเต็มรูปแบบที่ให้เสียงคุณภาพสูง มีความเสถียรสูง และมีความปลอดภัย
(1) ระบบเสียงประกาศสาธารณะแบบไอพี รุ่น PRAESENSA มาพร้อมกับเทคโนโลยีการบริหารจัดการเสียงผ่านระบบไอพีที่มีความยืดหยุ่นในการออกแบบอุปกรณ์ประกาศเสียง และเครื่องขยายสัญญาณเสียงไปยังแต่ละพื้นที่ได้ตามความต้องการ และรองรับการใช้งานได้หลากหลายรูปแบบ
(2) ระบบชุดประชุม DICENTIS Series เป็นระบบชุดประชุมดิจิทัลที่ทำงาน
ผ่านระบบไอพีที่ให้คุณภาพเสียงคมชัด ง่ายต่อการควบคุมและตรวจสอบระบบการประชุม พร้อมทั้งมีระบบ Encryption ข้อมูล ทำให้ระบบการประชุมมีความปลอดภัย
(3) ระบบชุดประชุม DICENTIS Interpreter desk ระบบชุดประชุมสำหรับการแปลภาษารุ่นใหม่ล่าสุดที่ใช้ร่วมกับระบบชุดประชุม DICENTIS ผ่านระบบไอพี รองรับการใช้งานแปลภาษาได้มากกว่า 100 ภาษา การันตีคุณภาพและการออกแบบผลิตภัณฑ์ยอดเยี่ยม 2 รางวัลจาก Red Dot Award 2018 และ iF Design Award 2018
เทคโนโลยีและโซลูชันจากผลิตภัณฑ์ของ Bosch ช่วยยกระดับมาตรฐานทางด้านความปลอดภัยและการสื่อสารในอาคารและโครงสร้างเมืองต่างๆในอนาคตได้อย่างสมบูรณ์ในโลกยุค IoT ตามสโลแกนของบริษัทที่ว่า “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต”
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ www.boschsecurity.com/th
info.security@th.bosch.com
ข้อมูลประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม:
บริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จำกัด
จิตสุภา มะโนทัย
ผู้จัดการฝ่ายการตลาด
โทร. +66 2012 8707
อีเมล jitsupam@th.bosch.com
เกี่ยวกับบ๊อชในประเทศไทย
บ๊อชได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในประเทศไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2466 ปัจจุบัน บ๊อชสร้างความหลากหลายในธุรกิจถึงสี่ด้าน ได้แก่ โซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน เทคโนโลยีอุตสาหกรรม สินค้าอุปโภคบริโภค และเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร บริษัทมีโรงงานผลิตในธุรกิจโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อนถึงสามแห่ง พร้อมทั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา อีกทั้งสำนักงานขายและศูนย์บริการสำหรับอุปกรณ์ไฮดรอลิกและเครื่องจักรในจังหวัดระยอง ในปีที่ผ่านมา บ๊อชในประเทศไทยมีพนักงานกว่า 1,500 คน
ข้อมูลเพิ่มเติม http://www.bosch.co.th และ https://www.facebook.com/BoschThailand.
เกี่ยวกับกลุ่มบ๊อช
กลุ่มบริษัทบ๊อช ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเทคโนโลยีและบริการชั้นนำของโลก มีพนักงานทั่วโลกกว่า 410,000 คน (ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2561) ปี 2561 บริษัทมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 78.5 พันล้านยูโร โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น 4 กลุ่มธุรกิจสำคัญได้แก่ กลุ่มโซลูชั่นส์แห่งการขับเคลื่อน กลุ่มเทคโนโลยีอุตสาหกรรม กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มเทคโนโลยีพลังงานและอาคาร ในฐานะผู้นำทางด้าน IoT (Internet of Things) บ๊อชนำเสนอนวัตกรรมแห่งโซลูชั่นส์เพื่อบ้านอัจฉริยะ เมืองอัจฉริยะ ยานยนต์ และอุตสาหกรรมที่สามารถเชื่อมต่อถึงกัน ด้วยความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีเซนเซอร์ ซอฟท์แวร์ และการให้บริการ รวมถึงไอโอทีคลาวด์ของบ๊อช เราจึงสามารถให้บริการโซลูชั่นส์ที่เชื่อมต่อแบบข้ามโดเมนได้เบ็ดเสร็จจากแหล่งเดียว เป้าหมายกลยุทธ์ของเรา คือการส่งมอบนวัตกรรมและสร้างแรงบันดาลใจเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อถึงกัน ผลิตภัณฑ์และบริการทั้งหมดได้รับการออกแบบมาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต โดยการเสนอคำตอบที่ล้ำสมัยและเป็นประโยชน์ที่นับได้ว่าเป็น “เทคโนโลยีเพื่อชีวิต” กลุ่มบ๊อช ประกอบด้วยบริษัท โรเบิร์ต บ๊อช จีเอ็มบีเอช และบริษัทในเครืออีกกว่า 460 บริษัท รวมถึงสำนักงานระดับภูมิภาคในประเทศต่าง ๆ อีกกว่า 60 ประเทศ หากรวมบริษัทคู่ค้าผู้จัดจำหน่ายและให้บริการต่าง ๆ ทั้งส่วนการผลิต งานวิศวกรรม และเครือข่ายด้านการขาย บ๊อชจะครอบคลุมอยู่เกือบทุกประเทศทั่วโลก พื้นฐานสำคัญสำหรับการขยายตัวในอนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่งด้านนวัตกรรม บริษัทจึงมีพนักงานในส่วนการวิจัยและพัฒนากว่า 68,700 คน ในศู นย์วิจัยกว่า 130 แห่งทั่วโลก
ข้อมูลเพิ่มเติม www.bosch.com, www.iot.bosch.com, www.bosch-press.com, www.twitter.com/BoschPresse.