เจาะลึกเทรนด์บน LINE Ads Platform รับวิถีการทำโฆษณายุคใหม่
ผลพวงจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ตอกย้ำความสำคัญของ Digital Transformation มากขึ้น หลายแพลตฟอร์มเกิดขึ้นและเติบโต สามารถตอบสนองความต้องการด้านดิจิทัลที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น ไม่เว้นแม้แต่วงการโฆษณาที่มุ่งเน้นพัฒนาสื่อดิจิทัลมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ส่งผลให้นักการตลาดและนักวางแผนโฆษณาต่างหันมาจับจ้องและมองหา Advertising Platform ที่แข็งแกร่ง ตอบโจทย์ลูกค้าได้จริง คุ้มค่าแก่การทุ่มเงินลงทุนมากที่สุด
LINE เป็นอีกหนึ่งเป้าหมายสำคัญของสื่อโฆษณาดิจิทัล ด้วยจุดยืนในการเป็น Platform of Trust มีผู้ใช้งานมากกว่า 50 ล้านคนเชื่อใจและผู้คนใช้เวลาไปกับ LINE อย่างต่อเนื่องเฉลี่ยมากถึง 67 นาทีต่อวัน พร้อมจุดแข็งของ LINE Ecosystem ที่พรั่งพร้อมไปด้วยบริการมากมาย รวมถึงเครื่องมือและโซลูชั่นทางการตลาดที่ถูกออกแบบให้เข้าถึง และเข้าใจคนไทย LINE จึงสามารถเป็น “สื่อกลาง” เชื่อมโยงผู้คนกับสินค้าและบริการของแบรนด์ต่างๆ ทั้งเพื่อสร้างการรับรู้ ตลอดจนปิดการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ล่าสุด LINE ได้เปิดเผยข้อมูลสุดเอ็กซ์คลูซีฟ เจาะลึกเทรนด์การเปลี่ยนแปลงบน LINE Ads Platform หรือ LAP ช่องทางการลงโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ในช่วงปีที่ผ่านมา เพื่อให้เห็นแนวทางของการทำโฆษณาบนสื่อดิจิทัล ทั้งในมุมมองการลงทุนสื่อโฆษณา พฤติกรรมผู้บริโภค และความสนใจของผู้ใช้งาน อีกทั้ง ยังชี้ให้เห็นแนวโน้มทิศทางการตลาดดิจิทัลในยุคเปลี่ยนถ่ายสู่ไลฟ์สไตล์แบบ Now Normal ที่มีประโยชน์สำหรับนักการตลาดโดยตรง
Marketer ต้องรู้...สื่อ Video View มาแรงเกินต้าน
จากอิทธิพลของสถานการณ์โควิด-19 ทำให้ปัจจุบันแบรนด์ต่างๆ เลือกลงโฆษณาบนสื่อดิจิทัลกันมากขึ้น โดยเฉพาะ LINE Ads Platform หรือ LAP ช่องทางการซื้อโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE ที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี สอดคล้องกับผู้เชี่ยวชาญการตลาดหลายสำนักต่างฟันธงว่า การลงโฆษณาบนสื่อดิจิทัลได้กลายมาเป็นสื่อหลักในการสร้างการรับรู้ และการซื้อขายของคนในยุค Now Normal ไปแล้ว และจะเป็นเช่นนั้นไปตลอดถึง Next Normal อย่างแน่นอน
โดย LINE พบสถิติที่น่าสนใจของกลุ่มธุรกิจที่ทุ่มงบการตลาดลงโฆษณาบน LINE Ads Platform ในช่วงปีที่ 2021 ที่ผ่านมา คือธุรกิจการศึกษาที่มีการเติบโตแบบก้าวกระโดดมากกว่า 400% นอกจากนั้นยังพบว่ากลุ่มช้อปปิ้งและอีคอมเมิร์ซยังคงเป็นแชมป์ครองตลาดอันดับหนึ่ง ในขณะที่กลุ่มอาหารเสริม อาหารเพื่อสุขภาพ (Health Food) เป็นอีกกลุ่มที่ทะยานขึ้นมาติด Top 5 แทนที่ธุรกิจกลุ่มฟิตเนสและสถานบริการความงาม (Fitness & Medical Service) ซึ่งได้รับผลกระทบโดยตรงจากมาตรการป้องกันโควิด-19 ที่ผ่านมา อีกทั้งยังปรากฏข้อมูลว่าลักชัวรีแบรนด์ต่างปรับตัวเพื่อเอาชนะวิกฤติ เปลี่ยนมาใช้จ่ายในการลงโฆษณาเพิ่มขึ้นผ่าน LAP ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ในการลงโฆษณาบน LAP อันเป็นที่นิยม 3 อันดับยังคงเป็น การโฆษณาเพื่อเพิ่มเพื่อน (Gain Friends) การโฆษณาเพื่อให้เกิดยอดขายบนเว็บไซต์ (Web Conversions) และการโฆษณาเพื่อเยี่ยมชมเว็บไซต์ (Website Visit) โดยในปี 2021 การลงโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์ Website Visits กลับมามีบทบาทเติบโตเพิ่มมากขึ้นอีกครั้งหลังจากเติบโตลดลงในปี 2020 เนื่องจากหลายแบรนด์ได้กลับมาให้ความสำคัญกับหน้าร้านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นหน้าสินค้าที่สร้างผ่าน MyShop หรือเว็บไซต์ของตนเองในช่วงโควิดที่ผ่านมา ในขณะที่การลงโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์เพิ่มเพื่อนยังคงมีอัตราเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นวัตถุประสงค์ยอดนิยมอันดับ 1 มาโดยตลอด สอดคล้องกับผลสำรวจของ LINE ที่พบว่าในปี 2021 มีการซื้อขายผ่านแชตมากกว่าบนเว็บไซต์ถึง 15 เท่า ซึ่งคีย์เวิร์ดสำคัญที่ทำให้ลูกค้าชอบซื้อของผ่าน LINE มาจากลักษณะเฉพาะตัวของช่องทางแชต ทำให้ผู้ขายสามารถมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดกับผู้ซื้อได้มากกว่า จึงทำให้เกิดการซื้อขายบนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
และที่น่าสนใจไปกว่านั้น LINE ยังเห็นการเปลี่ยนแปลงของการลงโฆษณาด้วยวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มการรับชมวิดีโอ (Video Views) ที่มีการเติบโตสูงขึ้นมากใน 2 ปีที่ผ่านมา และมีเปอร์เซ็นต์การเติบโตสูงที่สุดในปีนี้ถึง 180% สะท้อนให้เห็นชัดว่า “Video Views” กำลังเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่จะมีบทบาทกับนักการตลาดและ LINE ต่อไปในอนาคต”
เตรียมรับมือ ผู้สูงวัย รับรู้ไว คลิกซื้อคล่อง
สำหรับมุมมองที่จะสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมและความสนใจของผู้บริโภคนั้น LINE ได้เผยข้อมูลสำคัญให้เห็นว่าในปีนี้ โฆษณาที่เกี่ยวกับบริการด้านการช่วยเหลือ (Supportive Services) ทั้งบริการด้านการเงิน หรือโครงการช่วยเหลือต่างๆ มียอดอัตราการคลิก (CTR) สูงสุดในปี 2021 แทนที่กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน 2 ปีก่อนหน้านี้ ตามมาด้วยสื่อโฆษณาของสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาตัวเอง และสินค้าตกแต่งบ้านใช้ในครัวเรือน ตามลำดับ ในขณะที่โฆษณาเกี่ยวกับสินค้าลักชัวรี เช่น ยานยนต์ อสังหาริมทรพัย์ ก็มาแรง ติดเป็น 1 ใน 5 อันดับโฆษณาที่มีอัตราการคลิกสูงสุดใน 2 ปีของการแพร่ระบาดโควิด
กลุ่มช่วงอายุของผู้บริโภคที่มีการคลิกโฆษณาบนแพลตฟอร์ม LINE มากที่สุดในปี 2021 คือ กลุ่มสูงวัย (Baby Boomer) และกลุ่มเด็กอายุ 15-19 ปี (Gen Z) ซึ่งแม้กลุ่มสูงวัยจะมีปฏิสัมพันธ์หรือ Engagement กับโฆษณาน้อยลงในแต่ละปี ด้วยอัตราเติบโตของการคลิกลดลงในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตรงกันข้ามกับกลุ่มเด็กที่มีอัตราการคลิกเติบโตขึ้นมาโดยตลอด แต่กลุ่มสูงวัยกลับเป็นกลุ่มที่มีอัตราการซื้อสินค้าและบริการจากการคลิกโฆษณาเพิ่มขึ้นทุกปี และสูงที่สุดในปีนี้ เมื่อเทียบกับกลุ่มเด็กที่อาจจะยังไม่มีกำลังซื้อ ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มผู้บริโภคสูงวัยเริ่มคุ้นเคยกับโลกออนไลน์มากขึ้น จนมีการเลือกคลิกโฆษณาที่พวกเขาสนใจจริงๆ และจะตัดสินใจซื้อสินค้ากับแบรนด์ที่ตอบโจทย์เท่านั้น
ดังนั้น นอกจากแบรนด์จะต้องปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ต่างๆ อย่างทันท่วงทีแล้ว นักการตลาดควรเตรียมพร้อมสร้างสรรค์สื่อโฆษณารับกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะผู้สูงวัยแต่เนิ่นๆ ตลอดจนเตรียมรูปแบบและวิธีการตอบคำถามที่เหมาะสมกับผู้ใช้งานกลุ่มนี้ให้สามารถเข้าถึงสินค้าได้ง่าย ส่วนกลยุทธ์ในการเลือกใช้สื่อโฆษณา จำเป็นต้องตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าจริงๆ และเชื่อมโยงกับโซลูชั่นหรือเครื่องมือต่างๆ อย่างเหมาะสม พร้อมข้อมูลที่ครบถ้วน มีประโยชน์ ใช้งานง่าย และให้ประสบการณ์ที่ดี ซึ่งทั้งหมดนี้จะส่งผลให้ผู้ขายสามารถปิดการขายได้และขับเคลื่อนธุรกิจให้มีการเติบโตที่ยั่งยืนได้บนโลก Now Normal
พื้นที่หลากหลาย วางโฆษณาให้ได้ตรงทาร์เก็ต
เมื่อ LAP มีตำแหน่งหรือพื้นที่ในการนำเสนอสื่อโฆษณามากมาย ตามบริการที่หลากหลายบนแพลตฟอร์ม ซึ่งแต่ละบริการ ต่างทำหน้าที่เป็นพื้นที่ในการนำเสนอสื่อโฆษณา ทำให้เกิดการรับรู้ถึงสินค้าหรือแบรนด์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพแตกต่างกันออกไป นักการตลาดจึงควรศึกษาและทำความเข้าใจบุคลิกของผู้ใช้งานในแต่ละบริการอย่างลึกซึ้ง เพื่อวางแผนการลงสื่อโฆษณาให้ตรงจุด ไม่ว่าจะเป็น
ข้อมูลอัพเดทใหม่แกะกล่องทั้งหมดนี้ ไม่เพียงเป็นแนวทางให้นักการตลาดนำไปใช้ตอบโจทย์ทุกธุรกิจ เท่าทันเทรนด์การตลาดดิจิทัลใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในโลก Now Normal แต่ยังเป็นข้อมูลตอกย้ำให้นักการตลาดยุคใหม่เห็นถึงเครื่องมือโฆษณาที่ทรงประสิทธิภาพอย่าง LINE Ads Platform ที่จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างไม่พลาดเป้า และสามารถสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจได้อย่างยั่งยืน